WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SETภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลง น้ำมันดิบร่วงต่อเนื่อง-เงินทุนตปท.ยังไหลออก

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ไซด์เวย์อิงทางลงเล็กน้อย เจอแรงกดดันราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบได้ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะที่เงินทุนต่างประเทศแนวโน้มไหลออกต่อเนื่องกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

      อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะเปิดให้เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น

      สำหรับ นักลงทุนระยะสั้นแนะเทรดดิ้งในกรอบ สำหรับนักลงทุนระยาวให้รอจังหวะสะสมช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวมากกว่านี้ เพราะมองว่าทั้งสัปดาห์นี้ดัชนีจะยังไม่เคลื่อนไหวมากนัก ส่วนหนึ่งติดวันหยุดยาว ขณะที่แรงซื้อของเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF) และเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) น่าจะทยอยเข้ามาบ้างในช่วงสัปดาห์หน้ามากกว่า

พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด และ 1,325 จุด แนวต้าน 1,340-1,350 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(7 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.51 จุด ร่วงลง 117.12 จุด (-0.66%)17,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,101.81 จุด ลดลง 40.46 จุด (-0.79%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,077.07 จุด ลดลง 14.62 จุด (-0.70%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 8.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 18.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 144.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 12.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 15.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.33 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ธ.ค.58)1,333.57 จุด ลดลง 7.05 จุด(-0.53%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 493.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.58

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(7 ธ.ค.58) ปิดที่ 37.65 อลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.32 ดอลลาร์ หรือ 5.8%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(7 ธ.ค.58)ที่ 7.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.86/88 คาดวันนี้แกว่ง 35.75-35.95 รอตัวเลข GDP ยูโรโซนคืนนี้

      - "แบงก์ชาติ" เล็งปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งระบบ หวังสะท้อนต้นทุนแท้จริง เร่งสมาคมธนาคารลุยศึกษา มั่นใจอนาคตค่าธรรมเนียมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ลดลง สอดรับนโยบายอีเพย์เม้นท์รัฐบาล ด้านที่ปรึกษาอีเพย์เม้นท์ชี้ระบบชำระเงินใหม่ช่วยให้ค่าธรรมเนียมแบงก์ลดลงในอนาคต หลังปลดล็อกให้ตลาดแข่งขันได้เสรี ขณะที่การใช้เงินสดลดลงช่วยให้ต้นทุนการขนเงินปีละกว่าหมื่นล้านลดลง

     - นักเศรษฐศาสตร์-นักวิเคราะห์ประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก ช่วยฟื้นความเชื่อมั่น-เยียวยาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอ แนะออกมาตรการกระตุ้นรอบสองเน้นเพิ่มรายได้และกำลังซื้อ พร้อมกับเร่งลงทุนภาครัฐ หนุนเอกชนลงทุน คาดผลปรับโครงสร้างเริ่มเห็นผลรูปธรรม

      - "อสังหาฯ" คึกคัก หลังรัฐประกาศใช้มาตรการกว่า 1 เดือน พฤกษาฯ เผยเดือนพ.ย. โอนแล้ว มูลค่า 5 พันล้าน ขณะเอพีฯ รับยอดขาย โตกว่า 47% "ศุภาลัย" ยอดโอนเพิ่มเท่าตัว แอล.พี.เอ็น.แจงรอโอน 4 เดือนแรกปีหน้ามูลค่า 1 หมื่นล้าน

      - พอร์ตสินเชื่อสหกรณ์ฯเดือด "แบงก์รัฐ-เอกชน" รุกตัดราคาแข่งปล่อยกู้ "กรุงไทย" ยอมรับการแข่งขันรุนแรงขึ้น ฉุดยอดสินเชื่อ หดตัวเฉลี่ย 10% คาดสิ้นปีพอร์ตแตะ 1 แสนล้าน ย้ำหนี้เสียต่ำ ขณะ "ออมสิน" ทยอยลดพอร์ตปล่อยกู้สหกรณ์ หวังลดความเสี่ยง ชี้ล่าสุดพอร์ตแค่ 2.9 หมื่นล้าน

     - ทายาทธุรกิจงัดโมเดลซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจเดิม "กลุ่มมงคลสุธี" ส่งทายาทเข้าซื้อไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ พบทายาทตระกูลดังแห่ทำรายการซื้อหุ้นธุรกิจ ด้านเสนาดีเวลลอปเม้นท์เผยเป็นการจัดโครงสร้างถือหุ้นภายในครอบครัวเพิ่มความชัดเจน

     - "เจนเนอราลี่" บุกแบงก์แอสชัวรันส์ตั้งเป้า เป็นช่องทางหลักกว่า 60% ในปีหน้า หวังเจาะ ลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธของเกียรตินาคินภัทร เล็งเสนอทุนประกันหลักพันล้านบาทคุ้มครองมรดกให้ลูกหลานเศรษฐี คาดปีหน้าธุรกิจยังมีแนวโน้มดี

*หุ้นเด่นวันนี้

     - SPRC(บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง))เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีราคา IPO 9.00 บาท

     - กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง(ฟินันเซีย ไซรัส)วันนี้ร.ฟ.ท.จะเปิดประมูล E-auction การก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางจิระ-ขอนแก่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมูลคือ CK, ITD, STEC, UNIQ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และสายสีม่วง จะเข้าครม.วันนี้เพื่ออนุมัติแผนลงทุน เปิดโอกาสเก็งกำไรกลุ่มรับเหมา เลือก CK (ราคาเป้าหมายปีหน้า 36 บาท) เป็น Top pick เพราะนอกจากจะมีโอกาสชนะการประมูลแล้ว การรวม BECL-BMCL จะทำให้กำไรของ CK เพิ่มขึ้นจากประมาณการของเราอีก 40% จากการถือ BEM 27%

    - GUNKUL(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า26.00บาท ออกหุ้นเพิ่มทุน 41.5 ล้านหุ้น ให้กับSCB ที่ราคา 24 บาท  สูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน ส่งผลให้ SCB เข้ามาถือหุ้น 3.13% โดยการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการขยายลงทุนในอนาคต และยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการสนับสนุนการดำเนินกิจการของบริษัท

     - WHA(ธนชาต)"ซื้อ"เป้าหมายพื้นฐาน 3.70 บาท ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป ต่ำกว่ามูลค่าที่รวมธุรกิจนิคมฯ ไปแล้ว ยังมองกำไร Turnaround เติบโต 84-31% ในปี 2016-17

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังราคาน้ำมันร่วงถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงาน

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยลบจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่อ่อนตัวลงหลังราคาน้ำมันร่วง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูจีนเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย.ในวันนี้

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% แตะ 131.79 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,689.87 จุด ลดลง 8.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,518.65 จุด ลดลง 18.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,058.55 จุด ลดลง 144.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,442.06 จุด ลดลง 12.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,964.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,885.39 จุด ลดลง 15.53 จุดดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,669.67 จุด ลดลง 2.33 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 14.77 จุด เหตุน้ำมันร่วงฉุดหุ้นพลังงาน

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) จากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

     ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 14.77 จุด หรือ 0.24% ที่ 6,223.52 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาน้ำมันดิบได้ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)  ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมันใหม่สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้า

    หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 4.6% หุ้นบีพีลดลง 3.4% และหุ้นบีจี กรุ๊ป ลดลง 4.1%

    หุ้นคิงฟิชเชอร์ ร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านรายใหญ่ของอังกฤษลดลง 2.4% หลังบริษัทโนมูระปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท

     ในขณะเดียวกัน หุ้นเน็กซ์ ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ลดลง 1.3% เนื่องจากถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนโดยโนมูระ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐพุ่งเกินคาด

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 372.48 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,756.41 จุด เพิ่มขึ้น 41.62 จุด หรือ +0.88% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,886.09 จุด เพิ่มขึ้น 133.99 จุด หรือ +1.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,223.52 จุด ลดลง 14.77 จุด หรือ -0.24%

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

   นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.2559 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2% ตามเป้าหมายของ ECB

    ทั้งนี้ นายดรากียังระบุว่า ECB จะพิจารณาขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก หากมีความจำเป็น

   หุ้นแอร์บัส กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากแอร์บัสเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องบินเจ็ทไลนเนอร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้มีมากกว่า 1,000 ลำ

   หุ้นโนวาร์ติส ปรับขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

 ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 117.12 จุด จากแรงขายหุ้นพลังงาน

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนต้า ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.51 จุด ร่วงลง 117.12 จุด หรือ -0.66% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,101.81 จุด ลดลง 40.46 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,077.07 จุด ลดลง 14.62 จุด หรือ -0.70%

    หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ร่วงลงเกือบ 3% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ดิ่งลง 2.5% ขณะที่หุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ร่วงลงกว่า 13%

    ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักหลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมันใหม่สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากโอเปกไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอิหร่านจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเท่าใดในปีหน้า หลังจากที่ชาติตะวันตกได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเมื่อ 6 เดือนก่อน

   ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเช่นกัน หลังจากราคาโลหะในตลาดโลกร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ดิ่งลง 7.9% หุ้นดาวเคมิคอล และหุ้นนูคอร์ คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.9% ขณะที่หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ร่วงลง 8.8% ขณะที่หุ้นจอย โกลบอล และหุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่  ดิ่งลงกว่า 2.3%

  อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวยส์ และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้นราว 4% ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้นกว่า 2.6%

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

    การแสดงความเห็นของนายล็อคฮาร์ทมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ธ.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,730.51 จุด                         ลดลง 117.12 จุด     -0.66%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,101.81 จุด                      ลดลง 40.46 จุด      -0.79%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,077.07 จุด                       ลดลง 14.62 จุด      -0.70%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,223.52 จุด                   ลดลง 14.77 จุด      -0.24%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,886.09 จุด                          เพิ่มขึ้น 133.99 จุด    +1.25%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,756.41 จุด                        เพิ่มขึ้น 41.62 จุด     +0.88%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,205.90 จุด     เพิ่มขึ้น 4.40 จุด      +0.08%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,155.70 จุด          เพิ่มขึ้น 4.10 จุด      +0.08%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,454.27 จุด                          เพิ่มขึ้น 55.67 จุด     +0.66%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,698.15 จุด                   เพิ่มขึ้น 193.67 จุด    +0.99%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,963.67 จุด                        ลดลง 10.73 จุด      -0.54%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,536.93 จุด                     เพิ่มขึ้น 11.94 จุด     +0.35%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,911.86 จุด             ลดลง 10.07 จุด      -0.15%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,203.22 จุด                             ลดลง 32.67 จุด      -0.15%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,521.39 จุด    เพิ่มขึ้น 12.94 จุด     +0.29%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,900.92 จุด                      เพิ่มขึ้น 21.87 จุด     +0.76%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,672.00 จุด                     เพิ่มขึ้น 4.31 จุด      +0.25%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,530.11 จุด                        ลดลง 108.00 จุด     -0.42%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนต้า ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.51 จุด ร่วงลง 117.12 จุด หรือ -0.66% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,101.81 จุด ลดลง 40.46 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,077.07 จุด ลดลง 14.62 จุด หรือ -0.70%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด

           ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 372.48 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,756.41 จุด เพิ่มขึ้น 41.62 จุด หรือ +0.88% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,886.09 จุด เพิ่มขึ้น 133.99 จุด หรือ +1.25% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,223.52 จุด ลดลง 14.77 จุด หรือ -0.24%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) จากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 14.77 จุด หรือ 0.24% ที่ 6,223.52 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมันใหม่สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้า

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.32 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 37.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 2.27 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 40.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ( 7 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากทางการสหรัฐรเปิดเผยข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่ง

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ระดับ 1,075.20 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 19.6 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 14.332 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบม.ค.ร่วงลง 17.4 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 863.20  ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 555.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังมีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่ง

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0846 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0869 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5066 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5101 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.28 เยน จาก 123.18 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9998 ฟรังก์ จาก 0.9975 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7266 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7340 ดอลลาร์

 

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 551.00 จุด ลดลง 12.00 จุด, -2.13%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!