WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET26ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบจำกัด เม็ดเงินไหลเข้ายังหนุนตลาด

   นักวิเคราะห์ฯคาดดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ มีโอกาสปรับขึ้นแต่จะอยู่ในกรอบจำกัด จากเงินทุนไหลเข้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจะเป็นโมเมนตัมช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ แต่การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วทำให้มี valuation ค่อนข้างแพง และดัชนีขยับเข้าใกล้เป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1,380-1,400 จุดแล้ว ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจจะขายทำกำไรออกมา ซึ่งจะทำให้การปรับขึ้นของดัชนีอยู่ในกรอบที่ไม่มากนัก โดยมองแนวรับบริเวณ 1,345 และแนวต้านที่ 1,380 จุด

   นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดว่าดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นได้จากโมเมนตัมที่ยังได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าที่มีอย่างต่อเนื่อง และความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนนี้

       แต่การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมากว่า 100 จุดในช่วงเวลากว่า 2 สัปดาห์ จนทำให้ดัชนีขยับเข้าใกล้เป้าหมายปีนี้ที่ระดับ 1,380-1,400 จุดแล้ว ทำให้มี upside ค่อนข้างน้อย อีกทั้งมี valuation ที่ค่อนข้างแพง แม้จะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในช่วงนี้แต่เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติยังมียอดขายสุทธิอยู่กว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจจะขายทำกำไรออกมา และจะทำให้การปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะยังอยู่ในกรอบจำกัด

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,345 และแนวต้านที่ 1,380 จุด

     ด้านบล.ธนชาต ระบุว่า หุ้นบมจ.ปตท.(PTT)จะขึ้น XD 4 บาท/หุ้นในวันนี้ คาดว่าจะมีผลต่อ SET เพียง 1.25 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,899.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.24 จุด (+0.20%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,703.42 จุด เพิ่มขึ้น 13.83 จุด (+0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,986.45 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด (+0.41%)

       - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 50.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 78.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.05 จุด

        - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มี.ค.59) 1,365.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.36 จุด (+1.36%)

       - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,587.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค.59

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มี.ค.59) ปิดที่ 34.66 ดอลลาร์/บาร์เรล บวก 26 เซนต์ หรือ 0.8%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.59) ที่ 6.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด  35.51 แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์

     - สถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อรายย่อย หลังแนวโน้มหนี้ครัวเรือนเพิ่ม-เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ระบุความสามารถ ชำระหนี้ลดลง ด้านเฟิร์สช้อยสั่งระงับ ใช้ทันทีหากค้างชำระ 2 เดือน ขณะคลังเตรียมออกมาตรการแก้หนี้นอกระบบ สั่ง"ธ.ก.ส.-ออมสิน" ร่วมแก้ปัญหาถาวรคาดได้ข้อสรุปภายในเดือน มี.ค.นี้ ชี้รัฐบาลเอาจริง นายทุนปล่อยกู้นอกระบบ

      - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบอนุมัติสิทธิประโยชน์ของการ จัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) เพิ่มเติม ตามที่กรมสรรพากรเสนอ โดยให้มีการยกเว้นภาษีรายรับจากค่าธรรมเนียมที่ IHQ ได้รับจากบริษัทในเครือ จากเดิมที่ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ สำหรับรายรับจากการให้กู้ยืมแก่วิสาหกิจในเครือเท่านั้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเห็นว่ายังมีข้อจำกัด กรมสรรพากรจึงได้แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างแท้จริง

     - นายซาโตชิ นากาโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนโครงสร้างเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ที่รัฐบาลเตรียมขายหน่วยลงทุนในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งบริษัทได้ติดตามข้อมูลรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง และมีการเตรียมเงินไว้ลงทุนจำนวนหนึ่งแต่ไม่ขอเปิดเผย

      - นายโนริโอะ ยามางุจิ ประธานคณะกรรมการวัฒนธรรมและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-อาเซียน เปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมว่า นักลงทุนญี่ปุ่นโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย (เอสเอ็มอี) มีความสนใจลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจับตามองไทยว่าจะสามารถยกระดับการพัฒนาให้ขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนได้หรือไม่ ทั้งนี้จากการรับฟังแนวนโยบายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้ญี่ปุ่นทราบถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทย จนมั่นใจว่าไทย-ญี่ปุ่นจะเกิดความร่วมมือร่วมกันด้านต่างๆ ในอนาคต

     -สมคิดตั้ง 4 คณะทำงานย่อย ดึงซีอีโอระดับหัวกะทิช่วยขับเคลื่อนจูงใจต่างชาติ ลงทุนกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย อาหาร การเกษตรขั้นสูง เทคโนโลยีชีวภาพ พร้อมโชว์ เดือน ม.ค.มียอดเอฟดีไอกว่า 20,000 ล้าน เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ด้านอมตะลั่นพร้อมหนุนนโยบายรัฐ

*หุ้นเด่นวันนี้

      - IRPC (ไอร่า) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท/หุ้น คาด Q1/59 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าค่าการกลั่นดีเซลจะลดลง แต่ค่าการกลั่นเบนซินยังอยู่ในระดับสูง และอาจจะมีขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเพียงเล็กน้อย ขณะที่โครงการปรับปรุงโรงกลั่น (UHV) คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางเดือน มี.ค.59 จะทำกำไรให้กับ IRPC ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท โดยประมาณการกำไรปี 59 อยู่ที่ 10,454 ล้านบาท

       - INTUCH (ซีไอเอ็มบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 60 บาท/หุ้น โดยการประชุมระหว่าง Mr. Philip Tan CEO คนใหม่ของ INTUCH และ ผู้จัดการกองทุน 15 ท่าน ในสิงคโปร็์ ซึ่ง Mr. Philip ตั้งเป้าให้ INTUCH เป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้าน digital life solutions ขณะที่ซีไอเอ็มบีฯ คาดว่ากำไรในในปี 59 จะถูกกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มธุรกิจมือถือ ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว และคาดว่าหากมีการคืนไลเซนส์ของ JAS จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้น

      - BRR (ไอร่า) แนะ"ซื้อ"เป้าหมาย 16.30 บาท/หุ้น โดยมองว่าคาดว่าราคาน้ำตาลทรายโลกที่อาจฟื้นตัวหลังมองว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลโลกเข้าสู่ภาวะขาดดุลและปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายที่คาดว่าเพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการเติบโต และรวมทั้งคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 2%

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ รับข้อมูลจ้างงานสหรัฐ, ราคาน้ำมันดีดตัว

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนก.พ. ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 1% เมื่อเวลาประมาณ 9.55 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,695.78 จุด ลดลง 50.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,847.33 จุด ลดลง 2.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,082.01 จุด เพิ่มขึ้น 78.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,569.05 จุด เพิ่มขึ้น 25.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,957.83 จุด เพิ่มขึ้น 10.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,735.42 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,694.08 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด

      ทั้งนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

      นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 5.82 จุด จากวิตกผลประกอบการเอกชน

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการเอกชน หลังไอทีวีเปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้ลดลง

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลดลง 5.82 จุด หรือ 0.09% ที่ 6,147.06 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลดลงจากระดับปิดสูงสุดของปีนี้ที่ทำไว้เมื่อวานนี้ จากการปรับตัวลดลงของหุ้นบลูชิปหลายตัว โดยหุ้นเรคคิทท์ เบงไคเซอร์ กรุ๊ป และหุ้นยูนิลีเวอร์ ต่างก็ปรับตัวลดลงมากกว่า 1.3% ซึ่งฉุดดัชนี FTSE 100 ปิดขยับลง

    สำหรับข่าวธุรกิจ หุ้นไอทีวีลดลง 3.5% หลังจากบริษัทคาดว่า รายได้สุทธิจากค่าโฆษณาของบริษัทอาจจะทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิมในไตรมาสแรกของปีนี้

     หุ้นดาร์ตี้ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกรายใหญ่พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทสไตน์ฮอฟฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ เอ็นวี กรุ๊ป ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของบริษัท

    หุ้นเอเมค ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ พุ่งขึ้น 9.8% หลังบริษัทสามารถหาแหล่งเงินกู้ใหม่ได้

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงซื้อหุ้นแบงก์,เหมืองแร่ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และรายงานที่ระบุว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนก.พ.

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.7% ปิดที่ 340.97 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,424.89 จุด เพิ่มขึ้น 18.05 จุด หรือ +0.41% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,776.62 จุด เพิ่มขึ้น 59.46 จุด หรือ +0.61% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.06 จุด ลดลง 5.82 จุด หรือ -0.09%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่นั้น อาร์เซลอร์มิททัล และหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 6.7% หุ้นริโอทินโต ปรับขึ้น 2.3% และหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่งขึ้น 4%

    ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคาร หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ปรับขึ้น 3.2%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้น 0.3% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

   นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเดือนนี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 34.24 จุด รับข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนก.พ. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,899.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.24 จุด หรือ +0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,703.42 จุด เพิ่มขึ้น 13.83 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,986.45 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด หรือ +0.41%

       ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกหลังจากที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆตลอดทั้งวัน โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดนั้นมาจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

    นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 0.8% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

      หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 1.8% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 23% ส่วนหุ้นมาราธอน ออยล์ และหุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 11%

   หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.7% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.1%

     นักลงทุนติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค.

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!