WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET8 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามตปท.หลังราคาน้ำมันพุ่ง, แบงก์ในยุโรป-สหรัฐฯเรียกความเชื่อมั่น

        นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกกัน ยกเว้นตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นไต้หวันที่ติดลบหลังหยุดในช่วงตรุษจีนทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา


        ทั้งนี้ เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรง และทางแบงก์ต่างประเทศทั้งจากสหรัฐฯ และยุโรป พยายามที่จะดำเนินการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา อย่าง "ดอยช์แบงก์"ก็จะมีการซื้อหุ้นกู้ และทางประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ"เจพี มอร์แกน"ก็จะซื้อหุ้นของบริษัทฯตนเอง ตรงนี้จึงทำให้ตลาดสหรัฐฯกลับมารีบาวด์ขึ้นได้

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 4/58 ของไทยที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งตลาดฯคาดเติบโต 2.4% แต่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเติบโต 2.2% ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ดัชนีฯก็อาจรีบาวด์ได้ไม่ดี

พร้อมให้แนวรับ 1,270-1,275 จุด ส่วนแนวต้าน 1,285 ถัดไปก็ 1,290-1,295 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด (+2.00%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด (+1.66%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด (+1.95%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 295.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 78.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 349.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 86.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 22.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 26.00 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.91 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.พ.59) 1,276.49 จุด ลดลง 4.25 จุด (-0.33%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 988.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.พ.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ก.พ.59) ปิดที่ 29.44 ดอลลาร์/

บาร์เรล บวก 3.23 ดอลลาร์ หรือ 12.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.พ.59) ที่ 7.56 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.57/59 อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไร ติดตาม GDP ไทยเช้านี้
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของไต้หวัน ยกระดับคำเตือนการเดินทางมายังประเทศไทยเป็นระดับ 2 หรือระดับตื่นตัวต่อความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสซิกา ภายหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิ้ลยูเอชโอ) ประกาศว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

- ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานยอดสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 1.01 ล้านบัญชี หรือ 8.6% มียอดสินเชื่อคงค้าง 3.24 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.18 ล้านบาท หรือ 3.8% ซึ่งสะท้อนความต้องการหมุนเงินเพิ่มขึ้น

- นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้เชื้อเพลิงในภาคขนส่งเดือน ม.ค. 2559 ว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่องส่งผลให้การใช้เชื้อเพลิงภาคขนส่งเปลี่ยนแปลง โดยผู้ที่ใช้รถยนต์ติดตั้งก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ได้เปลี่ยนไปใช้น้ำมันแทน ในขณะที่การติดตั้งใหม่แทบไม่เกิดขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้แอลพีจีและเอ็นจีวีลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

- สนช.นัดถกงบกลางปี 18 ก.พ.นี้การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 18 ก.พ. มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท (งบกลางปี)สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ

- นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2558 ในวันที่ 15 ก.พ. 2559 แม้ว่าจะออกมาต่ำกว่าไตรมาสก่อน หรือต่ำกว่า 3% ก็ไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและแรงขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2559

- ธปท.เผยเอ็นพีแอลสูงสุดในปี 59 จากนั้นจะทยอยลดลงมา แต่ต้องใช้เวลาประเมินแนวโน้มสินเชื่อโตมากกว่า 4.3% หนุนปล่อยกู้ประมูล 4จี โครงการลงทุนรัฐ และเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าปีก่อน รับธนาคารในระบบยังคงระมัดระวังปล่อยกู้ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและอุปโภคบริโภค ส่วนปัญหาสถาบันการเงินยุโรปกระทบแบงก์ไทยน้อย

*หุ้นเด่นวันนี้
- ASEFA (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 7 บาท ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมา ใกล้ทดสอบแนวต้านเทรนไลน์ที่บริเวณ 5.7 บาท คาดมีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับหลักดังกล่าว ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 ทรงตัว QoQ (มีโอกาสทรงตัว แม้งานเต็ม เพราะเป็น Low season) แต่ยังคงประเมินกำไรปีนี้ทำนิวไฮต่อเนื่อง (โต +17% YoY) จากการขยายกำลังการผลิตและ Mega trend ของอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ราคาเหล็กในประเทศช่วงไตรมาส 1/58 คาดฟื้นตัวจากอุปทานตึงตัว และการชะลอนำเข้าเหล็ก ซึ่งจะเป็นบวกต่อ Sentiment ในธุรกิจการรื้อโรงไฟฟ้าของ ASEFA (ประมูลรื้อโรงไฟฟ้าบางปะกง นำเศษเหล็กมาขายต่อมูลค่ารวม 400 ล้านบาท)

- LIT (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 12.4 บาท กำไรไตรมาส 4/58 (Low season) นิวไฮที่ 19.8 ล้านบาท (+47% yoY และ 10% QoQ) ดีกว่า Consensus คาด 10% และคาด Earnings momentum ปีนี้ยังมีโอกาสทำนิวไฮต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/59 เป็นอย่างน้อย ทั้งนี้วันศุกร์ถูกแรงขายทำกำไรหลังรายงานงบออกมา และภาวะตลาดฯ ขณะที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยปีละ 30% หากคำนวณเป้าพื้นฐานโดยใช้วิธี PEG 1 เท่าจะได้เป้าพื้นฐานราว 10.6 บาท พร้อมประเมินแนวรับ 8.2 บาท (Stop loss 8.0 บาท)

- TOP (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า บาท ด้วยปัจจัยหนุน (1) มี upside ราว 8 บาท จากโครงการ LABIX และ TOPSPP 239 MW ซึ่งจะทยอย COD ในช่วง 2Q59 (2) เงินปันผล 2H58 อยู่ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ทั้งปี 4.52% (XD 24 ก.พ) (3) แนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นยังสดใส แม้ค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลถูกกดดันจากปริมาณส่งออกจีนที่เพิ่มขึ้น สำหรับผลการดำเนินงาน 4Q58 มีกำไรสุทธิ 3,749 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจาก (1) อัตรากำไรธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีฟื้นตัวอย่างมีนัย (2) กำไรจาก oil hedging จำนวน 1,053 ล้านบาท (3) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ จำนวน 318 ล้านบาท รับรู้ Market GRM ที่ 8.5 +28%QoQ และ  Accounting GIM ที่ 7.5 เหรียญฯ +141%QoQ ตามลำดับ

- TVO (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 26.50 บาท เนื่องจาก PE ต่ำเพียง 10.3 เท่าปีนี้และ 9.4 เท่าปีหน้า ขณะที่คาด Dividend yield สูงถึง 8-9% ต่อปี แม้จะคาดว่ากำไรปกติ 4Q15 จะแผ่วลง 68.6% Q-Q และ 51.1% Y-Y เป็นกำไรต่ำสุดของปี และทำให้กำไรปกติปี 2015 หดตัว 5.7% Y-Y เพราะราคาถั่วเหลืองที่ตกต่ำ มุมมองราคาถั่วเหลืองปีนี้ยังเป็นกลางเพราะยัง Oversupply แต่กำไรของ TVO จะโตจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปดีดตัว

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้แสดงความพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 2% แตะ 115.27 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,248.38 จุด เพิ่มขึ้น 295.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,684.96 จุด ลดลง 78.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,668.87 จุด เพิ่มขึ้น 349.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,976.65 จุด ลดลง 86.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,857.33 จุด เพิ่มขึ้น 22.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,565.95 จุด เพิ่มขึ้น 26.00 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,652.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.91 จุด

 ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 170.63 จุด หลังตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างปรับตัวดีขึ้น

     ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด หรือ +3.08%

     หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่งขึ้น 14% เนื่องจากซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า ธุรกิจส่งสัญญาณขยายตัวแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างด้านการบริหารจัดการ

   ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน, หุ้นเกลนคอร์, หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอ ทินโต พุ่งขึ้นกว่า 8.4%

   ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541 และหุ้นบาร์เคลย์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป:หุ้นยุโรปปิดบวก รับข่าวดอยช์แบงก์เล็งซื้อคืนหุ้นกู้

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังมีข่าวว่าธนาคารดอยช์แบงก์เตรียมซื้อคืนหุ้นกู้บางส่วน ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นดอยช์แบงก์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

       ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 98.35 จุด หรือ +2.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,967.51 จุด เพิ่มขึ้น 214.64 จุด หรือ +2.45% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด หรือ +3.08%

         ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคาร หลังดอยช์แบงก์ออกแถลงการณ์ว่าธนาคารจะซื้อคืนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ของธนาคารจำนวนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของดอยช์แบงก์ปรับตัวขึ้นกว่า 10% รวมถึงหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ที่พุ่งขึ้นเกือบ 18%

      ดอยช์แบงก์ ระบุว่า ทางธนาคารจะทำคำเสนอซื้อหุ้นกู้ไม่มีประกันสกุลยูโรมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.38 พันล้านดอลลาร์) และทำคำเสนอซื้อหุ้นกู้สกุลดอลลาร์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4

    สำหรับ ทั้งปี 2015 เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 1.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 แต่ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับที่จะสามารถลดอัตราการว่างงานลง ซึ่งขณะนี้อยู่สูงกว่า 10%

     ทั้งนี้ เศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน มีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 เช่นเดียวกัน

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 313.66 จุด รับราคาน้ำมันฟื้นตัว

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีความพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด หรือ +2.00% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด หรือ +1.66% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด หรือ +1.95%

       ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวก หลังนายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด อัล-มาซรูเอ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันร่วมกับกลุ่มผู้ส่งออกรายอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อไป

       ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 3.23 ดอลลาร์ หรือ 12.3% ปิดที่ 29.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ หรือ 11% ปิดที่ 33.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

      นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดการณ์ ช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

      ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าร่วงลง 1.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 7 เดือน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ราคานำเข้าเดือนม.ค.จะลดลง 1.4%

       สำหรับ ในช่วงสัปดาห์นี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 1.4% ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.8% และดัชนี Nasdaq ปรับลง 0.6%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.พ.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด, +2.00%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด, +1.66%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด, +1.95%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 98.35 จุด, +2.52%        

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,967.51 จุด เพิ่มขึ้น 214.64 จุด, +2.45%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด, +3.08%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 22,986.12 จุด เพิ่มขึ้น 34.29 จุด, +0.15%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,643.74 จุด ลดลง 0.21 จุด, -0.01%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,539.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด, +0.07%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,714.39 จุด ลดลง 61.47 จุด, -1.29%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 18,319.58 จุด ลดลง 226.22 จุด, -1.22%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,654.45 จุด ลดลง 8.98 จุด, -0.13%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,835.28 จุด ลดลง 26.26 จุด, -1.41%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,952.61 จุด ลดลง 760.78 จุด, -4.84%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,765.30 จุด ลดลง 55.80 จุด, -1.16%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,816.60 จุด ลดลง 54.30 จุด, -1.11%

        ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีความพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด หรือ +2.00% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด หรือ +1.66% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด หรือ +1.95%

        ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) เนื่องจากได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังมีข่าวว่าธนาคารดอยช์แบงก์เตรียมซื้อคืนหุ้นกู้บางส่วน ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นดอยช์แบงก์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 2.9% ปิดที่ 312.41 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 98.35 จุด หรือ +2.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,967.51 จุด เพิ่มขึ้น 214.64 จุด หรือ +2.45% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด หรือ +3.08%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างปรับตัวดีขึ้น

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด หรือ +3.08%

       สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,239.40 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.4 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 15.79 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 958.10 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.55 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 527 ดอลลาร์/ออนซ์

      สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) ขานรับคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ก่อให้เกิดความหวังว่าผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถจับมือกันลดกำลังการผลิต เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น    

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 3.23 ดอลลาร์ หรือ 12.3% แตะที่ 29.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ หรือ 11% แตะที่ 33.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

      ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินเยนเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.24 เยน จากระดับ 112.21 เยน ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9758 ฟรังค์ จากระดับ 0.9711 ฟรังค์

          ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1338 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4515 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4472 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นแตะระดับ 0.7103 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7096 ดอลลาร์สหรัฐ

      ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 291.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด, +0.34%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!