WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET38ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังเฟดคงดบ.ปรับเพิ่มประมาณการ GDP

     นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คงอัตราดอกเบี้ย และได้มีการปรับประมาณการตัวเลข GDP ปีนี้ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

   ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปก็เป็นการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์นี้ และในสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/58

พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(17 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,674.74 จุด ลดลง 65.21 จุด(-0.39%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด(+0.10%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,990.20 จุด ลดลง 5.11 จุด(-0.26%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 156.79 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 47.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 17.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.96 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 ก.ย.58)1,389.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด(+0.57%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,239.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 ก.ย.58) ปิดที่ 46.9 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 25 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 ก.ย.58)ที่ 8.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 35.78 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังเฟดคงดอกเบี้ย

    - กพช.ไฟเขียวแผนลงทุนระบบท่อก๊าซฯเส้นที่ 5 ของ ปตท.วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ส่วนแผนสร้างคลัง LNG แห่งใหม่สั่งตั้งคณะทำงานศึกษา ใน 3 เดือนหวังเปิดให้แข่งขันไม่ผูกขาดโดย ปตท.พร้อมเคาะแผนก๊าซฯ น้ำมัน และพลังงานทดแทน โดยแผนน้ำมันวางกรอบลดชนิดน้ำมันเบนซินจาก 5 ชนิดเหลือ 3 ชนิด โรงกลั่นใหม่หมดสิทธิเกิด จ่อสร้างคลัง LNG เพิ่มอีก 2 คลัง เล็งเก็บภาษีสรรพสามิต NGV 1 บ./กก.ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

                - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดสัมมนาวิชาการประจำปี นำเสนอผลงานวิจัยทางวิชาการเรื่อง พลวัตเงินเฟ้อไทยภายใต้กระแสโลก โดยระบุว่าไทยกำลังเผชิญบรรทัดฐานใหม่ (New Normal) ด้านเศรษฐกิจ ทำให้ปัจจัยหลักต่อเงินเฟ้อเปลี่ยนจากการค้าโลกเป็นราคาน้ำมัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

                - แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เร่งรัดการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมทั้งโครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริการด้านสาธารณูปโภคด้วย

                - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น กนง.ประเมินว่าการใช้จ่ายของภาคเอกชนยังเผชิญปัจจัยลบ แต่เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งจากการท่องเที่ยวและภาครัฐ โดยการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ชะลอตัวนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกที่หดตัวและรายได้ครัวเรือนที่ยังไม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตสูงและการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย

                - นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาทในขณะนี้แม้ว่าจะกลับมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 36 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่ยังไม่นิ่ง ยังขึ้นกับตลาดการเงินที่ยังไม่นิ่ง ส่วนหนึ่งเพราะรอผลการตัดสินใจการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

*หุ้นเด่นวันนี้

                - SPALI(โกลเบล็ก)เป้า 32.20 บาท ปี 2558 มี Backlog  รองรับกว่า 1.8 หมื่นลบ. คาดกำไรปี 58 ที่ 4.7 พันลบ. +11% และปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง Gross margin สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ อีกทั้งคลังเตรียมเสนอลดภาษีแบบถาวรกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯเข้าครม.ในปีนี้

                - IFEC (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 15.60 บาท โครงการลม 10 MW ที่ อ.ปากพนัง เริ่ม COD ปลาย ก.ย. 58

                - PTT (เคเคเทรด)เป้า 363 บาท Valuation ถูก ซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.97 เท่า, หากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามา PTT ซึ่งเป็นหุ้น Big cap น่าจะได้รับความสนใจก่อน โดยวานนี้ ถูกซื้อผ่าน NVDR มากสุดเป็นอันดับ 3

                - SCN(เคเคเทรด)เป้า 14.2 บาท ราคาปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้าจนมี Upside จากราคาเหมาะสมสูงถึง 40%, มี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากงาน EPC ตามแผนขยายสถานี NGV ของ PTT ในปี 2559

                - CPN(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 60 บาท ชอบรายได้ค่าเช่าที่ยั่งยืนจากการพัฒนาศูนย์การค้าของ CPN ด้วยคาดว่า EPS จะเติบโตเฉลี่ยที่ 18% ทั้งนี้ CPN ประกาศลงทุนในธุรกิจที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมบนที่ดินบริเวณศูนย์การค้าของบริษัท ในโครงการเชียงใหม่ ขอนแก่น และระยอง ต้นทุนก่อสร้างสำหรับ 3 โครงการคอนโดอยู่ที่ 1,626 ลบ. โครงการเหล่านี้เป็นโครงการนำร่องเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในตลาดที่อยู่อาศัยและเพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์จากที่ดินที่มีอยู่ จำนวนเงินลงทุนนั้นไม่สูงเมื่อเทียบกับธุรกิจศูนย์การค้าของบริษัทฯ

                - SC(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 3.63 บาท ล่าสุดยอดขาย(Presales)ก.ค.-ส.ค.58 เป็น 1,630 ล้านบาท ทั้งนี้โอกาสที่จะบรรลุเป้าการขายยังอยู่ในวิสัยที่พอจะทำได้ เพราะยอดขายในรอบ 1H58 เป็น 5,900 ล้านบาท แสดงว่ายอดขายสะสมต้นปี-ส.ค.58 เป็น 7,530 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58% จากเป้าขาย พร้อมคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจเป็น 10% และ 12% เทียบ y-o-y อีกทั้งอัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์ดีเป็น 5.2% และ 5.8% ตามลำดับ สำหรับกำไรรายไตรมาสที่จะดีที่สุดในรอบปีนี้จะอยู่ที่ 3Q58 หรือ 4Q58 ด้านยอดขายรอโอน(Backlog) ณ สิ้น 1H58 เป็นการรับประกันรายได้ปีนี้และปีหน้าในอัตรา 62% และ 35% ตามลำดับ ถือว่ามั่นคงพอควร

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ หลังเฟดแสดงมุมมองลบต่อเศรษฐกิจโลก

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด และยังได้แสดงมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 129.39 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,275.48 จุด ลดลง 156.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,807.25 จุด ลดลง 47.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,427.52 จุด ลดลง 17.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,978.39 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,893.21 จุด ลดลง 2.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,680.58 จุด ลดลง 0.96 จุด

   ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดลงมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ

   แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 42.22 จุด ก่อนทราบผลประชุมเฟด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด

     ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 42.22 จุด หรือ 0.68% ที่ระดับ 6,186.99 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในขณะที่นักลงทุนรอดูผลการตัดสินใจของเฟดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษหรือไม่

     หุ้นสมิธส์ กรุ๊ป ลดลง 4.2% นำตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง หลังจากที่บริษัทโรทอร์ค ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันเปิดเผยคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

     หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ลดลง 2.6% และหุ้นซินแคลร์ ไอเอส ฟาร์มา พุ่งขึ้น 17% หลังระบุว่า บริษัทอาจอาจจะตกเป็นเป้าหมายในการซื้อกิจการ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ ก่อนตลาดรู้ผลการประชุมเฟด

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะสิ้นสุดลง

      ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.2% ปิดที่ 361.21 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,655.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,229.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.99 จุด ลดลง 42.22 จุด หรือ -0.68%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด

     ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดลงมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ

     แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นริโอทินโต และหุ้นอันโตฟากัสต้า ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.1%

     อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของสเปนปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบังเกีย พุ่งขึ้น 9.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน ขณะที่หุ้นบังโค เดอ ซาบาเดลล์ และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสปานอล ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 4.6% เพราะได้แรงหนุนหลังจากเอชเอสบีซีปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ ก่อนตลาดรู้ผลการประชุมเฟด

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะสิ้นสุดลง

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.2% ปิดที่ 361.21 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,655.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,229.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.99 จุด ลดลง 42.22 จุด หรือ -0.68%

   ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด

   ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดลงมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ

   แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา

   หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นริโอทินโต และหุ้นอันโตฟากัสต้า ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.1%

   อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของสเปนปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบังเกีย พุ่งขึ้น 9.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน ขณะที่หุ้นบังโค เดอ ซาบาเดลล์ และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสปานอล ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 4.6% เพราะได้แรงหนุนหลังจากเอชเอสบีซีปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 65.21 จุด หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ย

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด และยังได้แสดงมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟดส่งผลให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,674.74 จุด ลดลง 65.21 จุด หรือ -0.39% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,990.20 จุด ลดลง 5.11 จุด หรือ -0.26%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดลงมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ

   แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา

  ส่วนประเด็นอัตราดอกเบี้ยนั้น เฟดระบุว่า ในการตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดนั้น เฟดต้องการที่จะเห็นว่าตลาดแรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นอีก และมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

  อย่างไรก็ตาม นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยังคงสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟด 13 จาก 17 มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

   นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 3% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.126 ล้านยูนิต ขณะที้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะแตะระดับ 1.18 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.

    หุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่หุ้นเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ ดิ่งลง 2.1%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่ออุตสาหกรรมการบิน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นสปิริท แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 6.7%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,674.74 จุด                         ลดลง 65.21 จุด     -0.39%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,893.95 จุด                     เพิ่มขึ้น 4.71 จุด     +0.10%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,990.20 จุด                       ลดลง 5.11 จุด      -0.26%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.99 จุด                   ลดลง 42.22 จุด     -0.68%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,229.58 จุด                          เพิ่มขึ้น 2.37 จุด     +0.02%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,655.14 จุด                        เพิ่มขึ้น 9.30 จุด     +0.20%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,445.50 จุด                          เพิ่มขึ้น 112.21 จุด   +1.35%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,432.27 จุด                    เพิ่มขึ้น 260.67 จุด   +1.43%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,976.49 จุด                        เพิ่มขึ้น 1.04 จุด     +0.05%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,171.20 จุด      เพิ่มขึ้น 47.60 จุด    +0.93%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,146.80 จุด            เพิ่มขึ้น 47.90 จุด    +0.94%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,086.06 จุด                     ลดลง 66.20 จุด     -2.10%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,123.99 จุด             เพิ่มขึ้น 30.07 จุด    +0.42%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,854.63 จุด                              ลดลง 112.03 จุด    -0.51%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,378.39 จุด      เพิ่มขึ้น 45.88 จุด    +1.06%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,681.54 จุด                      เพิ่มขึ้น 34.39 จุด    +2.09%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,895.81 จุด                      เพิ่มขึ้น 27.07 จุด    +0.94%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด และยังได้แสดงมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟดส่งผลให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,674.74 จุด ลดลง 65.21 จุด หรือ -0.39% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,990.20 จุด ลดลง 5.11 จุด หรือ -0.26%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะสิ้นสุดลง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.2% ปิดที่ 361.21 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,655.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,229.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.99 จุด ลดลง 42.22 จุด หรือ -0.68%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด

          ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 42.22 จุด หรือ 0.68% ที่ระดับ 6,186.99 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปกว่า 2.5 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ ภายหลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างพลิกความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 46.9 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 49.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะสิ้นสุดลง

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,117.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.9 เซนต์ ปิดที่ 14.984 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 7.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 968.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 12.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 599.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุด

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1405 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1287 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5626 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5495 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.16 เยน จาก 120.62 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9618 ฟรังก์ จาก 0.9695 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7270 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7190 ดอลลาร์ 

      ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 883.00 จุด เพิ่มขึ้น 69.00 จุด, +8.48%              

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!