- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 10 February 2016 12:38
- Hits: 1556
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง หลัง Sentiment โดยรวมไม่ดี-หลักมาจากตปท.
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คงจะปรับตัวขึ้นได้ยาก เนื่องจาก Sentiment โดยรวมไม่ดี โดยมาจากต่างประเทศเป็นหลัก หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 30 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ ก็จะมีผลกระทบต่อการลงทุนหุ้นกลุ่มน้ำมันทั่วโลก จึงเป็นปัจจัยลบให้กับตลาดฯ
อีกทั้ง ยังสร้างความกังวลให้กับกลุ่มแบงก์ในยุโรปด้วย ในเรื่องหนี้เสียที่ปล่อยให้กับกลุ่มพลังงาน ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะเพิ่มทุนหรือตั้งสำรองฯเพิ่มได้ โดยในเดือนมี.ค.ทางประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาระบุว่าจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งก็อาจเป็นการซื้อพันธบัตรเพิ่ม หรือลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีก นอกจากนี้มองว่าการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบเป็นปัจจัยลบ
ส่วนตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับต่ำ ซึ่งก็คงจะต้องไปพึ่งปัจจัยจากการลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งอาจช่วยในแง่ Sentiment ได้ แต่ในส่วนเม็ดเงินคงจะยังไม่เห็น ดังนั้น นักลงทุนควรจะเลือกลงทุนหุ้นที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการจะออกมาดี ภาพโดยรวมของตลาดฯจึงยังผันผวนสูง
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบเฉลี่ย 1-2% พร้อมให้แนวรับ 1,300-1,290 จุด ส่วนแนวต้าน 1,315 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,014.38 จุด ลดลง 12.67 จุด (-0.08%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,268.76 จุด ลดลง 14.99 จุด (-0.35%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,852.21 จุด ลดลง 1.23 จุด (-0.07%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 42.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 63.57 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 8.47 จุด
ด้านตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ ยังคงปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ก.พ.59)1,303.96 จุด ลดลง 3.61 จุด(-0.28%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,544.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ก.พ.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ก.พ.59) ปิดที่ 27.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดร่วงลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 5.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ก.พ.59) ที่ 6.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.40/42 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค คาดกรอบ 35.30-35.50
- พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติทบทวน มติ ครม. เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2558 ที่เห็นชอบโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) จากเดิมที่คำขอได้สิ้นสุดไปเมื่อ วันที่ 31 ธ.ค. 2558 เป็นให้สิ้นสุดการ รับคำขอในวันที่ 30 มิ.ย. 2559 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.มีมติให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) โดยองค์กรสมาชิกเห็นว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยกว่า 80-90% และจะหนุนให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น
- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ สคร.เร่งจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) วงเงิน 1 แสนล้านบาท และโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชน หรือพีพีพี จำนวน 5 โครงการ โดยเร็วที่สุด
- นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป เปิดเผยว่า เวลานี้กำลังซื้อของคนที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยยังน่าเป็นห่วง เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง เห็นได้จากมาตรการ กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกมาปลายปีที่แล้วช่วยคนจองมากขึ้น แต่ถึงขั้นยื่นกู้จะกู้ไม่ผ่าน ทำให้ต้องให้ลูกค้าไปยื่นกู้ก่อนถึงให้จอง โดยบริษัทมียอดปฏิเสธเพียง 6% ส่วนภาพรวมมีถึงกว่า 10% ที่กู้ไม่ผ่าน
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากความกังวลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก ส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงอยู่ในกรอบซบเซา (Bearish)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ในเดือน ม.ค.ปีนี้แย่ลงกว่าเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 48.5 จุด จากเดือนก่อนหน้า 49.9 จุด จากผลประกอบการ ปริมาณการผลิตสินค้า คำสั่งซื้อสินค้า และภาวะการส่งออกที่ลดลง แต่ต้นทุนการประกอบการเพิ่มขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- TAKUNI-W ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 399,999,874 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 29 มกราคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2559 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 ม.ค. 2564
- BJCHI (เคจีไอ) "ซื้อสะสม"เป้า 10.4 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/58 = 558 ล้านบาท (+60% YoY และ 32% QoQ) และคาดปันผลที่จะประกาศช่วงปลาย ก.พ. นี้ = 0.55 บาท/หุ้น Dividend yield สูง 8.2%, Backlog ตอนนี้ 3.2 พันล้านบาท และบริษัทฯเตรียมประมูลงานมูลค่า 6.5 พันล้านบาท ซึ่งมีโอกาสได้สูงเพราะเป็นงานต่อเนื่อง (คาดประมูล 1H59 ราว 5 พันล้านบาท ที่เหลืออีก 1.5 พันล้านบาทคาดประมูลใน 2H59)
- SIRI (ไอร่า) เป้า 1.75 บาท คาดรายได้ปี 58 เติบโตโดดเด่นถึง 25% คาดอยู่ที่ 35,208 ล้านบาท จากการเร่งระบายสินค้าคงเหลือในสต๊อกและแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในปี 59 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 47% อยู่ที่ 42,000 ล้านบาท (คอนโด 65% และแนวราบ 35%) จากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 21 โครงการ มูลค่ารวม 50,421 ล้านบาท (คอนโด 70% และ แนวราบ 30%) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เปิดเพียง 11 โครงการ มูลค่า 22,132 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 59 บริษัทยังเน้นการขายโครงการคอนโดฯ ระดับ Mid to High End
- กลุ่มการบิน (ไอร่า) คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
- TVT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 2.19 บาท คาด Q4/15 มีกำไรสูงสุดของปี (Consensus คาด 20 - 26 ล้านบาท +150% QoQ ) จากการรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิตละคร“ทางผ่านกามเทพ""สาวน้อยร้อยล้าน" และรายได้จัด Event เพิ่ม ส่งผลให้กำไรปี 2015 +ราว 10% เป็น 45 - 50 ล้านบาท พร้อมคาดกำไรปี 2016 ยังคงเติบโตจากจำนวนรายการที่รับจ้างผลิตออกอากาศเพิ่มขึ้น 6 รายการ โดยคาด Q1/59 มีการปิดดีล M&A ธุรกิจผลิตรายการทีวี 1 ราย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงภาคบ่าย เหตุวิตกแบงก์ฝั่งยุโรป
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดหุ้นและความน่าเชื่อถือของธุรกิจธนาคารในฝั่งยุโรป ตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 23,938.32 จุด ลดลง 82.66 จุด, -0.34% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,650.34 จุด ลดลง 12.12 จุด, -0.73%
ตลาดหุ้นฮ่องกง จีน เวียดนาม และไต้หวัน ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนีกำลังพิจารณาเรื่องการซื้อคืนตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ์ของธนาคาร หรือที่เรียกว่าตราสารหนี้ CoCos พร้อมกับระบุว่า ธนาคารอาจจะไม่แปลงสภาพตราสารหนี้ดังกล่าว
โดยดอยช์แบงก์มีภาระต้องไถ่ถอนตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ์ มูลค่า 5.38 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.08 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นายจอห์น ไครอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารดอยช์แบงก์ระบุว่า ทางธนาคารยังคงมีสถานะที่แข็งแกร่ง และมีเงินทุนที่เพียงพอที่จะจ่ายให้กับนักลงทุนที่ถือตราสารหนี้ CoCos
ในวันนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงสู่กรอบบน 114 เยนในเช้าวันพุธ เนื่องจากยังคงมีกระแสวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก อันส่งผลให้นักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยงดดยการเข้าซื้อเงินเยนซึ่งเป็นทรัพย์สินปลอดภัย
ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 114.59-114.60 เยน เมื่อเปรียบเทียบกับ 115.11-115.21 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 115.30-115.31 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อวานนี้เวลา 17.00 น.
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาค้าส่งของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 3.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่สูงเกินไปอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานในเบื้องต้นของธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตอยู่ที่ 100.1 เมื่อเทียบกับระดับฐานปี 2553 ที่ 100 หลังจากที่ร่วงลง 3.5% ในเดือนธ.ค.
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 57.17 จุด จากแรงเทขายหุ้นเหมืองแร่
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 57.17 จุด หรือ 1.00% ที่ 5,632.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นเกลนคอร์ ต่างก็ปรับตัวลดลงมากกว่า 5.8%
ส่วนหุ้นดับเบิลยูพีพี เพิ่มขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทออมนิคอม กรุ๊ป อิงค์ ของสหรัฐ ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันรายงานผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยหุ้นดอยช์แบงก์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้ว่าทางธนาคารได้ออกมายืนยันว่ามีเม็ดเงินสดเพียงพอที่จะชำระหนี้ก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ Stoxx Europe 600 ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน 7 วันทำการ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 309.39 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,997.54 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -1.69% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,879.40 จุด ลดลง 99.96 จุด หรือ -1.11% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,632.19 จุด ลดลง 57.17 จุด หรือ -1.00%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักและส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงด้วย โดยเฉพาะหุ้นดอยช์แบงก์ที่ร่วงลง 4.3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้นายจอห์น ไครอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารดอยช์แบงก์ ระบุว่า ทางธนาคารยังคงมีความแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากเงินทุนในระดับสูง และการกันสำรองความเสี่ยง
ทั้งนี้ หุ้นดอยช์แบงก์ร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่ธนาคารรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ในวันที่ 28 ม.ค. โดยดอยช์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารประสบภาวะขาดทุน 6.8 พันล้านยูโร (7.5 พันล้านดอลลาร์) ในปีที่แล้ว
ส่วนหุ้นธนาคารอื่นๆนั้น หุ้นเครดิตสวิส ร่วงลง 8.4% หุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ดิ่งลง 7.9% หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 5.6% หุ้นสเวดแบงก์ เอบี ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของสวีเดน ร่วงลง 5.7% และหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ดิ่งลง 4.4%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นอาร์เซลอร์ มิททัล ดิ่งลง 11% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 11% เช่นเดียวกัน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : วิตกราคาน้ำมันร่วง ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 12.67 จุด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงด้วย ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบได้ช่วยสกัดแรงลบของตลาดในระหว่างวัน
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,014.38 จุด ลดลง 12.67 จุด หรือ -0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,268.76 จุด ลดลง 14.99 จุด หรือ -0.35% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,852.21 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.07%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลุดจากระดับ 28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยังไม่สามารถทำข้อตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ นำโดยหุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.6% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 10% ขณะที่หุ้น Oneok Inc ดิ่งลง 11%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ คอร์ป (IBM) ร่วงลง 2.3% หุ้นออราเคิล คอร์ป ปรับลง 1.5% ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปิดตลาดเกือบทรงตัว
หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนตลาดให้สามารถลดแรงลบในระหว่างวันได้ โดยหุ้นมาร์ติน มาเรียตต้า มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 9.4% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายวัตถุดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% ขณะที่หุ้นดูปองท์ ดีดตัวขึ้น 1.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวขึ้น โดยหุ้นจิเลียด ซายส์ พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นไฟเซอร์ ปรับขึ้น 1.9% หุ้นบอสตัน ไซแอนทิฟิค ทะยานขึ้น 5%
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมร่วงลงสู่ระดับ 93.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2014 จากระดับ 95.2 ในเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างรอดูว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่ หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอการเปิดเผยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนธ.ค., ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ราคาส่งออกและนำเข้าเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.พ.2558
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,014.38 จุด ลดลง 12.67 จุด -0.08%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,268.76 จุด ลดลง 14.99 จุด -0.35%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,852.21 จุด ลดลง 1.23 จุด -0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,632.19 จุด ลดลง 57.17 จุด -1.00%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,879.40 จุด ลดลง 99.96 จุด -1.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,997.54 จุด ลดลง 68.77 จุด -1.69%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,882.60 จุด ลดลง 139.50 จุด -2.78%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,832.10 จุด ลดลง 143.30 จุด -2.88%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,085.44 จุด ลดลง 918.86 จุด -5.40%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,637.43 จุด ลดลง 127.70 จุด -1.89%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,768.63 จุด ลดลง 30.32 จุด -0.63%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,020.98 จุด ลดลง 266.44 จุด -1.10%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคื
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 309.39 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,997.54 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -1.69% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,879.40 จุด ลดลง 99.96 จุด หรือ -1.11% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,632.19 จุด ลดลง 57.17 จุด หรือ -1.00%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงแตะระดั
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 57.17 จุด หรือ 1.00% ที่ 5,632.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคื
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดร่วงลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 5.9% แตะที่ระดับ 27.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดร่วงลง 2.56 ดอลลาร์ หรือ 7.8% แตะที่ระดับ 30.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 70 เซนต์ หรือ 0.06% แตะที่ระดับ 1,198.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเที
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1198 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4457ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4425 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรั
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 291.00 จุด ลดลง 2.00 จุด, -0.68%
อินโฟเควสท์