WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET39ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งบวกตามตลาดภูมิภาค เล็งแรงหนุนจากทำ Cover short

      นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในแดนบวก เนื่องจากตลาดบ้านเราก็มีความกังวลที่มีหุ้นหลายตัวที่ถูกปรับลดน้ำหนักลงทุนจาก MSCI ทำให้เป็นแรงกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลง แต่ในช่วงท้ายตลาดฯมีแรงซื้อกลับเข้ามาที่ KBANK และ AOT ช่วยหนุนตลาดฯ อีกทั้งก่อนหน้านี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ถูกแรงขายออกมาค่อนข้างมาก ดังนั้นวันนี้ก็อาจจะมีการทำ Cover short ได้

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างรีบาวด์กันขึ้นมาหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงหนัก หลังจากที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ อย่างไรก็ดีทิศทางตลาดฯยังมีความผันผวนได้จากปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งการประชุม ECB ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้, ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ, การประชุมโอเปค และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,352-1,367 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(30 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.92 จุด ลดลง 78.57 จุด(-0.44%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,108.67 จุด ลดลง 18.85 จุด(-0.37%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.41 จุด ลดลง 9.70 จุด(-0.46%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 51.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 38.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.87 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(30 พ.ย.58) 1,359.70 จุด ลดลง 3.43 จุด(-0.25%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,387.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย.58

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(30 พ.ย.58) ปิดที่ 41.65 อลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(30 พ.ย.58)ที่ 10.02 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.82/84 นลท.รอติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ-ECB ในสัปดาห์นี้

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตลาดทุน โดยมีนายกฯ เป็นประธาน โดยในระหว่างนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีปลัดคลังเป็นประธาน เพื่อทำงานคู่ขนาน คาดว่าแผนปฏิรูปตลาดทุนจะนำเสนอให้กรรมการและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในสิ้นปีนี้ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีหน้าทันที

- "นพพร เทพสิทธา" ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยการส่งออกของไทยในเดือน ต.ค. ที่ติดลบ 8.11% ถือว่าติดลบสูงสุดในรอบปี และคาดว่าในอีก 2 เดือนที่เหลือของ ปีนี้ มูลค่าส่งออกจะเฉลี่ย 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน หรือติดลบ 3% และจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปีติดลบ 5% สูงที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ขีดความสามารถการแข่งขันไม่ได้รับการพัฒนา จะต้องอาศัยรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาและปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแผนปฏิบัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 20 โครงการ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งลงทุนช่วงปี 2558-2565 โดยทั้ง 20 โครงการจะต้องผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญภายในปี 2559 คือ 1.การอนุมัติ 2.การประกวดราคา 3.เริ่มลงทุน

- วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนในคดีที่บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป และบริษัท ทรู วิชั่นส์ เคเบิ้ล ยื่นฟ้องให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศเรียงช่อง ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ และขอให้ไต่สวนในคดี ที่ผู้ให้บริการจานดาวเทียมพีเอสไอและเจริญเคเบิลยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ด้วย

- นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยดีที่หนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ได้แก่ 1.การใช้จ่ายภาครัฐ ที่เร่งตัวมากขึ้นในช่วงต้นปีงบประมาณ 2.การบริโภคภาคเอกชน หรือการใช้จ่ายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น จากกำลังซื้อนอกภาคเกษตรที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่กระเตื้องขึ้นจากสินค้าไม่คงทน

- จับตา กบง. 3 ธ.ค.ขึ้นราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนธันวาคมหรือไม่ หลัง รมว.พลังงานยังไม่ฟันธงแต่แย้มอาจใช้เงินกองทุนฯ ที่มีอยู่ช่วย เหตุราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้น พร้อมมั่นใจชี้แจงศาลฯได้หลังกลุ่มประชาชนฟ้องกระทรวงพลังงานที่เห็นชอบขึ้นราคาแอลพีจีหน้าโรงกลั่น

*หุ้นเด่นวันนี้

- GPSC(ไอร่า)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 30.50 บาท มีโอกาสที่จะเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญา MOA โดยมองว่า GPSC มีความได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่น สำหรับโครงการในเมียนมาร์ เนื่องจากมีกลุ่ม PTT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีการลงทุนในเมียนมาร์มาเป็นเวลานาน

- CK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 36 บาท ให้เป็น Top pick ของกลุ่ม แม้ปรับลดกำไรปกติปีนี้เหลือเพียง 423 ล้านบาท -57% Y-Y แต่คาดกำไรโตก้าวกระโดด 138% Y-Y เป็น 1 พันล้านบาทในปี 2016 เพราะ 60% ของ Backlog ที่มีอยู่ 6.6 หมื่นล้านบาทจะรับรู้ปีหน้า ด้วย EBITDA margin ที่คาดว่าจะรักษาให้อยู่ในระดับ 9-10% ได้ และมีโอกาสได้งานเพิ่มจากรถไฟต่าง ๆ ที่จะประมูลอีก 2.5-5 แสนล้านบาทในปีหน้า กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรของ BEM (BECL+BMCL) ที่คาดว่า CK จะถือ 27% ซึ่งจะทำให้กำไรปกติมี upside อีกกว่า 40%

- BIG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 2.30 บาท งาน Photo Fair 2015 เมื่อ 25-29 พ.ย. คาดทำรายได้ราว 100 ล้านบาทเพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้เพียง 60 ล้านบาท บวกกับ High Season เรามั่นใจว่ากำไร 4Q15 จะทำ New high อีกครั้ง ส่วนกำไรปี 2016 อาจสูงกว่าที่เราคาดว่าจะโต 9.7% Y-Y เพราะตลาด Mirrorless ยังโตแรง การลงมาทำตลาดนี้ของ Canon และ Nikon จะกระตุ้นตลาดให้โตเร็ว และมีแนวโน้มปิด Big Mobile ที่ขาดทุนปีละ 10-15 ล้านบาท ราคาปัจจุบันมี PE ปีนี้และปีหน้าเพียง 13-14 เท่า

- SYNTEC (ยูโอบี เคย์เฮียน)สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้มีเพียงตัวเดียวที่ราคายังถูกอยู่และเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.โดยไฉซิน

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 132.19 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,799.08 จุด เพิ่มขึ้น 51.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,359.27 จุด เพิ่มขึ้น 38.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,001.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,862.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,670.29 จุด ลดลง 1.87 จุด

       สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 49.6 จาก 49.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนปรับตัวย่ำแย่ลง

       ดัชนี ที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 19.06 จุด ตลาดจับตาผลทดสอบภาวะวิกฤต

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาแร่เหล็ก ในขณะที่ภาคธนาคารของอังกฤษกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบภาวะวิกฤต (stress-test)

       ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 19.06 จุด หรือ 0.30% ที่ 6,356.09 จุด

    หุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงก่อนที่ธนาคารกลางอังกฤษจะทดสอบภาวะวิกฤตของภาคธนาคาร โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ลดลง 0.6% หุ้นเฮชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ลดลง 1% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป ลดลง 1.4%

       หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้รับแรงกดดันจากราคาแร่ทองแดง ทองคำ และโลหะอื่นๆ ตลอดทั้งเดือนพ.ย. ที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่เหล็กรายใหญ่ลดลง 1.3% ในขณะที่บริษัทระบุว่า บริษัทยังไม่ถูกรัฐบาลบราซิลฟ้องในกรณีอุบัติเขื่อนที่เหมืองแร่แห่งหนึ่งของบริษัทพังในเดือนที่ผ่านมา

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับคาดการณ์ ECB กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ด้วยการขยายวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

     ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 385.43 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,957.60 จุด เพิ่มขึ้น 27.46 จุด หรือ +0.56% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 11,382.23 จุด เพิ่มขึ้น 88.47 จุด หรือ +0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,356.09 จุด ลดลง 19.06 จุด หรือ -0.30%

        ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ด้วยการขยายวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อในประเทศสมาชิก

    ทั้งนี้ ECB ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ๆเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนที่กำลังซบเซาลง และจัดการกับภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานในยูโรโซน โดย ECB จะซื้อพันธบัตรเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง

     กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังจากสำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และ 0.3% เมื่อเทียบรายปี

    ตัวเลขดัชนี CPI ดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระดับใกล้เคียง แต่ไม่เกิน 2%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : หุ้นค้าปลีกร่วง ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 78.57 จุด

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง 'Black Friday' ชะลอตัวลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ และก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.92 จุด ลดลง 78.57 จุด หรือ -0.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,108.67 จุด ลดลง 18.85 จุด หรือ -0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.41 จุด ลดลง 9.70 จุด หรือ -0.46%

      ตลอดเดือนพ.ย. ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งนี้ 0.3% ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 1.1%

     หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังจากมีรายงานเบื้องต้นว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง 'Black Friday' ซึ่งเป็นเทศกาลจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐปรับตัวลดลง โดยข้อมูลจาก ShopperTrak ระบุว่า ยอดขายในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า และ Black Friday อยู่ที่ 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์

      ทั้งนี้ หุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลง 1.8% หุ้นเมซี อิงค์ ดิ่งลง 2.3% หุ้นเออร์แบน เอาท์ฟิทเตอร์ส ร่วงลง 5.3% หุ้น Amazon ปรับตัวลง 1.3% หุ้นโฮม ดีโปท์ ร่วงลง 2.4% และหุ้นสแทพเพิลส์ ดิ่งลง 1.9%

      นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้  โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.

      สำหรับ ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกี่ยวกับการรวมเงินหยวนเข้าตะกร้าเงินสกุล SDR ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนนั้น ผลการประชุมระบุว่า ที่ประชุม IMF มีมติอนุมัติให้นำสกุลเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ของ IMF โดยให้มีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.ปีหน้า

      ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้หยวนได้รับการปรับยกสถานะในเวทีการเงินโลก เทียบเท่ากับดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยนที่ได้รับอนุมัติให้รวมไว้ในตะกร้า SDR ก่อนหน้านี้

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่ ECB ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเมื่อเดือนที่แล้ว

     นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้างเดือนต.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,719.92 จุด                         ลดลง 78.57 จุด     -0.44%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,108.67 จุด                      ลดลง 18.85 จุด     -0.37%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,080.41 จุด                       ลดลง 9.70 จุด      -0.46%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,375.24 จุด                    เพิ่มขึ้น 0.09 จุด     +0.00%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,382.23 จุด                           เพิ่มขึ้น 88.47 จุด    +0.78%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,957.60 จุด                        เพิ่มขึ้น 27.46 จุด    +0.56%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,218.20 จุด     ลดลง 33.20 จุด     -0.63%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,166.50 จุด           ลดลง 36.10 จุด     -0.69%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,320.61 จุด                           ลดลง 77.79 จุด     -0.93%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,747.47 จุด                     ลดลง 136.47 จุด    -0.69%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,991.97 จุด                        ลดลง 37.02 จุด     -1.82%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,445.40 จุด                    เพิ่มขึ้น 9.10 จุด     +0.26%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,996.42 จุด                             ลดลง 71.90 จุด     -0.33%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,446.46 จุด      ลดลง 114.10 จุด    -2.50%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,672.16 จุด                      ลดลง 10.43 จุด     -0.62%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,855.94 จุด                      ลดลง 3.18 จุด      -0.11%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,145.67 จุด                        เพิ่มขึ้น 17.47 จุด    +0.07%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ด้วยการขยายวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 385.43 จุด

         ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,957.60 จุด เพิ่มขึ้น 27.46 จุด หรือ +0.56% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 11,382.23 จุด เพิ่มขึ้น 88.47 จุด หรือ +0.78% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,356.09 จุด ลดลง 19.06 จุด หรือ -0.30%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง 'Black Friday' ชะลอตัวลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ และก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.92 จุด ลดลง 78.57 จุด หรือ -0.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,108.67 จุด ลดลง 18.85 จุด หรือ -0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.41 จุด ลดลง 9.70 จุด หรือ -0.46%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาแร่เหล็ก ในขณะที่ภาคธนาคารของอังกฤษกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบภาวะวิกฤต (stress-test)

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 19.06 จุด หรือ 0.30% ที่ 6,356.09 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันศุกร์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมจะคงโควต้าการผลิตที่ระดับเดิม

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 41.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 9.1 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ระดับ 1,065.30 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 14.086 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 832.90 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 7.45 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 543.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่ยูโรอ่อนค่าจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมจากธนาคารกลางยุโรป (ECB)

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0569 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0597 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดกันว่า ECB จะประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ยูโรปรับตัวลง

           

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 584.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด, +0.52% 

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!