WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET7โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET ปรับตัวลดลงต่อ สัญญาณทางเทคนิคชี้หลุดแนวรับ 1,360 จุด มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับถัดไป 1,340-1,360 จุด แนะติดตามใกล้ชิด
        โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคชี้ดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ 1,360 จุด มีโอกาสปรับลดลงต่อไปทดสทอบแนวรับระดับ 1,340-1,330 จุด เชื่อไม่มีการทำ Window dressing แนะ Wait&See ประเมินแนวรับ 1,340-1,330 จุด แนวต้าน 1,360 จุด
  นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหุ้นหลักที่มีผลกระทบต่อดัชนีฯ ส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับลงแรง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. แม้จะออกมาติดลบ 6.69% แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าเป็นไปตามคาด และคาดว่าทั้งปีน่าจะติดลบเช่นกัน สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อีกทั้งภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ไม่ได้แรงนัก ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์
   ขณะที่แรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารสหรัฐฯ ตลาดโดยรวมได้ตอบรับไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งเฟดเองได้มีการส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้ ในการประชุมอีกสองครั้งที่เหลือในเดือน ต.ค. และ ธ.ค. นี้
ส่วนการทำ Window Dressing มองว่าไม่มีนัยสำคัญอะไร เพราะโดยปกติตามสถิติแล้ว จะพบว่ามักจะไม่ค่อยทำ Window dressing สิ้นงวด Q3 แต่มักจะทำตอนสิ้นงวด Q2 และ Q4 มากกว่า
   "เป็นแรงขายตามจังหวะเทรด ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป อาจจะขายปรับพอร์ตก็เป็นได้ เพราะมูลค่าการซื้อขายน้อย พอมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ ย่อมเขย่าดัชนีฯ แล้ว ส่วนส่งออกที่ติดลบก็ไม่ได้มีนัยยะอะไร เป็นไปตามคาดอยู่แล้ว ปีนี้ทั้งปีก็คาดว่าจะติดลบ ส่วนทางเฟดได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หากไม่ใช่การประชุมเดือน ต.ค. ก็จะเป็นการประชุมในเดือน .ธ.ค. ส่วน window ไม่มีอะไร ตามสถิติไตรมาส 3 เขาไม่ค่อยทำกัน" นายเจริญกล่าว
   สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งลงต่อ ในทางเทคนิค ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญ 1,360 จุด มีโอกาสร่วงต่อไปแนวรับถัดไป 1,340-1,330 จุด อีกทั้งยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนมาสนับสนุนการลงทุน แม้จะคาดหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ ซึ่งมาตรการต่อไปอาจจะได้เห็นการกระตุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่คงต้องติดตามรายละเอียดว่าจะออกมาตรการอะไร และจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มอสังหาฯ มากน้อยขนาดไหน
   นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนชะลอตัวยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจีนเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของไทย และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ย่อมส่งผลกระทบต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
   ด้านกลยุทธ์ แนะ Wait&See รอดูสถานการณ์ว่าดัชนีฯ จะไปหยุดบริเวณไหน แล้วค่อยพิจารณาเข้าซื้อ พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,340-1,330 จุด แนวต้าน 1,360 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!