- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 11 November 2015 10:46
- Hits: 3617
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ-จับตาการประมูล 4G,ปัจจัยนอกปท.ยังกดดัน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีฯจะแกว่งไซต์เวย์ในกรอบแคบ ทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้จับตาการประมูล 4G บนคลื่น 1800 MHz ในวันนี้ ว่าจะมีความราบรื่นหรือไม่ เพราะวานนี้ศาลปกครองได้รับคำร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ในการเรียกคืนคลื่น 1800 MHz
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยยังมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่ล่าสุดตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯจะออกมาดี
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวเศรษฐกิจโลกปีหน้าที่อาจจะเติบโตล่าช้ากว่าที่คาดไว้ ภายหลังจากที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าเป็นโต 3.3% จากเดิมที่คาดโต 3.6%
พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด แนวต้าน 1,400-1,405 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(10 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,758.21 จุด เพิ่มขึ้น 27.73 จุด(+0.16%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,083.24 จุด ลดลง 12.06 จุด(-0.24%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด(+0.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 69.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 7.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 13.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 24.82 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 พ.ย.58)1,398.38 จุด ลดลง 4.19 จุด(-0.30%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 776.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(10 พ.ย.58) ปิดที่ 44.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 พ.ย.58)ที่ 7.81 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.84/86 คาดแกว่งแคบในกรอบ 35.70-35.95 ไร้ปัจจัยใหม่
- การประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในระบบ 4จี ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันที่ 11 พ.ย. 2558 จำนวน 2 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้น 15,912 ล้านบาท โดยมีบริษัท แจส โมบายบรอดแบนด์ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น เข้าร่วมประมูล มีแนวโน้มว่าจะเกิดการแข่งขันที่รุนแรง แต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงว่าหลังจากประมูลไปผู้ชนะจะได้ใบอนุญาตไปดำเนินการ และหากศาลมีคำสั่งให้เป็นโมฆะจะเกิดการฟ้องร้องกันอีกยาว
- "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ"รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้บริษัท การบินไทย ปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการใหม่ และหากสิ้นเดือน มี.ค. 2559 การบินไทยไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูได้อย่างเป็นรูปธรรม ฝ่ายบริหารระดับสูงจะต้องพิจารณาตัวเอง
- นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทปี 2559 ว่าจะอ่อนค่าไปแตะ 38 บาท/เหรียญสหรัฐ ขณะที่สิ้นปีนี้เงินบาทจะอยู่ที่ 36 บาท/เหรียญสหรัฐ
- พาณิชย์คาดร่างกฎกระทรวง ปลด 4 ธุรกิจไม่ต้องขออนุญาตทำธุรกิจจากบอร์ดต่างด้าว มีผลบังคับใช้ปลายปีนี้ ทั้งแบงก์ สำนักงานธนาคาร ประกันชีวิต และวินาศภัย เหตุมีกฎหมายเฉพาะดูแลแล้ว กางตัวเลข 10 เดือน ต่างด้าวขนเงินลงทุนไทย 1.3 หมื่นล้านบาท
- ก.ล.ต.เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ลูกจ้าง เปิดช่องเลือกโอนย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปกองทุนอาร์เอ็มเอฟได้ หนุนการออมการลงทุนระยะยาว เผยเดิมลูกจ้างไม่มีทางเลือกหลังนายจ้างเลิกกิจการ หรือย้ายงานที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้าน ครม.ไฟเขียวต่ออายุรถเมล์-รถไฟฟรีอีก 6 เดือน
*หุ้นเด่นวันนี้
- SR (บมจ.สยามราช)เทรดวันนี้วันแรก ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเหมาะสมปี 2016 ที่ 4.20 บาท (PE 18.5 เท่า) จากราคาขาย IPO ที่ 3.50 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรปกติปี 2015 หดตัว 19% จากปีก่อนที่มีโครงการใหญ่ แต่คาดปี 2016 ฟื้นตัว 21%
SR เชี่ยวชาญในการก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 55% ของรายได้รวมงวด 1H15 อีก 35% ของรายได้มาจากการให้บริการก๊าซ NGV โดย SR มีปั๊มให้บริการของตัวเองในชื่อ “สยามราช" และให้บริการบำรุงรักษาปั๊มก๊าซ NGV ของ PTT ในเขตกทม.และปริมณฑล ซึ่งมีสัญญา 1-3 ปี รายได้ในส่วนนี้จึงค่อนข้างมั่นคงและโตต่อเนื่อง กำไรปกติปี 2013-14 โต 142% และ 88% ตามลำดับ
- TOP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 63 บาท ขาดทุนสุทธิตามคาด 2,294 ล้านบาทจากขาดทุนสต๊อคน้ำมัน 4,854 ล้านบาท และขาดทุน Forex 2,568 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว จะเป็นกำไรปกติ 4,581 ล้านบาท -11.5% Q-Q แนวโน้มผลประกอบการช่วงที่เหลือของปียังสอดคล้องกับกำไรทั้งปีที่คาด 12,142 ล้านบาท
- AAV(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 6 บาท Core Profit ไตรมาส 3/58 เติบโต 7%QoQ โดยอยู่ที่ 231 ล้านบาท และฟื้นตัวจากขาดทุน 256 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับ 9M58 มี Core Profit 1.05 พันล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจาก 308 ล้านบาทใน 9M57 ซึ่งเป็นไปตามคาด รายได้ไตรมาสนี้เติบโต 31%YoY ซึ่งมาจากปริมาณผู้โดยสารและอัตราการโดยสารที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มน้อยกว่ารายได้ โดยหลักมาจากต้นทุนน้ำมันที่ลดลง
- GFPT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 13.4 บาท กำไร 3Q58 ดีกว่าคาด 10% โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมกว่าที่ประมาณการไว้ ส่วนแนวโน้ม 4Q58 อ่อนลง QoQ เพราะราคาไก่/By Product อ่อนลง ส่งออกชะลอตามปัจจัยฤดูกาล แต่ในปี 59 กำไรเติบโตสูง 35% จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ภาวะอุปทานสูงคลี่คลายลง
ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนช่วงเที่ยงวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นแค่ 0.1% แตะ 132.87 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,602.01 จุด ลดลง 69.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,635.00 จุด ลดลง 5.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,394.15 จุด ลดลง 7.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,543.63 จุด เพิ่มขึ้น 6.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,993.81 จุด ลดลง 2.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,999.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,673.10 จุด ลดลง 13.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,975.29 จุด ลดลง 24.82 จุด
ทั้งนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในช่วงเที่ยงวันนี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค.
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 19.88 จุด เหตุวิตกศก.จีนฉุดหุ้นเหมือง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองให้ร่วงลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 19.88 จุด หรือ 0.32% ที่ 6,275.28 จุด
ตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 1.6% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะปรับขึ้น 1.5%
จีนนับเป็นผู้ซื้อสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ และนักวิเคราะห์เกรงว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์ในจีนย่ำแย่ลง ซึ่งเป็นปัจจัยถ่วงหุ้นกลุ่มเหมือง
หุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะหลายประเภท ร่วงลง 4.7% ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองแดง ปรับลง 2.3% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ผู้ผลิตแร่เหล็ก ลดลง 0.6%
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากหุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี แม้ว่าเผชิญกับภาวะขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรก
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐสดใส
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 376.27 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,912.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,832.52 จุด เพิ่มขึ้น 17.07 จุด หรือ +0.16% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,275.28 จุด ลดลง 19.88 จุด หรือ -0.32%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
หุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่แข็งแกร่งเกินคาด
หุ้นรอยัล เคพีเอ็น ปรับขึ้น 3.1% หลังจากรอยัล เคพีเอ็น ประกาศขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทเทเลโฟนิกา ดอยช์แลนด์ โฮลดิ้ง อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเทเลโฟนิกา ดอยช์แลนด์ โฮลดิ้ง ร่วงลง 2.6%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 27.73 จุด รับข้อมูลภาคค้าส่งสหรัฐ
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,758.21 จุด เพิ่มขึ้น 27.73 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,083.24 จุด ลดลง 12.06 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด หรือ +0.15%
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงจีน หลังจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2559 ในขณะที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ทั้งในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ลดแรงบวก ในขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ
กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นนับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
หุ้นแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 3.15% หลังจากเครดิต สวิสระบุว่า ยอดขายของแอปเปิลชะลอตัวลงในตลาดเอเชีย ซึ่งจะส่งผลกดดันราคาหุ้นแอปเปิลในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
การแสดงความคิดเห็นของเครดิต สวิส ยังได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิล รวมถึงหุ้นสกายเวิร์ค หุ้นเอวาโก หุ้นเซอร์รัส ลอจิก และหุ้น Qorvo โดยราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวลงในกรอบ 3.9-10%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 6.3% และหุ้นอัลโค อิงค์ ดิ่งลง 3%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 8.3% หุ้นพัลท์กรุ๊ป และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์