WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET10ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งในกรอบ-เก็งรับเหมาฯเตรียมประมูลรถไฟทางคู่พรุ่งนี้

     นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบแนวรับ 1,385 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด โดยคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากพรุ่งนี้จะมีการประมูล e-Auction รถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย

     ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย โดยคืนนี้ให้ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ครั้งก่อน และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่

     อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดฯขณะนี้มองว่ายังเป็นรอบรีบาวน์ โดยมีแนวต้าน 1,410-1,430 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(17 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,489.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด(+0.04%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,986.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด(+0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.44 จุด ลดลง 2.75 จุด(-0.13%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 141.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 67.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 11.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.12 จุด

    ด้านตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 พ.ย.58)1,390.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด(+0.11%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 746.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ย.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 พ.ย.58) ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.6%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 พ.ย.58)ที่ 8.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 36 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ เหตุดอลล์แข็ง-มีแรงซื้อจากผู้ค้าทอง

       - ศาลยกฟ้องคดีปตท.ฟ้อง "รสนา" จากกรณีเขียนบทความแฉ "ปตท.-ปตท.สผ." มีบริษัทลูกอยู่บนเกาะฟอกเงินเคย์แมนกว่า 30 บริษัท

      - ครม.เห็นชอบกรอบการลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน "อาคม"เผยเตรียมพิธีเปิดตัวศูนย์สั่งการการเดินรถ (OCC) ที่เชียงรากน้อย 19 ธ.ค.นี้ คงเป้าเริ่มก่อสร้างพ.ค.59 ครม.ยังรับทราบผลแก้ปัญหาการบิน "เอียซ่า-ICAO" นายกฯ สั่ง ตั้งกองทุน โครงสร้างพื้นฐาน

        - นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. มีมติเห็นชอบให้ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล ฯลฯ เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยจะเพิ่มสิทธิพิเศษ นอกเหนือสิทธิประโยชน์จากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

        - "พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล"นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เผยหลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) ให้ใบเหลืองกับไทยกรณีไม่สามารถแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ขาดการรายงานไร้การควบคุม (ไอยูยู) แล้ว ระยะต่อไป อียูจะประกาศใช้มาตรฐานความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งจะกระทบกับการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทย โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปัจจุบันมีการปลูกในเขตที่ไม่มีเอกสารสิทธิประมาณ 40% หรือ 3 ล้านไร่ และการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของไทยยังไม่ได้มาตรฐานการเพาะปลูกที่ดีและเหมาะสม (จีเอพี) ซึ่งจะกระทบกับวงการปศุสัตว์ไทยอย่างมาก เพราะข้าวโพดเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ และปัจจุบันภาคเอกชนอุดหนุนรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยรัฐไม่ได้มีส่วนช่วยเรื่องนี้เลย เมื่อใดที่อียูประกาศใช้มาตรการสิ่งแวดล้อม การรับซื้อนี้จะทำไม่ได้ รัฐบาลยังไม่มีนโยบายรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นข้อกีดกันทางการค้าที่ไทยไม่สามารถเลี่ยงได้ในอนาคต

*หุ้นเด่นวันนี้

    - TNP(บมจ.ธนพิริยะ)เทรดวันนี้วันแรก บนกระดานตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)ในกลุ่มบริการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปี 2016 เท่ากับ 2.20 บาท จากราคาขาย IPO ที่ 1.75 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรปีนี้ทรงตัว Y-Y จากฐานสูงและค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างก่อนเข้าตลาดฯ แต่จะกลับมาโตสูง 51% Y-Y ในปีหน้า

      TNP ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งในจังหวัดเชียงรายมานานกว่า 25 ปี ภายใต้ชื่อ ธนพิริยะ" ปัจจุบันมี 12 สาขาคือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต 11 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา ถือเป็นผู้นำธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นในเชียงราย โดยมีแผนเปิด 2 สาขาในปีนี้, 3 สาขาในปีหน้า และอยู่ระหว่างสร้าง DC แห่งที่ 2 ซึ่งจะแล้วเสร็จใน 3Q16 เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคต

      - BCH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 8 บาท กำไรสุทธิ 3Q15 ส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนเพิ่มขึ้น 46.3% Q-Q และ 12% Y-Y จากรายได้ที่เติบโตดีขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มประกันสังคมและ WMC ที่มีพัฒนาการชัดเจน ส่งผลให้ Gross Margin ดีขึ้นอย่างมีนัยยะเนื่องจากต้นทุนบางส่วนคงที่ โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2015 ลงเล็กน้อยเป็นหดตัว 11% Y-Y แต่คาดว่าปี 2016 จะพลิกมา 18.3% Y-Y หลังหดตัว 4 ปีติดต่อกัน จากทั้งเครือโรงพยาบาลเดิมที่คาดว่าจะเติบโตดีขึ้น ขณะที่โรงพยาบาลที่ได้ลงทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาคาดว่าจะเริ่มออกดอกออกผล

      - AOT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus เฉลี่ย 344 บาท คาดรายได้และกำไรเติบโตขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยสสท.คาดนักท่องเที่ยวปี 2558 +13% เป็น 28 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่วนโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ผ่าน EIA แล้วคาดเปิดประมูลได้ภายในปี 59 ช่วยหนุนต่อรายได้และกำไรในอนาคตเนื่องจากจะรองรับผู้โดยสารได้ 85 ล้านคน/ปี

    - CK (ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 32.20 บาท แม้กำไรสุทธิใน 3Q/58 จะชะลอตัวทั้ง qoq และ yoy แต่ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากส่วนใหญ่มาจากการดำเนินงานปกติ และเงินปันผลที่ได้รับต่อเนื่องเกือบทุกไตรมาส ซึ่งสามารถ Cover กับค่าใช้จ่ายขายและบริหาร และดอกเบี้ยจ่ายได้ ขณะที่ Backlog อยู่ในระดับที่คาดเพียงพอต่อการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี คาดความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการของภาครัฐ ไม่ส่งผลกระทบต่อ CK มากนัก อย่างไรก็ตามในระยะกลาง ยาว CK ยังมีความน่าสนใจจากโอกาสได้รับงานเพิ่ม จากแผนการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะจับตารายงานการประชุมเฟด

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยาน ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาดูคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 132.26 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,771.86 จุด เพิ่มขึ้น 141.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,605.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,331.77 จุด เพิ่มขึ้น 67.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,432.25 จุด เพิ่มขึ้น 12.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,967.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,905.50 จุด ลดลง 11.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,661.41 จุด ลดลง 0.12 จุด ด้านตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก

      ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 27-28 ต.ค. เพื่อจับสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ล่าสุด ซึ่งจัดทำโดย CMEGroup's Fedwatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น มีสูงเกือบ 70%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 122.38 จุด หลังซึมซับข่าวโจมตีปารีส

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมในกรุงปารีส

      ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 122.38 จุด หรือ 1.99% ที่ 6,268.76 จุด

      หุ้นสมิธส์ กรุ๊ป พุ่ง 10% นำตลาดทะยานขึ้น ขณะที่หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ ปรับขึ้น 5.1%  โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากที่ร่วงหนัก

       หุ้นเทสโก้ บวกขึ้น 1.7% หลังจากมีการปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัท

       นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นลอนดอนได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของตลาด ขณะที่นักลงทุนเริ่มซึมซับข่าวการโจมตีครั้งรุนแรงในกรุงปารีส ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นพลังงานพุ่ง หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกวันที่สอง

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.49% ปิดที่ 379.88 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.31 จุด เพิ่มขึ้น 133.00 จุด หรือ +2.77% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,971.04 จุด เพิ่มขึ้น 257.81 จุด หรือ +2.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,268.76 จุด เพิ่มขึ้น 122.38 จุด หรือ +1.99%

      นักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างคึกคัก โดยหุ้นโททาล และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต่างก็พุ่งขึ้น 3.4%

     หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส คอมมูนิเคชันส์ พุ่งขึ้น 5.4% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทลิเบอร์ตี้ โกลบอล ตกลงซื้อกิจการเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส

       หุ้นเจนแมบ ทะยานขึ้น 11% หลังจากมีข่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยาที่เจนแมบพัฒนาร่วมกับบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันนั้น ได้รับอนุมัติให้วางจำหน่ายในสหรัฐ

      ส่วนหุ้นอีซีเจ็ท ร่วงลง 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 6.49 จุด รับผลประกอบการบริษัทค้าปลีก

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอล-มาร์ท และโฮม ดีโปท์ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,489.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,986.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.44 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.13%

      ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ โดยหุ้นวอล-มาร์ท สโตร์ พุ่งขึ้น 3.54% หลังจากประกาศตัวเลขคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีกำไร 1.40-1.55 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 4 และมีกำไรทั้งปี 2015 ที่ระดับ 4.50-4.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับที่คาดการณ์ที่ระดับ 4.40-4.70 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อเดือนส.ค.

   ส่วนหุ้นโฮม ดีโปท์ พุ่งขึ้น 4.42% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายพุ่งขึ้น 5.1% ในไตรมาส 3 สำหรับสาขาที่มีการเปิดดำเนินการมากกว่า 1 ปี ขณะที่สาขาในสหรัฐมีกำไรทะยานขึ้น 7.3% พร้อมกับเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีกำไรพุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 5.36 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีนี้ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 5.31-5.36 ดอลลาร์ และคาดว่ายอดขายในปีนี้ พุ่งขึ้น 5.7% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 5.2%-6.0%

     อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเรนจ์ รีซอส คอร์ป ร่วงลงกว่า 4.6% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 4.5% หุ้นโคบอท์ ออยล์ ดิ่งลง 6.9%

     ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน

      สื่อต่างประเทศรายงานว่า ข่าวการยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์เนื่องจากความวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุลอบวางระเบิดนั้น ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาด้วย

       นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 27-28 ต.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อจับสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ล่าสุด ซึ่งจัดทำโดย CMEGroup's Fedwatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น มีสูงเกือบ 70%

    สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจรายการอื่นๆของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 พ.ย. 2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,489.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด, +0.04%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,986.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด, +0.03%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,050.44 จุด ลดลง 2.75 จุด, -0.13%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.31 จุด เพิ่มขึ้น 133.00 จุด, +2.77%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,971.04 จุด เพิ่มขึ้น 257.81 จุด, +2.41%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,268.76 จุด เพิ่มขึ้น 122.38 จุด, +1.99%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,864.47 จุด เพิ่มขึ้น 104.37 จุด, +0.41%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,916.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด, +0.04%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,661.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด, +0.33%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,500.95 จุด เพิ่มขึ้น 58.77 จุด, +1.32%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,264.25 จุด เพิ่มขึ้น 253.43 จุด, +1.15%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,825.38 จุด เพิ่มขึ้น 52.46 จุด, +0.77%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,604.80 จุด ลดลง 2.16 จุด, -0.06%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,963.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.56 จุด, +1.06%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,630.63 จุด เพิ่มขึ้น 236.94 จุด, +1.22%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,419.42 จุด เพิ่มขึ้น 124.02 จุด, +1.50%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,118.20 จุด เพิ่มขึ้น 114.40 จุด, +2.29%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,174.30 จุด เพิ่มขึ้น 109.80 จุด, +2.17%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอล-มาร์ท และโฮม ดีโปท์ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,489.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,986.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.44 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.13%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ 

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.49% ปิดที่ 379.88 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.31 จุด เพิ่มขึ้น 133.00 จุด หรือ +2.77% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,971.04 จุด เพิ่มขึ้น 257.81 จุด หรือ +2.41% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,268.76 จุด เพิ่มขึ้น 122.38 จุด หรือ +1.99%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมในกรุงปารีส

          ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 122.38 จุด หรือ 1.99% ที่ 6,268.76 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากมีการคาดการณ์ในตลาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาด

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 99 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 43.57barrดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของสหรัฐส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ระลอกใหม่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ระดับ 1,068.60 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 14.171 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 10.5 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 855.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.05 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 546.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนจากเหตุโจมตีที่กรุงปารีส

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0650ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0678 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5213 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5197 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.40 เยน จาก 123.28 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0144 ฟรังก์ จาก 1.0101 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7091 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 537.00 จุด ลดลง 13.00 จุด, -2.36% 

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!