- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 07 September 2015 10:59
- Hits: 9904
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้รับแรงกดดันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ-วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศหลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไปราว 6-7 เดือน แม้กระบวนการยังเดินหน้าต่อไป แต่มีความไม่แน่นอนเพิมขึ้น
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯออกมาดี ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลง ซึ่งก็เป็นการเร่งต่อมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่อาจจะมีขึ้นในเดือน ก.ย.นี้ ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ อย่างไรก็ดีให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของจีนในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(4 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,102.38 จุด ลดลง 272.38 จุด(-1.66%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,683.92 จุด ลดลง 49.58 จุด(-1.05%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,921.22 จุด ลดลง 29.91 จุด(-1.53%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 117.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 10.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 157.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 21.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 10.66 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ก.ย.58) 1,370.75 จุด ลดลง 12.73 จุด (-0.92%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,249.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ก.ย.58) ปิดที่ 46.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 70 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ก.ย.58)ที่ 6.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทแตะ 36.01 บาท จากเปิด 35.95/97 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อ
- สปช.โหวตคว่ำ ร่าง รธน.ด้วยคะแนน 135 ต่อ 105 งดออกเสียง 7 หลังมีกระแส"บิ๊ก คสช."สั่งล็อบบี้ให้คว่ำ ก่อนพังในชั้นประชามติ "ประยุทธ์" ยันเดินตามโรดแมปเดิมตั้ง กก.ยกร่าง 21 คนใน 30 วัน ทำการร่าง รธน.ใน 180 วัน แล้วให้ประชาชนลงประชามติจากนั้นออกกฎหมายลูก คาดเลือกตั้งปี 60 "บวรศักดิ์" แถลงอำลาเก้าอี้ บอกโล่งใจ ไม่รับเป็น กก.ยกร่างอีก"ชม 3 บิ๊กทหาร"ที่ลงมติเห็นชอบ แต่ก็เข้าใจทหารที่โหวตคว่ำ เพราะยังต้องอยู่ในระบบราชการ"สิระ"โวย สปช.ร่างเอง คว่ำเอง แฉมีล็อบบี้ชัด ยันคืนเงินเดือน สปช.1.7 ล้านวันนี้ ด้าน"วันชัย"ปัด"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"ไม่เกี่ยว แบะท่าพร้อมรับเก้าอี้สภาขับเคลื่อนฯ
- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เปิดเผยว่า จากการประเมินผลการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz สำหรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือ 4จี ในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนของเอกชน และทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้มากถึง 5 แสนล้านบาท ภายในปี 2560
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ในรอบ 11 เดือนถือว่าทำได้น้อยมาก แม้ในงบรวม 2.57 ล้านล้านบาท จะเบิกจ่ายได้ 2.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 85% แต่กลับเป็นการเบิกจ่ายงบประจำถึง 1.95 ล้านล้านบาท จากวงเงิน 2.15 ล้านล้านบาท
- แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ วาระสำคัญจะมีการพิจารณาปรับราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ประจำเดือน ก.ย.ลงมาจากปัจจุบัน 0.67-1 บาท/กก.ตามทิศทางราคาแอลพีจีตลาดโลกที่ลดลง 52 เหรียญสหรัฐ/ตัน มาอยู่ที่ 327 เหรียญสหรัฐ/ตัน
- นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า การปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้านตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อก 2 ของรัฐบาลที่คิดดอกเบี้ยผู้กู้ 0% ในระยะ 2 ปีแรก ซึ่งเป็นเงินกู้ที่ออกมาไล่เลี่ยกับการปล่อยกู้นาโนไฟแนนซ์ที่รัฐบาลส่งเสริมให้บริษัทเอกชนปล่อยกู้ แต่คิดดอกเบี้ย 36% นั้น ไม่น่าจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนผู้สนใจจะกู้ เพราะกลุ่มเป้าหมายที่กองทุนหมู่บ้านและนาโนไฟแนนซ์จะปล่อยกู้นั้นเป็นคนละกลุ่มกัน
- ดอนเมืองส่อวุ่นรับไฮซีซั่นหลังแผนเปิดใช้อาคารหลัง 2 เสร็จไม่ทันต้องเลื่อนไปปลายปี เผยยอดผู้โดยสารปีนี้จ่อทะลัก 30 ล้านคน เกินความจุที่รับได้ 18.5 ล้านคน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TMB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.32 บาท จะได้ประโยชน์โดยตรง จากมาตรการช่วยเหลือ SME ซึ่งรัฐมนตรีคลังจะเสนอให้ครม.พิจารณาในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อจากธุรกิจ SME อยู่ในระดับสูง และกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป จากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องใน 3Q58 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +33.1% yoy เป็น 10,512 ล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโต +21.7% yoy ในปี 2559
- SPALI(โกลเบล็ก)เป้าปี 58 เท่ากับ 32.20 บาท โดยปี 2558 มี Backlog รองรับกว่า 1.8 หมื่นลบ.คาดกำไรปี 58 ที่ 4.7 พันลบ. +11% ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง Gross margin สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ และคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นภาษี ค่าโอนและค่าฟี เน้นบ้านต่ำกว่า 2 ล้านบาท
- SAT (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 19.50 บาท มองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยตั้งแต่ 2H58 และบริษัทยังมีการกระจายความเสี่ยงทางรายได้ไปยังกลุ่มลูกค้าเครื่องจักรกลการเกษตรที่คาดการผลิตเติบโตดีกว่ากลุ่มยานยนต์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากแผนใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาค โดยมีแผนขายการผลิตเฉลี่ย (CAGR) 11% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการขยายกำลังการผลิตราว 6% ต่อปี โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากคูโบต้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 22% ในปี 60 รวมทั้งราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 10 เท่า ซึ่งถือว่ายังถูก นอกจากนี้คาดให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4% ในปี 58
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่นร่วง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าได้ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็วิตกกังวลเรื่องความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 0.5% แตะ 124.17 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,674.82 จุด ลดลง 117.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,683.31 จุด ลดลง 157.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,990.76 จุด ลดลง 9.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,883.36 จุด ลดลง 2.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,842.28 จุด ลดลง 21.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,578.50 จุด ลดลง 10.66 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดร่วง 151.18 จุด หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากตัวเลจจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐไม่ได้ทำให้มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หรือไม่
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 151.18 จุด หรือ 2.44% ที่ 6,042.92 จุด
ตลาดได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. แต่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.3% ในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.2%
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวนับว่ามีความสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประเมินตลาดแรงงานสหรัฐ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งหน้าในช่วงกลางเดือนนี้ หรือจะชะลอเวลาออกไป
อย่างไรก็ตาม ต้วเลขจ้างงานล่าสุดได้แสดงให้เห็นถึงภาพรวมที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่นักวิเคราะห์จะประเมินช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองนำตลาดร่วงลง โดยหุ้นบีพีร่วง 4.9% หลังแบงก์ ออฟ อเมริกาปรับลดอันดับความน่าลงทุน ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลงกว่า 6%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกแนวโน้มเฟดขึ้นดบ.หลังสหรัฐเผยข้อมูลจ้างงาน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้า เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ขณะที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 รูดลง 9.13 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 353.11 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ลดลง 130.71 จุด หรือ 2.81% ปิดที่ 4,523.08 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ร่วงลง 279.80 จุด หรือ 2.71% ปิดที่ 10,038.04 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับลง 151.18 จุด หรือ 2.44% ปิดที่ 6,042.92 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. แต่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.3% ในเดือนก.ค.
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.2%
ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญที่ทั่วโลกจับตาก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในช่วงกลางเดือนนี้ เพื่อพิจารณาประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
แต่ตัวเลขจ้างงานล่าสุดไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่นักวิเคราะห์จะสามารถประเมินช่วงเวลาในการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
หุ้นบีพีร่วงลงเกือบ 5% หลังแบงก์ ออฟ อเมริกาปรับลดอันดับความน่าลงทุน ขณะที่หุ้นลอรีอัล อ่อนแรงลง 3.4% หลังบริษัทประเมินว่าตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกจะขยายตัวที่ระดับต่ำของช่วงการคาดการณ์
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 272.38 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลจ้างงาน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนส.ค.ส่งผลให้มีความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 272.38 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ 16,102.38 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับลง 29.91 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 1,921.22 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 49.58 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 4,683.92 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.3% ในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.2%
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 245,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลดังกล่าวนับว่ามีความสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประเมินตลาดแรงงานสหรัฐ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งหน้าในช่วงกลางเดือนนี้ หรือจะชะลอเวลาออกไป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่พากันร่วงลง ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
อินโฟเควสท์