WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET31ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์-หวังจีนออกมาตรการเพิ่มหลังGDP ต่ำสุด 25 ปี

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก โดยตลาดหุ้นจีนที่บวกไปราว 0.6% หลังจากที่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2558 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตรา 7.3% ในปี 2557 ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าจีนอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

พร้อมให้แนวรับ 1,230-1,240 จุด ส่วนแนวต้าน 1,255-1,260 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ(18 ม.ค.59)เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้  ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 53.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 46.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.01 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.27 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ม.ค.59)1,245.05  จุด ลดลง 0.80 จุด(-0.06%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,157.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ม.ค.59

                - ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ(18 ม.ค.59)เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 ม.ค.59)ที่ 10.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 36.27/29 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาคหลัง GDP จีนต่ำสุดรอบ 25 ปี

                - "นายกฯ" เตรียมตั้งราคากลางค่าขนส่ง หลังราคาน้ำมันลดต่อเนื่อง ชวนสื่อศึกษาผลิตภัณฑ์ยางพารามาจัดแสดงทำเนียบฯ ศึกษาเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำยางในการทำถนน หวั่นใช้เงินเซส ซื้อยางผิดกฎหมาย "ฉัตรชัย" ถก"วิษณุ" แก้ข้อขัดข้องทางกฎหมาย ช่วยชาวสวนยาง ชงครม.วันนี้

                - เอเอฟพี เปิดเผยการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 18 คน ต่อการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีนปี 2558 ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจจีนที่กำลังซบเซาจะขยายตัวได้ต่ำสุดในรอบ 25 ปี โดยจีดีพีปี 2558 จะขยายตัวได้ 6.9% จากปีก่อนหน้าที่ 7.3% และจีนจะอ่อนแรงต่อเนื่องจนถึงปีนี้ด้วย โดยคาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 6.7% เท่านั้น

                - นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ อดีต รมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนา "ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจ ประเด็นร้อนแรงที่กรรมการควรทราบ" จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท ไทย (IOD) ว่า ประเทศไทยมีปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจมาตลอด 30 ปี มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เฉลี่ยปีละ 5% จนกระทั่งปี 1985-1990 มีการเติบโตมากถึง 10% แต่หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะซบเซามาอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าแนวโน้มจีดีพีประเทศไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ประมาณ 2.9-3%

                - นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนถนนและน้ำที่เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนวงเงิน 8 หมื่นล้านบาท จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2558 เบิกจ่ายได้ 4.1 หมื่นล้านบาท มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ว่าจะเบิกจ่ายได้ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีงบประมาณ 2559 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล

                - "สุพันธุ์ มงคลสุธี"ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม 2558 ครอบคลุม 44 กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าความเชื่อมั่นดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ระดับ 87.5 จากเดือนพฤศจิกายน 2558 ระดับ 85.8 สูงสุดในรอบ 9 เดือน จากเดือนมีนาคมเคยขึ้นไปถึง 87.7 สาเหตุหลักมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องติดตามคือความเชื่อมั่นอนาคต หรือความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงจากเดือนพฤศจิกายนอยู่ระดับ 104.4 เหลือ 102.7 เพราะผู้ประกอบการกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่อาจลดลงในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ หลังรัฐบาลมีนโยบายเร่งการใช้จ่ายช่วงปลายปี 2558 โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะชะลอตัวคือยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องประดับ รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะยางพารา และยังกังวลต่อภัยก่อการร้ายในหลายประเทศ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจีน

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TMC-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม (TMC) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 181,249,573 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ :  1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 18 ธันวาคม 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 มี.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 15 ธ.ค. 2560

                - BTC-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.บางปะกง เทอร์มินอล(BTC)มีจำนวน 3,437,232,884 หน่วยอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.60 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 ธ.ค. 2563

                - ADVANC(โกลเบล็ก)เป้า 192 บาท คาดกำไรสุทธิปี 58 ราว 37,145 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% YoY  4Q58 เป็นช่วง High-season ทำให้รายได้บริษัทเพิ่มขึ้นโดยปัจจัยหลักยังคงมาจากรายได้จากการให้บริการข้อมูลที่ยังคงทรงตัวในระดับสูงจากการทำ Market-Penetration และปี 59 การแข่งขันในอุตสาหกรรมจะรุนแรงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 59 ลดลงราว 7% YoY เป็น 34,338 ล้านบาท และคาดว่า 1Q59 จะเห็นทิศทางอุตสาหกรรมสื่อสารชัดเจนขึ้น โดยยังคงเป็นหุ้น Div yield โดดเด่นราว 5.8%

                - BEAUTY(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 6.10 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q15 +17% Q-Q, +14% Y-Y เป็น 120 ล้านบาท ตาม High season โดยคาดยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิม (SSSG) ขยายตัวอีก 15% Y-Y เพิ่มจาก 3Q15 ที่ +12% Y-Y เราปรับกำไรสุทธิปี 2015-16 ขึ้น 2.3% และ 6.4% เป็น 393 ล้านบาท +31% Y-Y และ 505 ล้านบาท +29% Y-Y ตามลำดับ ยังรักษาการเติบโตของกำไรในระดับ 30% ได้เป็นปีที่ 3 สำหรับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอส่งผลกระทบจำกัดต่อสินค้าของ BEAUTY เพราะเครื่องสำอางค์เป็นปัจจัยสำคัญและราคาสินค้าต่อหน่วยไม่สูง

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน

            ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการ

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะ 118.96 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.20 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,902.29 จุด ลดลง 53.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,914.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,283.57 จุด เพิ่มขึ้น 46.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,816.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,879.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,585.99 จุด ลดลง 7.01 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,622.37 จุด ลดลง 0.27 จุด

                ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จีนจะเปิดเผยในเช้าวันนี้ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2558, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 24.18 จุด วิตกราคาน้ำมันร่วง,ศก.โลกซบ

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังส่งผลให้มีแรงเทขายเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน

                ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,779.92 จุด ลดลง 24.18 จุด หรือ -0.42%

                ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน

                หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง รวมถึงหุ้นทุลโลว์ ออยล์ และหุ้นโอฟีร์ เอนเนอร์จี หลังจากสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงหลุดต่ำกว่าระดับ 28 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้ ภายหลังจากนานาประเทศได้ยุติมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยเป็นการปูทางให้อิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปก สามารถเพิ่มการส่งออกได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นอีก

                นอกจากนี้ หุ้นเวแดนตา รีซอส ซึ่งอยู่ในกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 8.7% ขณะที่หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 1.6%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นพลังงานร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.36% ปิดที่ 328.64 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,189.57 จุด ลดลง 20.59 จุด หรือ -0.49% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,521.85 จุด ลดลง 23.42 จุด หรือ -0.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,779.92 จุด ลดลง 24.18 จุด หรือ -0.42%

                หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง รวมถึงหุ้นบีพี หุ้นทุลโลว์ ออยล์ และหุ้นไซเพ็ม เอสพีเอ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานของอิตาลี หลังจากสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงหลุดต่ำกว่าระดับ 28 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้ ภายหลังจากนานาประเทศได้ยุติมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยเป็นการปูทางให้อิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปก สามารถเพิ่มการส่งออกได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นอีก

                ทั้งนี้ อิหร่านตั้งเป้าว่าจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันทันที 500,000 บาร์เรลต่อวัน และวางแผนที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันอีกราว 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

                หุ้นเรโนล์ท ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทั่วโลกลดลง 3.3% ในปี 2558 รวมทั้งข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสได้เข้าตรวจค้นสำนักงานหลายแห่งของบริษัท เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ซอฟท์แวร์โกงการปล่อยไอเสีย

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

                ตลาดหุ้นสหรัฐ รวมทั้งตลาดการเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดลงเกือบ 400 จุดเมื่อวันศุกร์ หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า วิกฤตราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและจีน รวมถึงรายงานยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนของจีนที่ชะลอตัวลง และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ย่ำแย่ลงของสหรัฐ

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวันศุกร์ที่ 15,988.08 จุด ร่วงลง 390.97 จุด หรือ -2.39% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,488.42 จุด ลดลง 126.59 จุด หรือ -2.74% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,880.33 จุด ลดลง 41.51 จุด หรือ -2.16%

                ตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 2.2% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2.2% เช่นกัน ส่วนดัชนี NASDAQ ร่วงลง 3.3%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ม.ค.2559

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,779.92 จุด                     ลดลง 24.18 จุด     -0.42%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,521.85 จุด                              ลดลง 23.42 จุด     -0.25%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,189.57 จุด                          ลดลง 20.59 จุด     -0.49%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,911.80 จุด       ลดลง 36.70 จุด     -0.74%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,858.70 จุด             ลดลง 34.10 จุด     -0.70%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,811.18 จุด                             เพิ่มขึ้น 49.17 จุด    +0.63%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,955.57 จุด                      ลดลง 191.54 จุด    -1.12%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,878.45 จุด                         ลดลง 0.42 จุด      -0.02%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,913.84 จุด                     เพิ่มขึ้น 12.87 จุด    +0.44%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,335.09 จุด             ลดลง 114.41 จุด    -1.77%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,237.45 จุด                               ลดลง 283.32 จุด    -1.45%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,481.28 จุด      ลดลง 42.70 จุด     -0.94%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,622.64 จุด                      ลดลง 5.91 จุด      -0.36%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,593.00 จุด                      ลดลง 37.76 จุด     -1.44%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,188.37 จุด                        ลดลง 266.67 จุด    -1.09%

           

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

         

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.36% ปิดที่ 328.64 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,189.57 จุด ลดลง 20.59 จุด หรือ -0.49% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,521.85 จุด ลดลง 23.42 จุด หรือ -0.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,779.92 จุด ลดลง 24.18 จุด หรือ -0.42%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังส่งผลให้มีแรงเทขายเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน        

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,779.92 จุด ลดลง 24.18 จุด หรือ -0.42%

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 369.00 จุด ลดลง 4.00 จุด, -1.07%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!