- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 12 November 2015 11:30
- Hits: 1880
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้า Sentiment แย่หลังกลุ่มสื่อสารทุ่มหนักแข่งประมูล 4G
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ไม่น่าจะดี เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมามี ratio ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ฯคาดไว้มากขึ้น
นอกจากนี้ ราคาประมูล 4G ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ดังนั้น ความคาดหวังมูลค่าส่วนเพิ่มจึงได้น้อยลงกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนอาจผิดหวังจากราคาหุ้นที่จะ Outperform แม้ราคาประมูลจะสูงกว่าที่คาดไว้มาก แต่เชื่อว่าบริษัทฯคงจะมีเหตุผล ซึ่งก็คงต้องรอดูต่อไป แต่มองว่า Sentiment ของกลุ่มสื่อสารจะแย่ลง อีกทั้งราคาน้ำมันก็ทำ New Low ด้วยทำให้กลุ่มน้ำมันไม่ดี
ในส่วนที่น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงมา 3 วันแล้ว ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมา 3 วัน ซึ่งก็น่าจะช่วยทำให้เป็นผลบวกต่อตลาดได้บ้าง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ก็คาดว่าน่าจะเป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า แต่ก็มองว่าเป็นเพียงแค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น
พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,394 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(11 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,702.22 จุด ลดลง 55.99 จุด(-0.32%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,067.02 จุด ลดลง 16.22 จุด(-0.32%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.00 จุด ลดลง 6.72 จุด(-0.32%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 46.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 125.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 32.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 พ.ย.58)1,390.15 จุด ลดลง 8.23 จุด(-0.59%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,058.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 พ.ย.58) ปิดที่ 42.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.28 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 พ.ย.58)ที่ 7.88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.78/80 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน รอดูตัวเลขรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
- ประมูลคลื่น 4จี ระอุราคาทะลุกว่า 5.33 หมื่นล้าน เกิน 150% เอไอเอสกระอัก, การประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในระบบ 4จี 2 ใบอนุญาต อายุ 18 ปี โดยมีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ร่วมประมูล
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ได้อนุมัติโครงการลงทุนที่จะเข้าร่วมในมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี ฟาสต์แทร็ก) ทั้งหมด 5 โครงการ วงเงิน 334,207 ล้านบาท โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดการลงทุนให้เกิดขึ้นตามกรอบเวลา
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายกระทรวงการคลังเสนอโครงร่างปฏิรูปภาษีให้พิจารณาภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลจะปฏิรูปภาษีให้ทันในรัฐบาลชุดนี้ โดยการปฏิรูปภาษีมีทั้งการเพิ่มลดอัตรา การพิจารณาประเภทภาษีใหม่ ในส่วนของภาษีนิติบุคคลได้มีการทำไปมากแล้วโดยการลดอัตราจาก 30% เป็น 20% เป็นการถาวร จึงจะไม่มีการปรับอะไรมากอีกในส่วนนี้
- ธปท.เผยธุรกิจบัตรเครดิตมียอดคงค้างเอ็นพีแอลในระบบแตะ 1.01 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกือบ 25% ปริมาณการใช้จ่ายโดยรวมหดตัวจากไตรมาสก่อน 4.88 ล้านบาท ยอดเบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 286 ล้านบาท แซงหน้าการใช้จ่ายในและต่างประเทศที่หดตัว 4.87 พันล้านบาท และ 302 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลหนี้เสียแตะ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มจาก นอนแบงก์
- บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุด โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังดูมืดมนไม่สดใสในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ยังไม่มีเครื่องมือที่จะมารับมือกับสภาพอาการช็อกของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศขยายวงเงินการขายเงินตราต่างประเทศ โดยอนุญาตให้ตัวแทนที่เป็นนิติบุคคล อาทิ โรงแรม บริษัททัวร์ ฯลฯ ขายธนบัตรเงินตราต่างประเทศให้ลูกค้าได้ไม่เกิน 8 แสนบาท/วัน/ราย จากเดิมไม่เกิน 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนบาท รวมทั้งอนุญาตให้นิติบุคคลซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศ หรือเช็ค รวมทั้งซื้อธนบัตรเงินตราต่างประเทศได้ไม่จำกัดจำนวน และยกเลิกข้อกำหนดที่ให้บุคคลหรือร้านรับแลกเงินต้องขายเช็คเดินทางเงินตราต่างประเทศที่รับซื้อจากธนาคารพาณิชย์ภายใน 15 วันด้วย
*หุ้นเด่นวันนี้
- RP (ท่าเรือราชาเฟอร์รี่)เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ โดยมีราคาขาย IPO ที่ 12 บาท/หุ้น โดย RP ดำเนินธุรกิจให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่เพื่อใช้โดยสารและขนส่งทางเรือในฝั่งอ่าวไทย จำนวน 2 เส้นทางระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะสมุย และระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีบริการเดินเรือแบบประจำทางตามเที่ยวเวลา และเหมาลำ ปัจจุบันมีเรือเฟอร์รี่บริการทั้งหมด 12 ลำ เป็นเจ้าของท่าเรือ 2 แห่ง ได้แก่ท่าเรือดอนสักสากล และท่าเรือสมุยสากล นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการโดยสารและขนส่งทางเรือเฟอร์รี่ของบริษัท
- QH (ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 3.00 บาท ช่วง 3Q58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 570 ล้านบาท ลดลง 20.5%QoQ และ 47%YoY หลักมาจากรายได้โดยรวม 4,308 ล้านบาท ลดลง 71%QoQ และ 15%YoY จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและการชะลอโอนรอมาตรการอสังหาฯ คาด 4Q58 จะกลับมาโตได้สูงสุดของปี จากการรับรู้รายได้โครงการขนาดใหญ่ Q อโศกในไตรมาสนี้ พร้อมปรับลดประมาณการปี 58 ลง คาดรายได้ลดลง 10% หรือที่ 19,315 ล้านบาท และกำไรลดลง 14% หรืออยู่ที่ 2,858 ล้านบาท โดยมีปัจจัยกดดันจากรายได้การขายโครงการอสังฯต่ำกว่าคาดมาก
- BANPU(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้าปี 59 ที่ 30 บาท มุมมองเชิงบวกต่อไตรมาส 4 แม้ว่าธุรกิจถ่านหินยังมีราคาขายทรงตัวต่ำ แต่ธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะหงสาที่เริ่มเดินเครื่องเฟส 2 พ.ย 58 จะช่วยสร้างรายได้ส่งผลให้ส่วนแบ่งขาดทุนลดลง อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 9 เดือนแรกพลิกขาดทุนสุทธิ 57 ล้านบาท -102%YoY จึงปรับลดประมาณการกำไรปี 58 และปี 59 ลงสู่ 56 ล้านบาทและ 563 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งลดลง 86% และ 57% ตามลำดับ ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 58 จะเป็นจุดต่ำสุดและจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในปี 59-60 หลังโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตทั้ง 3 เฟส นอกจากนี้หาก BANPU POWER (BPP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นการเพิ่ม wealth ให้แก่ BANPU ในอนาคต
- MTLS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 25 บาท กำไรสุทธิมากกว่าที่เราและตลาดไว้ +20% Q-Q, +58% Y-Y เป็น 220 ล้านบาท แนวโน้มจะดีต่อใน 4Q15
ตลาดหุ้นเอเชียขยับลงเช้านี้ หลังเยนแข็งกดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัว
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง
ดัชนี MSCI Asia Pacific หดตัวลงเล็กน้อย แตะที่ระดับ 133.06 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,644.65 จุด ลดลง 46.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,636.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,477.60 จุด เพิ่มขึ้น 125.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,426.76 จุด เพิ่มขึ้น 11.75 จุด
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,997.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,973.33 จุด ลดลง 8.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,663.48 จุด ลดลง 1.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,016.22 จุด เพิ่มขึ้น 32.50 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 21.92 จุด รับข่าวควบกิจการภาคเอกชน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) หลังจาก SABMiller PLC ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายสำหรับข้อเสนอซื้อกิจการจาก Anheuser-Busch InBev N.V. ซึ่งเป็นคู่แข่งของบริษัท
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับขึ้น 21.92 จุด หรือ 0.35% แตะที่ระดับ 6,297.20 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข่าวที่ว่า บริษัท SABMiller PLC SAB ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับข้อเสนอซื้อกิจการของบริษัทจาก Anheuser-Busch InBev ในราคา 44 ปอนด์ (66.75 ดอลลาร์) ต่อหุ้น
หุ้นเจ เซนต์บิวรี ลดลง 7.1% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ภายหลังจากห้างซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่รายนี้เปิดเผยว่าบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรก่อนหักภาษีได้ในครึ่งแรกของปีนี้ และคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนสำหรับตลอดทั้งปีลงได้ 225 ล้านปอนด์ (339.99 ล้านดอลลาร์) จากการระงับการจ่ายเงินปันผล
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดง 2.4% หลังเจ้าหน้าที่ของบราซิลระบุว่า การพังของเขื่อนเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน โดยเขื่อนดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างบีเอชพี บิลลิตัน และบริษัทเวล เอสเอ ของบราซิล
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับคาดการณ์ ECB กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้ ข่าวการควบรวมกิจการ และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชนยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 378.71 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,952.51 จุด เพิ่มขึ้น 40.35 จุด หรือ +0.82% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,907.87 จุด เพิ่มขึ้น 75.35 จุด หรือ +0.70% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,297.20 จุด เพิ่มขึ้น 21.92 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันเงินเฟ้อให้เข้าใกล้เป้าหมาย 2%
นายวิคเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธาน ECB กล่าวว่า การรักษาเสถียรภาพด้านราคาถือเป็นภารกิจหลักของ ECB และภาวะเงินเฟ้อของยูโรโซนในช่วงที่ผ่านมานั้น ยังคงไม่น่าพึงพอใจ นอกจากนี้ นายคอนสแตนซิโอยังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่เรียกร้องให้ ECB เริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน ด้วยการลดการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรืออาจยกเลิกมาตรการดังกล่าวก่อนกำหนด
หุ้น SABMiller ปรับขึ้น 1.9% หลังจาก Anheuser-Busch InBev (AB InBev) สนอซื้อกิจการ SABMiller อย่างเป็นทางการ มูลค่า 7.07 แสนล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น AB InBev พุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นคาล์สเบิร์ก พุ่งขึ้น 6.2% ขานรับผลประกอบการที่สดใส ขณะที่หุ้นเฮงเคล ทะยานขึ้น 6.7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงขายหุ้นค้าปลีก ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 55.99 จุด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทเมซี อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการของสหรัฐ (วันทหารผ่านศึก)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,702.22 จุด ลดลง 55.99 จุด หรือ -0.32% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,067.02 จุด ลดลง 16.22 จุด หรือ -0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.00 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.32%
ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากเมื่อวานนี้เป็นวันทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นวันหยุดราชการของสหรัฐและไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มค้าปลีกถูกทุบขาย โดยหุ้นเมซีร่วงลง 13.99% หุ้นวอล-มาร์ท สโตร์ ร่วงลง 1.9% หุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ดิ่งลง 3% หุ้นเจนี เพนนี ปรับลง 1.84% ส่วนหุ้นนอร์ดสตรอม หุ้นดิลลาร์ด และหุ้นโคห์ล ปรับตัวลงในกรอบ 3-9%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีกนั้น มาจากรายงานที่ว่า เมซี อิงค์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2558 อยู่ที่ 36 เซนต์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2557 ที่ระดับ 61 เซนต์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2558
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ย่ำแย่ของเมซี อิงค์ ยังได้ฉุดหุ้นบริษัทที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังในห้างเมซี โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 4.1% หุ้นไมเคิล คอร์ โฮลดิงส์ ปรับลง 4.12% หุ้นพีวีเอช คอร์ป ดิ่งลงกว่า 4% ส่วนหุ้น G-III Apparel ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังอย่าง "Calvin Klein" และ "Tommy Hilfiger" ในห้างต่างๆรวมถึงห้างเมซีด้วยนั้น ร่วงลงกว่า 11%
หุ้นอาลีบาบา ปรับตัวลง 1.94% แม้มีรายงานว่าอาลีบาบา ซึ่งเป็นอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน มียอดขายมากกว่า 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงชั่วโมงแรกของวัน Single Day หรือ วันคนโสดในจีน ซึ่งถือเป็นมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยวัน Single Day จะจัดขึ้นทุกวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปี และนับเป็นวันช้อปปิ้งครั้งใหญ่ที่สุดในจีน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบอ่อนแรงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับลง 0.89% ส่วนหุ้นอาปาเช ร่วงลง 7.3% หลังจากอานาดาร์โค ปิโตรเลียม คอร์ป ประกาศว่าจะยกเลิกการเสนอซื้อหุ้นของอาปาเช ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียม ร่วงลง 3.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์