WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET27ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ตามตลาดตปท.หลังเงินหยวนมีเสถียรภาพขึ้น

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ แม้ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงต่ำอยู่ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป ซึ่งคงจะเป็นผลจากที่เงินหยวนของจีนมีเสถียรภาพขึ้น แต่การรีบาวน์มองว่าเป็นเพียงแค่ทางเทคนิคเท่านั้น

   สำหรับ ตลาดหุ้นไทยก็มีสัญญาณที่ดีจากที่นักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ และในวันศุกร์นี้นายกรัฐมนตรีจะมีปาฐกถาที่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็คงจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

  พร้อมให้แนวรับ 1,240-1,245 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260-1,265 ถัดไป 1,270-1,280 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(12 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,516.22 จุด พุ่งขึ้น 117.65 จุด(+0.72%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,685.92 จุด เพิ่มขึ้น 47.93 จุด(+1.03%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,938.68 จุด เพิ่มขึ้น 15.01 จุด(+0.78%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 230.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 317.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 31.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.53 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 ม.ค.59)1,255.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด(+1.68%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 379.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ม.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 ม.ค.59) ปิดที่ 30.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 97 เซนต์ หรือ 3.1%

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 ม.ค.59)ที่ 10.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 36.30 แนวโน้มผันผวน นักลงทุนจับตาตัวเลขดุลการค้าจีน-ทองร่วง

   -  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเข้าซื้อยางโดยตรงจากเกษตรกรทันทีในราคานำตลาด โดยไม่ผ่านสหกรณ์หรือตัวแทนทั้งสิ้น เพื่อให้โรงงานที่มีมาตรฐานสินค้าผลิตสินค้าตามที่มีคำสั่งซื้อจากหน่วยราชการ โดยเบื้องต้นมีความต้องการใช้ยางของ 8 กระทรวง กว่า 1 แสนตัน โดยจะใช้งบรายจ่ายของแต่ละกระทรวง

   - "อัทธ์ พิศาลวานิช" ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบ ต่อการส่งออกไทยมากที่สุดในขณะนี้ คือ ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของจีนที่หดตัวลง 1% มีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดจีนให้ลดลงทันที 3.97% ขณะที่ปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย มีสัดส่วนกว่า 11% ของการส่งออกรวม

  - "หิรัญญา สุจินัย" เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ในช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ จะพิจารณาตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ใหม่ เพื่อนำมากำหนดทิศทางส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ รวมทั้งเป้าหมายเอฟดีไอในปีนี้ หลังจากยอดเอฟดีไอในปี 2558 อยู่ที่ 1.06 แสนล้านบาท หรือต่ำกว่ายอดปี 2557 ที่สูงถึง 1.02 ล้านล้านบาทมาก

   - นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน ม.ค. 2559 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 10.45 จุด สู่ระดับ 55.51 จุด โดยดัชนียืนเหนือระดับ 50 จุด ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สะท้อนทัศนคติต่อราคาทองคำเชิงบวก สอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ค้าและกลุ่มผู้ลงทุน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 12.28 จุด มาอยู่ที่ระดับ 62.43 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวกเช่นเดียวกัน

   - สภาธุรกิจตลาดทุนเชิญ "ประยุทธ์" ร่วมงานแนวทางการพัฒนาตลาดทุน 15 ม.ค.นี้ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนหลังต่างชาติทยอยขายต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ มองดัชนีหุ้นปรับลดลงอยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนบ้าน ยันไม่ได้ถูกขายมากกว่า

*หุ้นเด่นวันนี้

   - TISCO(โกลเบล็ก)เป้า 50 บาท ประกาศกำไรปี 58 = 4,250 ล้านบาท ทรงตัวจากปี 57  แต่ดีกว่าคาดการณ์ 7% แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 19% จากลูกหนี้กลุ่ม SSI ที่กลายเป็น NPL พร้อมคาดกำไรปี 59 + 13% = 4.8 พันล้านบาท ตามภาวะตลาดรถยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อที่ฟื้นตัว และคาดจ่ายปันผลปี 58 ที่ 2 บาท/หุ้น หรือ Div yield 4.9%

   - MINT(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ"เป้า 35 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลง 12% จากความกังวลรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่ลดลงใน 4Q15 ของโรงแรมในมัลดีฟ และผลจากการคว่ำบาตรของรัสเซีย ต่อนักท่องเที่ยวตุรกี แต่เชื่อว่าผลของเหตุการณ์ดังกล่าวจะกระทบในช่วงสั้นเท่านั้น และจากการกระจายโครงสร้างธุรกิจที่ดีของบริษัท จึงมองว่าความเสี่ยงของบริษัทจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ คู่แข่ง

    - กลุ่มสื่อสาร(เออีซี) Upgrade คำแนะนำเป็น "ซื้อลงทุน" หลังมองช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มผู้ให้บริการมือถือปรับลงมาแรง เมื่อเทียบต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น จนทำให้อัตราปันผลจ่ายของกลุ่มสูงกว่า 7% หรือสูงกว่าช่วงก่อนประมูล เลือกหุ้นกลุ่มสื่อสารวันนี้ต้องได้เงินปันผล จึงแนะนำซื้อกลับ ADVANC, INTUCH, DTAC แต่ยังมีมุมมองระมัดระวังหุ้นที่มีงบลงทุนที่สูงกว่าความเข้มแข็งของงบดุล

   - BJCHI(เออีซี)"ซื้อ"เป้า 9 บาท เช้านี้ที่ประชุมบอร์ดมีมติอนุมัติซื้อหุ้นคืนในตลท. 2.5% ของหุ้นที่ชำระแล้ว (40 ล้านหุ้น) วงเงินไม่เกิน 250 ลบ. ตั้งแต่ 27 ม.ค.-26 ก.ค.59  โดยกำหนดราคาซื้อคืนไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิดเฉลี่ย 5 วันซื้อขายก่อนหน้า (ไม่เกิน 6.40 บาท)

   - DTAC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 47.80 บาท มองว่าราคาได้สะท้อนปัจจัยเลวร้ายไปแล้ว ราคาได้มีการปรับลดลงมากกว่ามูลค่าเลิกกิจการของบริษัทที่ 37.70 พร้อมคาดผลการดำเนินงานดีขึ้น โดยคาดผลการดำเนินงานของ DTAC ในไตรมาส 4 กำไรสุทธิ 1,460 ล้านบาท +19% qoq, -23% yoy ได้แรงหนุนยอดขายของ iPhone 6s และ Campaign ในการ Subsidy 3G Handset และเป็นช่วง Seasonal ประมาณกำไรสุทธิทั้งปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ ระดับ 6,354 ล้านบาท -40% ปรับประมาณการปี 2559 ลงเหลือ  5,646 ล้านบาท สะท้อนการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนของ Regulatory Cost ที่คาดว่าอาจจะไม่ได้ลดลง

ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับจีนแทรกแซงตลาด

  ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน

  ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 1% สู่ระดับ 121.97 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

  ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,449.12 จุด เพิ่มขึ้น 230.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,041.11 จุด เพิ่มขึ้น 18.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,028.86 จุด เพิ่มขึ้น 317.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,799.56 จุด เพิ่มขึ้น 31.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,904.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,712.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,642.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด

  เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ ด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดฮ่องกง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในตลาดฮ่องกงเมื่อวานนี้

  เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ในฮ่องกงของธนาคารกลางจีนนั้น มีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนออนชอร์และออฟชอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้สกุลเงินหยวนสามารถรวมเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

   ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของธนาคารกลางจีนทำให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่าจะสามารถลดความผันผวนในตลาดการเงินได้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตหนุนฟุตซี่ปิดบวก 57.41 จุด

  ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต

  ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 57.41 จุด หรือ +0.98% ที่ 5,929.24 จุด

  นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนในระดับหนึ่งหลังจากตลาดหุ้นจีนกลับมามีเสถียรภาพเมื่อวานนี้ รวมทั้งเงินสกุลหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

   หุ้นกลุ่มซูเปอร์ช่วยผลักดันตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นดับเบิ้ลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ เพิ่มขึ้น 8.7% หลังจากเปิดเผยว่ามียอดขายในช่วงคริสต์มาสที่สูงเกินคาด

   หุ้นเทสโก้ เพิ่มขึ้น 6.7% และหุ้นเซนส์เบอรีเพิ่มขึ้น 3.3%

   อย่างไรก็ดี การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นลอนดอนได้ถูกสกัดเอาไว้หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษร่วงลง 0.7% ในเดือนพ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของภาคการผลิต และการลดการขุดเจาะน้ำมันในทะเลเหนือ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่ง หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศจีน หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.9% ปิดที่ 343.22 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,378.75 จุด เพิ่มขึ้น 66.01 จุด หรือ +1.53% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,985.43 จุด พุ่งขึ้น 160.36 จุด หรือ +1.63% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,929.24 จุด เพิ่มขึ้น 57.41 จุด หรือ +0.98%

   ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ หลังจากสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรปคาดการณ์ว่า ยอดขายในตลาดจีนจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ โดยหุ้นเปอร์โยต์ พุ่งขึ้น 4.8% ขณะที่หุ้นโฟล์คสวาเกนดีดตัวขึ้นกว่า 2%

   นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า  ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ ด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดฮ่องกงในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนออนชอร์และออฟชอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้สกุลเงินหยวนสามารถรวมเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 117.65 จุด รับข่าวจีนหนุนเสถียรภาพเงินหยวน

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,516.22 จุด พุ่งขึ้น 117.65 จุด หรือ +0.72% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,685.92 จุด เพิ่มขึ้น 47.93 จุด หรือ +1.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,938.68 จุด เพิ่มขึ้น 15.01 จุด หรือ +0.78%

  ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ ด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดฮ่องกงในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในตลาดฮ่องกงเมื่อวานนี้

   เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ในฮ่องกงของธนาคารกลางจีนนั้น มีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนออนชอร์และออฟชอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้สกุลเงินหยวนสามารถรวมเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

   ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของธนาคารกลางจีนทำให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่าจะสามารถลดความผันผวนในตลาดการเงินได้

   หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.7% ขณะที่หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี คอร์ป พุ่งขึ้น 3.1%

   หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอนเธม อิงค์ และหุ้นเอ็ทนา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3.8% หลังจากทั้งสองบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

   หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น ก่อนที่บริษัทรายใหญ่หลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 1.5% หุ้นอินเทล ดีดขึ้น 1.9% หุ้นค็อกนิแซนท์ เทคโนโลยี โซลูชันส์ ทะยานขึ้น 6.3%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลโค อิงค์ บริษัทเหมืองรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2558 ร่วงลง 18% สู่ระดับ 5.25 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับรายได้ในไตรมาส 4 ของปี 2557 ที่ระดับ 6.38 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้ในไตรมาส 4/2558 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.29 พันล้านดอลลาร์

   นักลงทุนจับตาการกล่าวปาฐกถาของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ หลังปรับขึ้นครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในเดือนที่แล้ว

   ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากตลาดหุ้นโลกที่ยังผันผวน อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

   นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!