- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 26 November 2015 10:41
- Hits: 2140
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบตามภูมิภาค,ตลาดปัจจัยใน-นอกปท.ยังไม่เอื้อ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมตัวถึงแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปิดทำการในคืนนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แม้จะเคลื่อนไหวในแดนบวกแต่ก็อยู่ในระดับไม่มากนัก จากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนคงยังชะลอการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนยังระวังในประเด็นที่มีการก่อการร้าย และการเมืองในตุรกี-รัสเซียที่ยังตึงเครียดอยู่
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ค่อยดีนัก รวมถึงในวันที่ 30 พ.ย.ทาง MSCI จะมีการลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนการคำนวนใหม่
พร้อมให้แนวรับ 1,370-1,375 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(25 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,813.39 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด(+0.01%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,116.14 จุด เพิ่มขึ้น 13.33 จุด(+0.26%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.87 จุด ลดลง 0.27 จุด(-0.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 82.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.64 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 251.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 6.27 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 พ.ย.58) 1,381.46 จุด ลดลง 3.46 จุด(-0.25%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,686.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 พ.ย.58) ปิดที่ 43.04 อลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 พ.ย.58)ที่ 9.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.66/68 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลล์แข็ง
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษแก่สมาชิกหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย โดยเชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และกลุ่มอุตสาหกรรมคลัสเตอร์ใหม่ เช่น คลัสเตอร์รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล เมดิคอล ฮับ อาหาร และพลังงาน ที่จะเป็นอนาคตทางด้านเศรษฐกิจของไทย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนมากกว่าพื้นที่อื่นๆ
- นายสัญชัย คูเอกชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลลิ เออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในกรุงเทพฯ ไตรมาส 4 ปี นี้จะมีผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่กว่า 10 แห่ง อาทิ สวนลุม ไนท์ บาซาร์ รัชดาฯ สเปลล์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ มีพื้นที่รวมกันกว่า 2.2 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) หลังไตรมาส 3 ปีนี้ มีพื้นที่ค้าปลีกเปิดตัวกว่า 1.6 แสน ตร.ม. ส่งผลให้อุปทานพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบเพิ่มเป็น 7.2 ล้าน ตร.ม.
- ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภาวการณ์ลงทุนในภาคตะวันออกไตรมาส 3 ปี 2558 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวน 661 โครงการ มีเงินลงทุนทั้งหมด 305,763 ล้านบาท การจ้างงานจำนวน 54,755 คน โดยแนวโน้มการลงทุนในภาคตะวันออกคาดว่าจะมีการขยายตัวโดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และกิจการสาธารณูปโภค
- "สนพ." คาดการใช้พลังงานรวมของไทยปี 2559 จะโต 2.7-3.5% จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นและราคาน้ำมันยังอยู่ระดับต่ำ พร้อมคาดการใช้ไฟสูงสุด(พีก) ปีหน้าหากอุณหภูมิแตะ 40 องศาฯ อาจเห็นพีคแตะ 2.9 หมื่นเมกะวัตต์ แต่มีมาตรการรองรับแล้ว ย้ำสำรองไฟให้ดูที่โรงไฟฟ้าพร้อมจ่ายไทยเสี่ยงหากจัดหาก๊าซฯ และถ่านหินไม่เป็นตามแผน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์เดือน ต.ค. 2558 ปรับตัวดีขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาครัฐ ทำให้สัดส่วนสินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ผ่อนคลายลงมาที่ระดับ 85.69% จากระดับ 86.53% เมื่อสิ้นเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับเครื่องชี้สภาพคล่องอีกตัวหนึ่ง คือ สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวม ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 20.36% ในเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 21.23% ในเดือน ต.ค. 2558
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปภาษี เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เสนอแผนปฏิรูปภาษีทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดของภาษีต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการภายในปีหน้า โดยจะกำหนดเวลาให้มีผลบังคับใช้อย่างมีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องและเศรษฐกิจ
- กสทช.มอบใบอนุญาต 4จี เอไอเอส พร้อมส่งข้อมูลคนด้อยโอกาส รายได้น้อย ทำแพ็คเกจพิเศษตามเงื่อนไข ด้านทรูจ่ายเงินประมูลงวดแรก 2 หมื่นล้านบาท ยันไม่ได้กลบข่าวลือเงินไม่มี แค่รอฤกษ์เหมาะสม ไม่ยื่นแบงก์การันตีเพราะไม่อยากรับใบอนุญาตช่วงนี้ ขอดูฤกษ์อีก ทั้งวันตลาดหุ้นขานรับร่วงต่ำสุดรอบ 1 ปี
*หุ้นเด่นวันนี้
- INTUCH(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 82 บาท ปี 58 คาดกำไรสุทธิโต 8% ตามคาด โดย 9M58 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 11,658 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5%YoY และคิดเป็น 72% ซึ่งคาดว่าจะทำกำไรสุทธิได้ตามเป้าปี 58 ที่ 16,148 ล้านบาทโดยมีปัจจัยจากการเติบโตของรายได้การให้บริการข้อมูลที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามพฤติกรรมการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการวางขาย Iphone6s ในช่วงต้น 4Q58 จะเป็นแรงผลักดันให้รายได้ของ ADVANC ฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสสาม รวมถึงอัตราการใช้ดาวเทียม THCOM 7 ที่เพิ่มขึ้นหลังจากบรรลุข้อตกลงให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียมกับ บจ.แกรนท์ อินเวสเทรด (GIL) ในอินเดียซึ่งหนุนยอดใช้งานเต็ม 100% และเป็นประโยชน์ต่อเนื่องในการให้บริการ THCOM 8 ต่อไป
- PIMO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 2.36 บาท ผลประกอบการ 9M15 น่าผิดหวังเนื่องจาก มอเตอร์อุตสาหกรรมชะลอตัวตามภาคการเกษตร และคำสั่งผลิตที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าปั๊มน้ำรายใหญ่ยังไม่มา แต่คาดว่า 4Q15 จะได้เห็นกำไรกลับมาโดดเด่น เพราะลูกค้ารายดังกล่าวเริ่มรับของค้างและสั่งผลิตเพิ่ม ต้นทุนและค่าใช้จ่ายก็ลงเพราะราคาทองแดง อะลูมิเนียม และเหล็กที่เป็นต้นทุนหลักยังทรุด และไม่มีค่าทำ IPO เหมือน 3Q15 ส่วนปีหน้ากำไรจะกระชากแรง จากลูกค้าปั๊มน้ำที่เพิ่มคำสั่งซื้อเต็มปี และตลาดส่งออกที่ขยายตัวหลังได้ใบอนุญาตจากสหรัฐฯ โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ 32 ล้านบาท ลดลง 20% Y-Y ส่วนปีหน้าคาด 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 37% Y-Y
- HMPRO(โกลเบล็ก)เป้า 8.80 บาท กำไร 3Q58 = 803 ลบ. +5% YoY แต่ -2% QoQ กำไร 9M58 เพิ่มขึ้น 3% ส่วนปี 58 คงประมาณการรายได้ = 5.5 หมื่นล้านบาท +15% โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ (4 ธ.ค.จะเปิดสาขาใหม่ที่อรัญประเทศ) กำไรปี 58 ที่ 3.4 พันล้านบาท +3% YoY พร้อมคาดกำไรปี 59 ที่ 3.85 พันลานบาท +13% YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้นจากสาขาเมกาโฮมที่ปรับดีขึ้นจนล้างขาดทุนสะสมได้หมด
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังเยนอ่อนหนุนหุ้นญี่ปุ่นบวก
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับตุรกี
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 134.37 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,929.97 จุด เพิ่มขึ้น 82.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,659.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.64 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,749.60 จุด เพิ่มขึ้น 251.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,411.16 จุด เพิ่มขึ้น 25.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,014.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,903.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,678.15 จุด ลดลง 6.27 จุด
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียเตรียมให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใต้กลุ่มพันธมิตรสหรัฐ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตุรกี
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 60.41 จุด หลังหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยพุ่ง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย หลังจากรัฐบาลมีแผนจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย
ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 60.41 จุด หรือ 0.96% ที่ 6,337.64 จุด
ตลาดปิดในแดนบวก หลังจากนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังของอังกฤษ ได้เปิดเผยว่ารัฐบาลวางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านที่อยู่อาศัย โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างบ้านใหม่จำนวน 400,000 หลัง เพื่อช่วยให้ประชาชนจำนวนมากขึ้นมีบ้านเป็นของตัวเอง
ขณะเดียวกัน นายออสบอร์นยังคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัว 2.4% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้านนำตลาดทะยานขึ้น โดยTaylor Wimpey ปรับตัวขึ้น 3.8% ขณะที่หุ้น Barratt Developments ดีดตัวขึ้น 3.8% และหุ้น Persimmon ปรับขึ้น 3%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง เหตุตลาดคลายกังวลสถานการณ์ตอ.กลาง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,892.99 จุด เพิ่มขึ้น 72.71 จุด หรือ +1.51% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,169.54 จุด พุ่งขึ้น 235.55 จุด หรือ +2.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,337.64 จุด เพิ่มขึ้น 60.41 จุด หรือ +0.96%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังมีข่าวว่า รัสเซียเตรียมให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใต้กลุ่มพันธมิตรสหรัฐ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตุรกี
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ถึงแม้เกิดเหตุตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกก่อนหน้านี้ แต่รัสเซียไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มความรุนแรงทางทหารกับตุรกี
"เราไม่มีความต้องการที่จะทำสงครามกับตุรกี" นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันของตุรกี ที่ว่า ตุรกีไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นกับรัสเซีย
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ECB จะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อ หากพิจารณาแล้วเห็นว่า นโยบายของอีซีบียังไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายได้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยหุ้นโธมัส คุก พุ่งขึ้น 11% หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ทะยานขึ้น 2.7%
ดาวโจนส์เปิดแดนบวก หลังสถานการณ์ตะวันออกกลางคลี่คลาย
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ในรอบ 8 วันทำการ หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางคลี่คลายลง
ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,827.16 จุด เพิ่มขึ้น 14.50 จุด หรือ 0.09%
ถึงแม้เกิดเหตุตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกก่อนหน้านี้ แต่รัสเซียไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มความรุนแรงทางทหารกับตุรกี
"เราไม่มีความต้องการที่จะทำสงครามกับตุรกี" นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าว สอดคล้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันของตุรกี ที่ว่า ตุรกีไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นกับรัสเซีย
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของดอลลาร์ในวันนี้เป็นปัจจัยจำกัดช่วงขาขึ้นของดัชนีดาวโจนส์
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้เทียบเยนและยูโร ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เทียบ 6 สกุลเงินหลักในตะกร้าเงิน พุ่งทะลุระดับ 100 หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังมีข่าวว่า รัสเซียเตรียมให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใต้กลุ่มพันธมิตรสหรัฐ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตุรกี
ณ เวลา 18.31 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.12% สู่ระดับ 122.66 เยน และพุ่งขึ้น 0.54% สู่ระดับ 1.0589 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลง 0.42% สู่ระดับ 129.88 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ทะยานขึ้น 0.53% สู่ระดับ 100.05
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น
อินโฟเควสท์