WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET19ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสอ่อนลงตามตลาดเอเชีย ปัจจัยใน-นอกปท.ยังไม่เอื้อ

    นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกัน โดยปัจจัยในประเทศไม่มีประเด็นอะไรมาก มีเพียงตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.ของไทยที่ประกาศออกมาแย่กว่าเดิม ซึ่งนักวิเคราะห์ฯต่างคาดว่าน่าจะหดตัวลดลง อย่างไรก็ดีวันนี้อาจจะให้น้ำหนักไปที่ราคาน้ำมัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เครื่องบินรัสเซียถูกยิงตก ทำให้ตลาดเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจจะมาช่วยหนุนกลุ่มน้ำมันในวันนี้ได้

     ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของสหรัฐฯออกมาดีตามคาด โดยงวดไตรมาส 3/58 ออกมาเติบโต 2.1% ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และตรงนี้จะไปกดดันค่าเงิน และเม็ดเงินให้มีการไหลออก

     ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีนก็ยังไม่ดี แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย และลดการตั้งสำรองฯ เพื่ออัดฉีดเงินเข้าระบบ แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจของจีนมากนัก ทำให้มีคนมองว่าจีนน่าจะทำอะไรที่มากกว่านี้

     อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางส่วนก็ยังผิดหวังกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่ประกาศออกมา ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาแย่กว่าคาด ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลาดฯคงจะยังไม่ผ่าน 1,400 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,370 จุด

     พร้อมให้จับตาตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศต่างๆที่จะทยอยประกาศออกมา และให้ติดตามการประชุมการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในเวลาที่ใกล้เคียงกันในวันที่ 3-4 ธ.ค.นี้ โดยดูว่าโอเปกจะลดกำลังการผลิตหรือไม่ ส่วน ECB ก็รอดูจะมีการอัดฉีดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เพิ่มเติมหรือไหม

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,812.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.51 จุด(+0.11%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด(+0.01%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด(+0.12%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 68.05 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 54.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.40 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 พ.ย.58)1,384.92 จุด ลดลง 9.30 จุด(-0.67%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 210.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 พ.ย.58) ปิดที่ 42.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.7%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 พ.ย.58)ที่ 9.23 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.70/72 แข็งค่าต่อเนื่อง หลัง GDP  Q3/58 สหรัฐฯ ออกมาดีตามคาด

     - นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบรางระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ไปลงนามในบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอซี) ในการพัฒนารถไฟไทยญี่ปุ่น เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนล่าง ในช่วงที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 26-28 พ.ย.นี้

     - นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. 2558 ไทยส่งออกสินค้าได้ 1.85 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 8.11% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2557 เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และติดลบหนักสุดในรอบปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปีนี้อยู่ที่ 1.80 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 5.32%

      - "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความกังวลในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาความล่าช้าในโครงการความร่วมมือลงทุนก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมาแก่งคอย-มาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ โดยนายกฯ ได้สอบถามว่า ทำไมจึงไม่คืบหน้า ทั้งๆ ที่ประชุมตัวแทนระหว่างรัฐบาลไทย-จีนไปแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2558 แต่ยังไม่สามารถสรุปการก่อสร้างได้

      - กรรมการ กนง.เผยความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น ห่วงเศรษฐกิจจีนชะลอ-ภาวะภัยแล้ง เล็งปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ทั้งปีนี้และปีหน้า และประกาศอย่างเป็นทางการในรายงานนโยบายการเงินวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ระบุยังไม่วางใจตรึงดอกเบี้ยต่ำนานอาจเกิดเก็งกำไรช่องทางอื่น ถึงจุดหนึ่งควรทยอยปรับสู่ภาวะปกติถึงตอนนั้นมั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว

      - นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้เสนอการแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินมาตรา 120 เพื่อให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้เต็มที่ เหมือนการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เห็นชอบแล้ว

     - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ศึกษาการให้กองทุนวายุภักษ์ ที่ขณะนี้มีสภาพคล่องประมาณ 1 แสนล้านบาท เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ที่จะจัดตั้งขึ้น โดยให้ สคร.ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะให้กองทุนวายุภักษ์ขายหุ้นที่ถืออยู่บางตัว เพื่อนำเงินมาซื้อไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์

*หุ้นเด่นวันนี้

                - ITD, CK, STEC, UNIQ ผ่านคุณสมบัติได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งราคางานรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มูลค่า 23,000 ล้านบาท เคาะราคา 8 ธ.ค.(โกลเบล็ก)

     - TOP(โกลเบล็ก)เป้า 68 บาท คาดกำไรปี 2558  ที่ 12,724 ลบ. +416%YoY จากแรงหนุน 3 ธุรกิจหลักธุรกิจโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวได้ดี และ ธุรกิจ Aromatic เริ่มกลับมาสร้างกำไรได้จากการปรับราคาขาย สำหรับธุรกิจน้ำมันเครื่องยังสามารถสร้างกำไรได้จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น และคาดโครงการ LABIX จะเริ่มดำเนินการใน 2Q59 ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นราว 6%

     - LIT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 9.70 บาท หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาหลังประกาศผลการดำเนินงาน 3Q15 ซึ่งแม้ว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามจากเป้าหมายการเติบโตเชิงรุกและการทำงานอย่างหนักของผู้บริหารในการหาตลาดและโอกาสใหม่ๆในการขยายสินเชื่อ Factoring และ E-Bidding ทำให้เชื่อมั่นว่า LIT ยังแสดงการเติบโตทั้งรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2016 ที่ระดับมากกว่า 30% Y-Y

     - GLOBAL(เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 13.5 บาท รูปแบบราคาหุ้นวานนี้ดีดทะลุแนวต้าน 10.6 บาท ขึ้นมาได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 12 บาท ประเมินแนวรับ 10.6 บาท ในเชิงพื้นฐานประเมินพ้นจุดต่ำสุด และจะเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ขณะที่ภาคการก่อสร้างที่จะกลับมาฟื้นตัวตามการลงทุนภาครัฐฯ และวางแผนลงทุนในลาวและพม่า ตรงกับธีมการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่ม CLMV

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกผลพวงเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตก

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็หันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบของรัสเซียถูกกองทัพตุรกียิงตกบริเวณชายแดนซีเรีย

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% แตะ 134.37 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตาเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,856.84 จุด ลดลง 68.05 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,614.07 จุด ลดลง 2.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,533.53 จุด ลดลง 54.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,407.54 จุด เพิ่มขึ้น 7.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,018.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,926.56 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,672.63 จุด ลดลง 4.40 จุด

     ล่าสุด มีรายงานว่า เรือรบ 'Yamal' ของรัสเซียได้เดินทางผ่านช่องแคบดาร์ดาเนลส์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี และได้มุ่งหน้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว โดยการส่งเรือรบของรัสเซียครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เครื่องบินรบของรัสเซียถูกกองทัพตุรกียิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย

     ทั้งนี้ เรือรบ Yamal ได้รับการออกแบบสำหรับการขนส่งบุคลากรทางทหารและยุทโธปกรณ์ โดยเรือรบลำดังกล่าวสามารถบรรทุกกองกำลังทหารได้ 250 นาย และรถถัง 10 คัน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 28.26 จุด เหตุวิตกความตึงเครียดตะวันออกกลาง

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มสายการบิน หลังจากตุรกีได้ยิงเครื่องบินของรัสเซียลำหนึ่งตกใกล้กับบริเวณชายแดนของซีเรีย

     ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 28.26 จุด หรือ 0.45% ที่ 6,277.23 จุด

     ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากเครื่องบินรบของรัสเซียลำหนึ่งถูกกองทัพของตุรกียิงตกใกล้กับชายแดนของซีเรีย

     ทั้งนี้ ประธานาธิบดีตุรกีเปิดเผยว่า เครื่องบินที่ถูกยิงตกใกล้ชายแดนประเทศซีเรียนั้นเป็นเครื่องบินรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่รัสเซียยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าแต่อย่างใด

     ความวิตกดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ร่วงลง 3.3% ขณะที่หุ้นอีซีเจ็ท ปรับลง 3.2% และหุ้น TUI AG อ่อนแรงลง 3%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุข่าวเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกฉุดหุ้นท่องเที่ยว

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.24% ปิดที่ 375.64 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,820.28 จุด ลดลง 68.84 จุด หรือ -1.41% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,933.99 จุด ลดลง 158.32 จุด หรือ -1.43% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,277.23 จุด ลดลง 28.26 จุด หรือ -0.45%

     หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกลงใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวานนี้ เนื่องจากรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่ทางการซีเรียมองว่า การที่ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก ถือเป็นการก่ออาชญากรรม

    ทั้งนี้หุ้น IAG ซึ่งเป็นบิษัทแม่ของบริติช แอร์เวย์ หุ้นอีซีเจ็ท ต่างก็ร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล โฮเทลส์ กรุ๊ป และหุ้นคาร์นิวัล ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1%

    อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุในระหว่างวัน หลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ผู้บริหารภาคธุรกิจของเยอรมนียังคงมีความเชื่อมั่นในเดือนพ.ย. แม้เกิดเหตุอื้อฉาวของการโกงการตรวจวัดค่ามลพิษของบริษัทโฟล์คสวาเกน, ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการโจมตีกรุงปารีสของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)

   นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ของโฟล์คสวาเกนอย่างใกล้ชิด หลังจากโฆษกสำนักงานอัยการในเมืองบรอนชวิกของเยอรมนี กล่าวว่า อัยการเยอรมนีกำลังทำการสอบสวนการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทโฟล์คสวาเกนที่เกี่ยวข้องกับการโกงการตรวจสอบมลพิษในไอเสีย

    ทั้งนี้ การสอบสวนเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพนักงาน 5 คนของโฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นการยืนยันรายงานข่าวจากสื่อมวลชนก่อนหน้านี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 19.51 จุด

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเนื่องจากข่าวเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการครั้งก่อน

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,812.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.51 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด หรือ +0.12%

     ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกลงใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวานนี้ เนื่องจากรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่ทางการซีเรียมองว่า การที่ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก ถือเป็นการก่ออาชญากรรม

     อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากข่าวเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกนั้น ได้หนุนราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จีทะยานขึ้น 5.5% และหุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ป พุ่งขึ้น 5.6% หุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอส ดีดขึ้นกว่า 2.5% และหุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.7%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นนูคอร์ คอร์ป ปรับขึ้น 3.7% และหุ้นฟรีพอร์ท แมค-มอแรน ทะยานขึ้น 3.8%

      หุ้นกลุ่มสายการบินยังคงถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ ร่วงลง 3% และหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.1%

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5% และสูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก อันเป็นผลมาจากการทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขสินค้าคงคลังในภาคเอกชน รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในภาคการก่อสร้าง

    ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนก.ย. เนื่องจากจากการที่ปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด ทำให้ผู้ซื้อต้องเสนอราคาเพิ่มขึ้น  โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าระดับ 4.6% ในเดือนส.ค.

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 พ.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,812.19 จุด                         เพิ่มขึ้น 19.51 จุด     +0.11%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,102.81 จุด                      เพิ่มขึ้น 0.33 จุด      +0.01%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,089.14 จุด                        เพิ่มขึ้น 2.55 จุด      +0.12%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,277.23 จุด                    ลดลง 28.26 จุด      -0.45%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,933.99 จุด                            ลดลง 158.32 จุด     -1.43%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,820.28 จุด                          ลดลง 68.84 จุด      -1.41%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,277.20 จุด       ลดลง 49.30 จุด      -0.93%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,226.40 จุด             ลดลง 50.00 จุด      -0.95%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,400.14 จุด                             ลดลง 85.59 จุด      -1.01%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,924.89 จุด                      เพิ่มขึ้น 45.08 จุด     +0.23%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,016.29 จุด                         เพิ่มขึ้น 12.59 จุด     +0.63%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,616.11 จุด                     เพิ่มขึ้น 5.79 จุด      +0.16%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,992.60 จุด             ลดลง 3.59 จุด       -0.05%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,587.63 จุด                              ลดลง 78.27 จุด      -0.35%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,545.38 จุด     เพิ่มขึ้น 4.31 จุด      +0.09%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,677.03 จุด                      เพิ่มขึ้น 6.13 จุด      +0.37%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,923.49 จุด                      เพิ่มขึ้น 20.00 จุด     +0.69%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,775.74 จุด                        ลดลง 43.60 จุด      -0.17%

 

      ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเนื่องจากข่าวเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการครั้งก่อน

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,812.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.51 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด หรือ +0.12%

 

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.24% ปิดที่ 375.64 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,820.28 จุด ลดลง 68.84 จุด หรือ -1.41% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,933.99 จุด ลดลง 158.32 จุด หรือ -1.43% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,277.23 จุด ลดลง 28.26 จุด หรือ -0.45%

 

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มสายการบิน หลังจากตุรกีได้ยิงเครื่องบินของรัสเซียลำหนึ่งตกใกล้กับบริเวณชายแดนของซีเรีย

          ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 28.26 จุด หรือ 0.45% ที่ 6,277.23 จุด

 

     สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย เนื่องจากการรุกล้ำน่านฟ้า

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ระดับ 1,073.80 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 12.7 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 14.159 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 841.70 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 541.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย เนื่องจากการรุกล้ำน่านฟ้า ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 42.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 46.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

     ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังการทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียและตุรกี

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0650 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0623 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5087 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5119 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 122.46 เยน จาก 122.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0152 ฟรังก์ จาก 1.0193 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7186 ดอลลาร์

 

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 528.00 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด, +2.33%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!