WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market4ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นตาม ตปท.เล็งกลุ่มพลังงานหนุน-คาดเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ย

       นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้าตามตลาดสหรัฐฯ โดยกลุ่มพลังงาน Rally หลังจากที่สต็อคน้ำมันของสหรัฐฯลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด และตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในงวดนี้ โดยให้น้ำหนัก 50%

     ทั้งนี้ วันนี้ตลาดบ้านเราก็คงจะได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเช่นเดียวกัน แต่การปรับตัวขึ้นของดัชนีฯคงจะไม่แรง เนื่องจากยังจับตาผลประชุมเฟดอยู่

    พร้อมให้แนวรับ 1,375-1,368 จุด ส่วนแนวต้าน 1,392-1,400 ถัดไป 1,410-1,430 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(16 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,739.95 จุด พุ่งขึ้น 140.10 จุด(+0.84%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,889.24 จุด เพิ่มขึ้น 28.72 จุด(+0.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด(+0.87%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 190.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 20.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 206.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 44.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 23.81 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ก.ย.58)1,381.80 จุด เพิ่มขึ้น 11.15 จุด(+0.81%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 388.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ก.ย.58) ปิดที่ 47.15 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.56 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ก.ย.58)ที่ 8.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 35.84 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน ตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ย

                - นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการภาษีถาวรเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะสรุปแล้วเสร็จเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณาภายในสิ้นปีนี้ โดยการลดภาษีที่เกี่ยวข้องประมาณ 3-4 ประเภทลงจากอัตราจัดเก็บปัจจุบันเป็นอัตราใหม่ถาวร ประกอบด้วยภาษีเงินได้ ภาษีการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ ส่วนอัตราภาษีที่กำลังศึกษายังไม่ขอเปิดเผยตัวเลข

                - เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุม บีโอไอ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการลงทุนในปี 2558-2559 โดยกำหนดให้กิจการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558-31 ธ.ค. 2559 ที่มีการดำเนินการจริงทั้งการผลิตและการบริการภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการดังกล่าว

                - ก.คลังหวังปฏิรูปจัดซื้อจัดจ้างเป็นระบบอีมาร์เก็ตหรืออีบิดดิ้งลดรอยรั่ว ช่วยประหยัดเงินมหาศาล เผย 8 ปี เงินลงทุนภาครัฐ 8-9 ล้านล้านบาท ลดได้ 10% เท่ากับ 9 แสนล้านบาท ยัน 1 ต.ค. เริ่มใช้กับโครงการ 2 ล้านบาทขึ้นไป ด้านองค์กรต้านคอร์รัปชั่นไม่เชื่อป้องกันทุจริตได้หมด

                - กนง.มีมติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ย้ำเป็นระดับต่ำเพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว จ่อปรับจีดีพี 25 ก.ย.นี้ คาดโตต่ำกว่า 3% "คลัง" รุกคืบลดภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ หวังเสนอ ครม.ภายในปีนี้ หุ้นเด้งรับปิดบวก 11 จุด ยืนเหนือ 1,380 อีกรอบ

*หุ้นเด่นวันนี้

                - PTT(เคเคเทรด)เป้า 363 บาท Valuation ถูก ซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.97 เท่า, มี Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้

                - LH (เคเคเทรด)เป้า 10 บาท ยอด Presales ฟื้นตัวแรง +35% MoM (สูงสุดนับตั้งแต่ ก.พ.58) หนุนด้วยสินค้าแนวราบ ขณะที่ผลประกอบการ 4Q58 มีปัจจัยหนุนจากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน REIT ของ Terminal 21 ในส่วนของโรงแรม เราคาดปีหน้ากำไรกลับมาเติบโต 9% YoY เทียบกับปีนี้ที่คาดหดตัวแรง 24%

                - LPN(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 18.50 บาท กำไรสุทธิปี 58 เติบโตสูงสุดในกลุ่ม โดยประมาณการไว้ที่ +35%YoY เพราะมีการโอนคอนโดเข้ามามาก ส่วนปี 59 คาดการณ์กำไรสุทธิขยายตัวต่อ 8% บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ในปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท โดย 1H58 เปิดขายไปแล้ว 4.8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเปิดขายใน 2H58 บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงราว 15-16% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.5 เท่า จ่ายปันผลสูง คาดการณ์ Dividend Yield ปี 58-59 เท่ากับ 5.5% และ 6.0% ตามลำดับ

                - TUF(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 22.40 บาท ประกาศโครงการประกันราคากุ้งขั้นต่ำรับซื้อ 1.2 หมื่นตัน ระยะเวลา 6 เดือน (ต.ค.58-มี.ค.59)ใช้เงิน 1.5-2.0 พันล้านบาท คาดจะมีเกษตรกรเข้าร่วมราว 1.6 พันราย บริษัทคาดหวังจูงใจให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งมากขึ้นเพราะขายได้ในราคาไม่ขาดทุน ขณะที่บริษัทก็มีความมั่นคงทางวัตถุดิบมากขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 58-59 จะขยายตัว 13% และ 10% ตามลำดับ ปัจจัยที่ติดตาม คือ ความคืบหน้าของดีลการเข้าซื้อ Bumble Bee

                - SAPPE(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2016 ที่ 37 บาท ความสำเร็จคือการใช้วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของไทย(วุ้นมะพร้าว ว่านหางจระเข้)และด้วยรสชาติ การรุกตลาดเป็นเจ้าแรกๆ และมีพันธมิตรในการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง ทำให้ SAPPE จะเติบโตในตลาดส่งออกต่อไปได้ การขยายกำลังการผลิตอีก 30% สิ้นปีนี้ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น แต่กำไร 2H15 จะชะลอกว่าครึ่งปีแรกตามฤดูกาลและมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดในประเทศ จึงคาดกำไรสุทธิปีนี้โตเพียง 8.5% แต่จะเร่งตัวขึ้นเป็นโตเฉลี่ย 24.7% ในปี 2016-17

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ รับคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนนิวยอร์ก เนื่องจากการปรับตัวลงของตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้

                ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.5% แตะ 129.12 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,361.99 จุด เพิ่มขึ้น 190.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,131.98 จุด ลดลง 20.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,172.68 จุด เพิ่มขึ้น 206.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,377.31 จุด เพิ่มขึ้น 44.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,989.07 จุด เพิ่มขึ้น 13.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,877.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,670.96 จุด เพิ่มขึ้น 23.81 จุด

                ตลาดได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนส.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 91.61 จุด รับข่าวซื้อกิจการภาคเอกชน

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นบริษัท SABMiller หลังจากที่บริษัท Anheuser-Busch InBev NV ประกาศว่า บริษัทจะยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของ SABMiller  ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในวงเงินสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

                ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 91.61 จุด หรือ 1.49% ที่ 6,229.21 จุด

                หุ้น SABMiller พุ่งขึ้น 20% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท Anheuser-Busch InBev NV ยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการ SABMiller

                หุ้นเกลนคอร์เพิ่มขึ้น 5.2% หลังบริษัทประกาศขายหุ้นออกใหม่ในวงเงิน 2.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อนำมาจ่ายชำระหนี้และปกป้องอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท

                นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมเฟดในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนส.ค.

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

                ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 361.87 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,645.84 จุด เพิ่มขึ้น 76.47 จุด หรือ +1.67% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,227.21 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือ +0.38% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,229.21 จุด เพิ่มขึ้น 91.61 จุด หรือ +1.49%

                นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมเฟดในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนส.ค.

                หุ้น SABMiller เอสเอบีมิลเลอร์ พุ่งขึ้น 20% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท Anheuser-Busch InBev NV ยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการ

                หุ้นริชมอนท์ ซึ่งผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดญี่ปุ่นและยุโรป ขณะที่หุ้นแอร์เมส อินเตอร์เนชันแนล ปรับขึ้น 3.8% และหุ้นอินดิเท็กซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Zara พุ่งขึ้น 5.9% ขานรับยอดขายที่ดีเกินคาดของบริษัท

                สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 0.1% ในเดือนส.ค. ลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 0.2% โดยการปรับลดอัตราเงินเฟ้อของเดือนส.ค. เกิดจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน

                นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำดังกล่าวจะทำให้ธนาคารกลางยุโรปขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของทางธนาคารกลาง

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 140.10 จุด ตลาดจับตาผลประชุมเฟด

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐยังช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.นี้

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,739.95 จุด พุ่งขึ้น 140.10 จุด หรือ +0.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,889.24 จุด เพิ่มขึ้น 28.72 จุด หรือ +0.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด หรือ +0.87%

                ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเกินคาด ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.9%

                หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาทองคำและทองแดงปรับตัวขึ้น โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นฟรีพอร์ท แมคมอร์แรน ปรับขึ้น 4.9% และหุ้นอัลโค อิงค์ พุ่งขึ้น 2.3%

                หุ้นกลุ่มขนส่งปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูเนียน แปซิฟิก หุ้นซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป และหุ้นนอร์ฟอล์ค เซาเทิร์น ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.2%

                นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.นี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนส.ค.

                ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่สหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้และมีส่วนช่วยหนุนตลาดนั้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นในเดือนก.ย. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2005  และผลการสำรวจของ Investors Intelligence (II) พบว่า ความเชื่อมั่นของที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

                นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 2/2558 และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ย.เฟดฟิลาเดลเฟีย

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ก.ย.2558

           ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,739.95 จุด                    เพิ่มขึ้น 140.10 จุด    +0.84%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,889.24 จุด                 เพิ่มขึ้น 28.72 จุด     +0.59%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,995.31 จุด                  เพิ่มขึ้น 17.22 จุด     +0.87%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,229.21 จุด              เพิ่มขึ้น 91.61 จุด     +1.49%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,227.21 จุด                      เพิ่มขึ้น 39.08 จุด     +0.38%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,645.84 จุด                   เพิ่มขึ้น 76.47 จุด     +1.67%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,333.29 จุด                      เพิ่มขึ้น 73.30 จุด     +0.89%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,171.60 จุด                เพิ่มขึ้น 145.12 จุด    +0.81%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,975.45 จุด                    เพิ่มขึ้น 37.89 จุด     +1.96%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,123.50 จุด  เพิ่มขึ้น 76.90 จุด     +1.52%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,098.90 จุด        เพิ่มขึ้น 80.50 จุด     +1.60%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,152.26 จุด                 เพิ่มขึ้น 147.09 จุด    +4.89%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,093.92 จุด          เพิ่มขึ้น 4.91 จุด      +0.07%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,966.66 จุด                             เพิ่มขึ้น 511.43 จุด    +2.38%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,332.51 จุด    ลดลง 14.65 จุด      -0.34%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,868.74 จุด                     เพิ่มขึ้น 26.80 จุด     +0.94%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,963.97 จุด                      เพิ่มขึ้น 258.04 จุด    +1.00%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐยังช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.นี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,739.95 จุด พุ่งขึ้น 140.10 จุด หรือ +0.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,889.24 จุด เพิ่มขึ้น 28.72 จุด หรือ +0.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด หรือ +0.87%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 361.87 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,645.84 จุด เพิ่มขึ้น 76.47 จุด หรือ +1.67% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,227.21 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือ +0.38% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,229.21 จุด เพิ่มขึ้น 91.61 จุด หรือ +1.49%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นบริษัท SABMiller หลังจากที่บริษัท Anheuser-Busch InBev NV ประกาศว่า บริษัทจะยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของ SABMiller  ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในวงเงินสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 91.61 จุด หรือ 1.49% ที่ 6,229.21 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างพลิกความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อลดลงในเดือนส.ค. ซึ่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.4 ดอลลาร์ หรือ 1.49% ปิดที่ระดับ 1,119.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 55.9 เซนต์ ปิดที่ 14.885 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 17.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 975.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 611.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปในการประชุมนโยบายการเงินที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1287 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1278 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5495 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5332 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.62 เยน จาก 120.46 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9695 ฟรังก์ จาก 0.9742 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7190 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์

 

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 814.00 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด, +1.50%

อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!