- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 06 August 2015 21:13
- Hits: 4144
โบรกฯ มองหุ้นไทยพรุ่งนี้มีลุ้นรีบาวน์ตามเส้นเทคนิค แต่ข่าวร้ายทั้งใน-นอกปท.รอกดดันเพียบ ให้ NUSA-EFORL-SVI-PTTGC เป็นหุ้นเด่น
โบรกฯ มองหุ้นไทยพรุ่งนี้มีลุ้นรีบาวน์ตามเส้นเทคนิค แต่ข่าวร้ายรอกดดันเพียบ ทั้งราคาน้ำมันดิ่ง - เฟดจ่อขึ้นดบ. แต่เชื่องบบจ. Q2/58 ยังออกมาดี ประเมินแนวโน้มทั้งปีโต 25-30% แต่ส่งออกยังทรุดหนักถ่วงตลาด แนะขึ้นขาย-ลงซื้อ หรือลงทุนหุ้นรายตัว อย่าง NUSA-EFORL-SVI-PTTGC ประเมินแนวรับ 1,420-1,400 จุด แนวต้าน 1,442-1,460 จุด
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระทบการลงทุน โดยในทางเทคนิคมองว่า ยังอยู่ในกรอบการรีบาวน์ ที่อาจจะเห็นจังหวะย่อตัวสลับบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้ตอบรับปัจจัยลบไปพอสมควร อีกทั้งหลาย ๆ ประเด็นก็มีความชัดเจน อย่างผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ตามคาดการณ์ ด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอยู่แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว แต่ภาคการส่งออก คงไม่น่าจะได้รับผลดีเท่าไหร่นัก เพราะยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ให้ติดตามการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้หรือไม่ และจะปรับขึ้นตามคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์ ที่ต่างคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. นี้ แม้จะเริ่มมีหลายเสียงออกมาบอกว่าเฟดน่าจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเดือน ธ.ค. จากตัวเลขภาคแรงงานที่ยังไม่ค่อยต่อเนื่องมากนัก
สำหรับ พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยรีบาวน์ โดยสัญญาณทางเทคนิคยังอยู่ในกรอบการฟื้นตัว อีกทั้งติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา ว่าจะมีบริษัทไหนออกมาดีกว่าที่คาดการณ์หรือไม่ ส่วนกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติก็ยังคงน้ำหนักฝั่งขาย จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ฝ่ายวิเคราะห์หลายสำนักไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ต่างออกมาปรับลดเป้าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปีนี้ลงต่ำกว่า 3%
ด้านกลยุทธ์ แนะขึ้นขาย-ลงซื้อ พร้อมประเมินแนวรับ 1,420-1,400 จุด แนวต้าน 1,442-1,460 จุด
นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นภูมิภาค ได้แรงกดดันจาก ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงใกล้เคียง45เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอีกได้ภายในไตรมาส3/2558 เนื่องจากความกังวลต่อประเทศอิหร่านที่จะสามารถผลิตน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลกได้ในประมริมาณที่ค่อนข้างสูง โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตได้ในช่วง ไตรมาส4/2558 ทั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐออกมาแข็งแกร่งโดยในวันพรุ่งนี้จะประกาศตัวเลขการจ้างงานซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาคาดการว่าจะออกมาดีกว่าคาด จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากเดิมที่มีนักวิเคราห์หลายฝ่ายคาดว่าจะขึ้นช่วงเดือน ก.ย.58 แต่ทาง บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ประเมินว่ามีแนวโน้มที่เฟดขึ้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายในเดือน ส.ค.58นี้ โดยปรับเพิ่มขึ้นในอัตรา0.25%
สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีแกว่งในแดนลบ ประเมินแนวรับ 1,420 แนวต้าน 1,440จุด เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับความกังวลต่อกรณีเฟดที่เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศออกมาแข็งแกร่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไทยใตรมาส2/2558 ที่คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส1/2558เล็กน้อย รวมถึงคาดว่าทั้งปีผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะโตประมาณ 25-30% โดยกลุ่มหลักๆที่สามารถขยายตัวได้ มาจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มพลังงาน
นายยศพล กล่าวต่อว่า ประเมินแนวโน้มส่งออกของไทยในปีนี้ คาดว่าจะติดลบ 3% แม้เงินบาทอ่อนค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 35.2-35.5บาท จะช่วยหนุนส่งออก แต่ในภาพรวมเศรษฐกิจคู่ค้าอย่างประเทศจีนเริ่มมีภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยประเทศไทยมีการส่งออกไปยังประเทศจีนในสัดส่วนประมาณ10%
กลยุทธ์การลงทุน แนะเลือกลงทุนหุ้นรายตัวที่มีผลประกอบการออกมาโดดเด่น หุ้นเด่น NUSA ราคาเป้าหมาย 1.30บาท ,EFORL ราคาเป้าหมาย 2 บาท ,SVI ราคาเป้าหมาย 5.40บาท ,PTTGC ราคาเป้าหมาย 76 บาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย