WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET35ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นบวกตามภูมิภาค เล็งกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ขึ้น

    นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะอยู่ในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวก หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปออกมาดี และสหรัฐฯก็น่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ต่างก็ปรับตัวขึ้น ทำให้น่าจะมีแรงเก็งกำไรตามราคาน้ำมันได้ต่อเนื่อง

      อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาจากความคาดหวังในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้นตลาดฯจึงเป็นลักษณะของการเทรดดิ้งไปก่อน ซึ่งเป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแนะนำเทรดดิ้งหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นที่ยัง Laggard ไม่ว่าจะเป็น BBL, CPALL โดยเฉพาะ CPALL มองว่าบริษัทฯมีการเติบโตที่ดี เพียงแต่ตอนนี้ติดในแง่ของภาพพจน์ผู้บริหารเท่านั้น แต่ก็ยังซื้อได้

    พร้อมให้แนวรับ 1,285 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300-1,315 จุด หากทะลุแนว 1,315 จุด จะเป็นภาพขาขึ้นที่ชัดเจน

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,453.83 จุด พุ่งขึ้น 257.42 จุด (+1.59%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,534.07 จุด เพิ่มขึ้น 98.11 จุด (+2.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,926.82 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด (+1.65%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 301.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 484.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 47.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 32.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.48 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.พ.59)  1,288.47 จุด ลดลง 0.89 จุด (-0.07%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,901.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.พ.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.พ.59) ปิดที่ 30.66 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 5.6%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.พ.59) ที่ 6.43 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.60/61 คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.55-35.65

      - เอเชียจุก ส่งออก ม.ค. ร่วงหลายประเทศ เปิดผลประชุม กนง. กรรมการห่วงบาทแข็ง-เสนอลดดอกเบี้ยช่วยเศรษฐกิจ, สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ลดลง 9.9% ในช่วงเดือน ม.ค. ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และย่ำแย่ต่อเนื่องจากเดือน ธ.ค. ที่ปรับตัวลง 7.2% โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนลดลงถึง 25.2% ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

     - นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน ม.ค. ซึ่งสำรวจใน 44 กลุ่มอุตสาหกรรม 1,202 ราย พบว่าปรับตัวลดลงมาแทบทุกกลุ่มอยู่ที่ระดับ 86.3 จากเดือนธ.ค. 2558 ที่เคยอยู่ในระดับ 87.5 ถือเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่ความเชื่อมั่นคาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า ก็ลดลงอยู่ระดับ 100.8 จาก 102.7

     - กนง.ห่วงปัจจัยต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า พบความเสี่ยงด้านต่ำมีมากขึ้นในอนาคต แจงคงดอกเบี้ยหวังป้องกันพฤติกรรมเก็งกำไรและเก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น

    - สรรพสามิตตีปีกอานิสงส์ขึ้นภาษีบุหรี่ แถมน้ำมันรถยนต์หนุนจัดเก็บปีงบ 59 ทะลุเป้าแตะ 5 แสนกว่าล้านบาท ประเมิน 5-10 ปีข้างหน้า จัดเก็บทะลักแตะ 8 แสนล้านบาท หลังประเมินการบริโภคฟื้นตัวแรงตามภาวะเศรษฐกิจ

      - กระทรวงคมนาคมเตรียมชงครม.เดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทางปลาย ก.พ.นี้ หวังผลักดันการพัฒนาระบบราง ระบบโลจิสติกส์ของประเทศ และลดต้นทุนขนส่งสินค้า

*หุ้นเด่นวันนี้

   - INTUCH (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 60 บาท รายงานกำไรสุทธิสูงกว่าที่คาด 8% และสูงกว่าตลาดคาด 15%, บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2.47 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend payout 100% และเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 9% พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 59-61 ลง และปรับราคาเป้าหมายลง สะท้อนการแข่งขันที่สูงในกลุ่ม โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อ AIS และ Thcom สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะยาว โดยราคาหุ้นจะถูกกดดันจากคาดหวังเกี่ยวกับการเข้ามาในธุรกิจของ JAS

    - SPRC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 13.9 บาท กำไรสุทธิ 4Q58 สูงกว่าประมาณการ 20% และ consensus 6% เพราะค่าการกลั่นสูงกว่าคาดและขาดทุนจากสินค้าคงเหลือลดลง ผลดีจากมาร์จินเบนซินที่แข็งแกร่งและต้นทุนน้ำมันดิบต่ำผลักดันผลประกอบการ 4Q25 และปี 2558 แม้ผลประกอบการจะแข็งแกร่งใน 4Q58 แต่ยังคงประมาณการกำไรในปี 2559-2560 เพราะคาดว่าค่าการกลั่นจะลดลงตามสเปรดน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยเงินปันผล 2 บาทต่อหุ้นในปี 2558 ช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของ SPRC

    - AMATA (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 16 บาท จากราคาหุ้นที่ถูก และการขยายไปเวียดนาม ทั้งนี้ผลประกอบการ 4Q58 อยู่ที่ 182.6 ล้านบาท -60%qoq และ -89%yoy จากรายได้และอัตรากไรขั้นจากการขายที่ดินที่อ่อนแอกว่าคาด ยอดการโอนที่ดินอยู่ที่ 264 ไร่ คงที่ qoq แต่ลดลง yoy (643 ไร่ 4Q57) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินหดตัวลงเป็น  47.9% จาก 58.6% 3Q58 และ 62.2% 4Q57 เนื่องมาจากไม่มีการขายที่ดินจากโครงการอมตะนครซึ่งมีมาร์จิ้นสูงแล้ว โดยคาดว่าการขายที่ดินจะดีขึ้นในปี 2559 เป็น 857 ไร่ จาก 613 ไร่ในปีก่อน

     - LHBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 1.87 บาท รายงานกำไรที่น่าประทับใจในปี 2558 ไปแล้ว (+37% Y-Y) โดยคาดกำไรปีนี้จะโตสูงต่อเนื่อง +28% Y-Y จากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมหลังหันมารุกด้าน Trade finance และ private banking มากขึ้น อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีโอกาสสูงที่ LHBANK จะเพิ่มทุน 4-5 พันล้านบาทเพื่อให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14.5% จากปัจจุบันที่ 10% ซึ่งอาจเป็นลบต่อราคาหุ้น

     - ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16.70 บาท คาดกำไรปี 2558 โตสูง 65% Y-Y แม้ว่า 4Q58 จะชะลอก็ตาม และคาดโตต่อเนื่อง 8% Y-Y ในปีนี้จากฐานลูกค้าที่มี เพิ่มเติมด้วยการลงทุน 4G ประมาณการ ยังมี upside หากโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐกลับมา โดยชอบการเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจท่อเหล็กร้อยสายไฟที่ทำให้แทบไม่ถูกกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอ

     - VGI (เคจีไอ) "สะสม"เป้า Consensus 3.92 บาท ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงตามภาวะตลาดฯ แต่รีบาวด์กลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.2 บาทได้ ในเชิงพื้นฐานแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด ปีนี้จะได้สื่อโฆษณาในธุรกิจสายการบินที่กำลังเป็นขาขึ้นมาช่วยหนุน (ชดเชยการขายหายไปของรายได้สื่อใน Modern trade)

ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวเช้านี้ รับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 1.6% แตะ 119.56 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,138.08 จุด เพิ่มขึ้น 301.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,881.78 จุด เพิ่มขึ้น 14.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,409.21 จุด เพิ่มขึ้น 484.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,261.74 จุด เพิ่มขึ้น 47.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,909.40 จุด เพิ่มขึ้น 25.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,646.68 จุด เพิ่มขึ้น 32.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,665.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด

    ทั้งนี้ นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน ประกาศว่า อิหร่านจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 168.15 จุด ขานรับราคาน้ำมันฟื้น

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเมืองแร่ ขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

    ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 168.15 จุด หรือ +2.87% ที่ระดับ 6,030.32 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 17% หุ้นอันโตฟากัสตา และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 7% ซึ่งต่างก็ผลักดันดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

     หุ้นเกลนคอร์ทะยานขึ้น 17% หลังจากบริษัทได้ลงนามในการกู้ยืมเงินรอบใหม่เพื่อทดแทนสินเชื่อหมุนเวียน (revolving credit) ในปัจจุบัน

      ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยหุ้นบาร์เคลย์ส และหุ้นเอเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ ต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4.2%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหุ้นพลังงาน,เหมืองแร่ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่อย่างคึกคัก หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.6% ปิดที่ 328.77 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,233.47 จุด พุ่งขึ้น 122.81 จุด หรือ +2.99% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,377.21 จุด เพิ่มขึ้น 242.10 จุด หรือ +2.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,030.32 จุด เพิ่มขึ้น 168.15 จุด หรือ +2.87%

   หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 10% หุ้นลันดิน ปิโตรเลียม ปรับขึ้น 5% และหุ้นซีดริล ทะยานขึ้น 7.7%

    ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 17%

   ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 7% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า อิหร่านได้ประกาศสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก

    ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ โดยชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปกได้เดินทางไปยังอิหร่าน เพื่อหวังโน้มน้าวให้อิหร่านเห็นพ้องในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 257.42 จุด ขานรับราคาน้ำมันดีดแรง

            ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ทำสถิติปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนม.ค.

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,453.83 จุด พุ่งขึ้น 257.42 จุด หรือ +1.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,534.07 จุด เพิ่มขึ้น 98.11 จุด หรือ +2.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,926.82 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +1.65%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% และปิดที่เหนือระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากที่นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่านประกาศว่า อิหร่านจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก

    ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ โดยชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปกได้เดินทางไปยังอิหร่าน เพื่อหวังโน้มน้าวให้อิหร่านเห็นพ้องในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน

     ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นทันทีที่มีการแถลงความร่วมมือจากอิหร่าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในความผันผวน เนื่องจากอิหร่านแสดงท่าทีว่าจะไม่สนับสนุนแผนการจำกัดการผลิตน้ำมัน เพราะอิหร่านต้องการเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยจำนวนที่ขาดหายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร

       นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2%

      ด้านผลการสำรวจของ Investors Intelligence (II) ระบุว่า จำนวนที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นสหรัฐ ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 26.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 24.7% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

      หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน นำโดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป พุ่งขึ้น 4.1% หุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี และหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 11%

     หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป และหุ้นเฟซบุ๊ก อิงค์ พุ่งขึ้นอย่างน้อย 2.6% ขณะที่หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ปรับขึ้น 5.7% และหุ้นอินเทล คอร์ป ดีดตัวขึ้น 2.4%

      นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17ก.พ.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,453.83 จุด                         เพิ่มขึ้น 257.42จุด      +1.59%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,534.06 จุด                      เพิ่มขึ้น 98.10จุด       +2.21%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,926.82 จุด                       เพิ่มขึ้น 31.24จุด       +1.65%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,030.32 จุด                   เพิ่มขึ้น 168.15จุด      +2.87%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,377.21 จุด                            เพิ่มขึ้น 242.10จุด      +2.65%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,233.47 จุด                        เพิ่มขึ้น 122.81จุด      +2.99%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,938.40 จุด     ลดลง 23.20จุด        -0.47%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,882.10 จุด           ลดลง 27.90 จุด        -0.57%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,214.25 จุด                          เพิ่มขึ้น 2.18จุด        +0.03%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,836.36 จุด                    ลดลง 218.07จุด       -1.36%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,883.94 จุด                        ลดลง 4.36จุด         -0.23%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,867.34 จุด                     เพิ่มขึ้น 30.77จุด       +1.08%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,756.82 จุด             เพิ่มขึ้น 12.87จุด       +0.19%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 18,924.57 จุด                              ลดลง 197.51จุด       -1.03%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,765.51 จุด     เพิ่มขึ้น 20.51จุด       +0.43%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,664.32 จุด                      ลดลง 0.67จุด         -0.04%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,613.79 จุด                      ลดลง 30.79จุด        -1.16%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 23,381.87 จุด                        เพิ่มขึ้น 189.90จุด      +0.82%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ทำสถิติปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนม.ค.

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,453.83 จุด พุ่งขึ้น 257.42 จุด หรือ +1.59%ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,534.07 จุด เพิ่มขึ้น 98.11 จุด หรือ +2.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่1,926.82 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +1.65%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่อย่างคึกคัก หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.6% ปิดที่ 328.77 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,233.47 จุด พุ่งขึ้น 122.81 จุด หรือ +2.99%ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,377.21 จุด เพิ่มขึ้น 242.10 จุด หรือ +2.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,030.32 จุด เพิ่มขึ้น 168.15 จุด หรือ +2.87%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเมืองแร่ ขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ

          ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 168.15 จุด หรือ +2.87% ที่ระดับ 6,030.32 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนม.ค.

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 5.6% แตะที่ระดับ30.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ปีนี้

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 2.32ดอลลาร์ หรือ 7.2% แตะที่ระดับ 34.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ 

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 3.2ดอลลาร์ หรือ 0.26% แตะที่ระดับ 1,211.40 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 4.3 เซนต์ หรือ 0.28% แตะที่ระดับ 15.377ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 1.32% แตะที่ระดับ949.70 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 6.30 ดอลลาร์ หรือ 1.2% แตะที่ระดับ515.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความกังวลว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรั

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1132 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1142ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4280 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4291 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.83 เยน จาก 113.88 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9916 ฟรังก์ จาก 0.9883 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7172 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7101 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 307.00 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, +1.99%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!