WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET5 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์หลังปัจจัยลบผ่อนคลาย,รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ

    นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ขึ้นได้ เนื่องจากปัจจัยที่สร้างความกังวลได้ผ่อนคลายลงไปแล้ว อย่างเรื่องการประมูล 4G ก็มีการออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่เลื่อนการประมูลออกไป และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่ออกมาดีขึ้น น่าจะเป็นตัวหนุนตลาดฯได้บ้าง

     อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันนี้ด้วยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในทางกลยุทธ์แนะเทรดดิ้งได้ในหุ้นขนาดกลาง อย่างหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯก่อสร้าง ส่วนหุ้นขนาดใหญ่รอให้ย่อตัวลงมาก่อนแล้วค่อยเข้าลงทุน

พร้อมให้แนวรับ 1,405 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(5 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,863.43 จุด ลดลง 4.15 จุด(-0.02%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,127.74 จุด ลดลง 14.74 จุด(-0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.93 จุด ลดลง 2.38 จุด(-0.11%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 77.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 8.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 136.84 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.19 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(5 พ.ย.58)1,413.16 จุด ลดลง 10.26 จุด(-0.72%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 632.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ย.58

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(5 พ.ย.58) ปิดที่ 45.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.4%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 พ.ย.58)ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 35.56/58 แนวโน้มอ่อนค่า หลังคาดตัวเลข Non farm สหรัฐดีขึ้น

      - พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) เปิดเผยหลังการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารของบริษัท กสท โทรคมนาคม ว่า กสทช.จะเดินหน้าประมูลคลื่น 1800 MHz และคลื่น 900 MHz ตามกำหนดระยะเวลาเดิม คือ วันที่ 11 พ.ย. และวันที่ 15 ธ.ค.

    - นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index : CCI) เดือน ต.ค. 2558 ปรับตัวดีขึ้นในรอบ 10 เดือน มาอยู่ที่ 73.4 จาก 72.1 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกรายการ

      - "สมคิด" มอบนโยบายปฏิรูประบบงบประมาณปี 2560 ลดความซ้ำซ้อน ใช้งบตรงเป้าหมาย ให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในกรอบ 6 บวก 1 ด้าน เผยชง ครม.วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ก่อนมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานเสนอรายละเอียดการใช้งบฯ

       - ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะการเงิน ณ สิ้นเดือน ก.ย. หรือสิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ว่า ปริมาณการระดมทุนของภาคธุรกิจเอกชนอยู่ในระดับทรงตัว ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ

*หุ้นเด่นวันนี้

      - QTC(โกลเบล็ก)เป้า 5.90 บาท คาดกำไรปี 58 +80%YoY เป็น 99 ลบ. โดยช่วง 2H58 เป็น High season ของบริษัทและมี Backlog ราว 460 ล้านบาท ส่วน 4Q58 จะมีการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานต่างๆหนุนต่อ Demand หม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัท นอกจากนี้ ปี 59 เน้นขยายฐานลูกค้าตลาดใน-นอกประเทศหนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนือง

       - FPI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 5.90 บาท 4Q15 อาจได้เห็นกำไรโตแรงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากงาน OEM ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปี 2016 คาดกำไรสุทธิโตไม่ต่ำกว่า 30% เพราะแบรนด์ที่ติดตลาดทำให้ได้ลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง และผลจากการผันตัวเองมารับงาน OEM ส่วนปัจจัยหนุนระยะยาวขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ FPI ร่วมลงทุนกับ ECF ประมูลงานจากรัฐ

        - MAKRO(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ"เป้า 44.1 บาท กำไรสุทธิ Q3/58 เพิ่มขึ้น 15.2% yoy และ 6.7% qoq เป็นไปตามคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 10.5% yoy (-0.2% qoq) ถึงแม้ว่ายอดขายต่อสาขาหดตัว 0.7% ในไตรมาสนี้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าสดซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ขายให้กับลูกค้ากลุ่ม HoReCa พร้อมคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็น High season และ สัดส่วนยอดขายจาก HORaCa เพิ่มมากขึ้น

      - SYNEX(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 6.88 บาท ผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาไม่ผิดหวัง โดยรายได้รวม 9 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 77% ของประมาณการ แต่ที่น่าสนใจคือกำไรรวม 9 เดือนคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 100% ของประมาณการ เนื่องจาก Margin ที่ปรับตัวดีขึ้นมากในปีนี้ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะสามารถคงระดับ Margin ดังกล่าวได้ต่อไป ปัจจัยหนุนในช่วงถัดไปได้แก่การประมูล 4G ที่น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขาย Smartphone และการขยายกิจการไปยัง Indochina มากขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ในคืนนี้ตามเวลาไทย เพื่อประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะรับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้หรือไม่

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นเล็กน้อยแตะที่ระดับ 134.81 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,194.34 จุด เพิ่มขึ้น 77.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,514.44 จุด ลดลง 8.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,914.20 จุด ลดลง 136.84 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,857.61 จุด เพิ่มขึ้น 7.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,048.17 จุด ลดลง 1.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,022.52 จุด ลดลง 1.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,686.35 จุด ลดลง 2.19 จุด

       ทั้งนี้ ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 47.68 จุด ขณะแบงก์ชาติวิตกแนวโน้มเศรษฐกิจ

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยมีปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมือง ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษได้แสดงความวิตกเกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่อไป

    ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 47.98 จุด หรือ 0.75% ที่ 6,364.90 จุด

      ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

      หลังการประชุมดังกล่าว BoE ได้ส่งสัญญาณว่า ทางธนาคารกลางจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปนานกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา

     ทั้งนี้ BoE มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และภาวะเงินเฟ้อในอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ว่า BoE ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างน้อยจนกว่าจะถึงปลายปีหน้า

   ขณะเดียวกัน BoE ยังแสดงความวิตกต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอังกฤษจะได้รับจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

    หุ้นแองโกล อเมริกัน นำตลาดร่วงลง โดยดิ่งลง 7.7% ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์เซส ปรับลง 4.4% หลังผลกำไรไตรมาส 3 อ่อนแรงลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงขายหุ้นพลังงาน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย

   ดัชนี Stoxx Europe ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 378.76 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,980.04 จุด เพิ่มขึ้น 31.75 จุด, +0.64% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,887.74 จุด เพิ่มขึ้น 42.50 จุด, +0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,364.90 จุด ลดลง 47.98 จุด, -0.75%

     หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นอาร์เซลอร์มิททัล ต่างก็ร่วงลงกว่า 4.6% ส่วนหุ้นเอเมค ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ ในกลุ่มพลังงานนั้น ดิ่งลงรุนแรงถึง 23% หลังจากบริษัทประกาศลดการจ่ายเงินปันผล อันเนื่องมาจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ

   หุ้นเครดิต อากริโคล ร่วงลง 8.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด

   นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐครั้งล่าสุดว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

     ทั้งนี้ ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 4.15 จุด ตลาดจับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,863.43 จุด ลดลง 4.15 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,127.74 จุด ลดลง 14.74 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.93 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.11%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐครั้งล่าสุดว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

    ทั้งนี้ ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

     นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 16,000 ราย สู่ระดับ 276,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 260,000 ราย

     ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 1.6% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส แต่ชะลอตัวจากที่ปรับตัวขึ้น 3.5% ในไตรมาส 2

     หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 4.64% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสสามของปี 2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% ขณะที่รายได้พุ่ง 41% แตะ 4.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 3.2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากภาคธุรกิจหันมาใช้พื้นที่โฆษณาบนเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้รายได้จากการโฆษณานั้นมากจนสามารถชดเชยงบประมาณที่ทางบริษัทได้ทุ่มให้กับโครงการต่างๆได้

   หุ้นควอลคอมม์ ดิ่งลง 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายและกำไรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 16% ขานรับผลประเกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท

      หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลง โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.3% ส่วนหุ้นทรานส์โอเชียน ร่วงลง 8.2% หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดต้นทุนในปีหน้าลงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับขึ้น 1.8% หุ้นสเตท สตรีท และหุ้นแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.6%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 พ.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,863.43 จุด                              ลดลง 4.15 จุด     -0.02%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,127.74 จุด                           ลดลง 14.74 จุด    -0.29%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,099.93 จุด                             ลดลง 2.38 จุด     -0.11%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,364.90 จุด                         ลดลง 47.98 จุด    -0.75%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,887.74 จุด                                เพิ่มขึ้น 42.50 จุด   +0.39%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,980.04 จุด                             เพิ่มขึ้น 31.75 จุด   +0.64%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,247.90 จุด          ลดลง 46.90 จุด    -0.89%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,193.00 จุด                 ลดลง 49.30 จุด    -0.94%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,850.18 จุด                                ลดลง 6.84 จุด     -0.08%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,116.41 จุด                          เพิ่มขึ้น 189.50 จุด  +1.00%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,049.41 จุด                             ลดลง 3.36 จุด     -0.16%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,522.82 จุด                          เพิ่มขึ้น 63.18 จุด   +1.83%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,122.45 จุด                  ลดลง 78.57 จุด    -1.09%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,051.04 จุด                                  ลดลง 2.53 จุด     -0.01%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,577.23 จุด          ลดลง 35.34 จุด    -0.77%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,688.54 จุด                          เพิ่มขึ้น 2.92 จุด    +0.17%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,023.65 จุด                           ลดลง 16.83 จุด    -0.55%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,304.20 จุด                             ลดลง 248.72 จุด   -0.94%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,863.43 จุด ลดลง 4.15 จุด หรือ -0.02% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 5,127.74 จุด ลดลง 14.74 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.93 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.11%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย

          ดัชนี Stoxx Europe ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 378.76 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,980.04 จุด เพิ่มขึ้น 31.75 จุด, +0.64% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,887.74 จุด เพิ่มขึ้น 42.50 จุด, +0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,364.90 จุด ลดลง 47.98 จุด, -0.75%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยมีปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมือง ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษได้แสดงความวิตกเกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่อไป

          ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 47.98 จุด หรือ 0.75% ที่ 6,364.90 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 45.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 60 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,104.20 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7.5 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 14.983 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 953.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 17.10 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 606.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ โดยคาดกันว่าจะช่วยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0883 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0856 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5213 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5376 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.69 เยน จาก 121.57 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9952 ฟรังก์ จาก 0.9942 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7143 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7150 ดอลลาร์

 

    ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 640.00 จุด ลดลง 17.00 จุด, -2.59% 

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!