WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET22ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์ตามตปท.เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังน้ำมันทรงตัว

     นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย, ตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป ต่างรีบาวน์ขึ้นกันทั่วหน้า อีกทั้งราคาน้ำมันก็เริ่มทรงตัวแล้ว ขณะเดียวกันตลาดจีนก็รีบาวน์ ดังนั้น short term ก็อาจจะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์ได้

    อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันนี้ ซึ่งก็เชื่อว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ให้รอดูสัญญาณว่าจะมีอะไรออกมาบ้าง พร้อมให้จับตาเศรษฐกิจของสหรัฐฯในไตรมาส 2/58 ด้วย

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยอาจมีลุ้นหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวน์ขึ้นได้หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงลึก และราคาน้ำมันก็เริ่มทรงตัวได้ โดยเฉพาะหุ้น PTTEP, PTTGC, IRPC อย่างไรก็ตามนักลงทุนคงจะต้องเทรดตามสถานการณ์ไปก่อน และรอดูว่าจะมีการทำ Cover short หรือเปล่า

พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415-1,422 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(28 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,630.27 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด(+1.09%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด(+0.98%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด(+1.24%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 96.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 26.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 14.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.50 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,408.07 จุด ลดลง 4.48 จุด (-0.32%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,783.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 ก.ค.58) ปิดที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 59 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 ก.ค.58)ที่ 5.00 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเช้านี้เปิด 34.83/85 แนวโน้มแกว่งแคบ อยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟดคืนนี้

                - นายกฯสั่งทีมเศรษฐกิจแจงรายละเอียดหลังตัวเลขติดลบหนัก ด้าน"ปรีดิยาธร"มั่นใจนโยบายคาดจีดีพีปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 3% ส่งออกฟื้นไตรมาส 4 จากค่าบาทอ่อน ยันทำงานเต็มที่ ไม่รู้ปรับ ครม. ขณะ สศค.หั่นเป้าจีดีพีเหลือ 3% ส่งออกติดลบ 4%

                - สำนักงาน กสทช.เล็งชงบอร์ด กสท.จัดเก็บค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัลใหม่ อัตราก้าวหน้า 0.25-2% จากเดิมคงที่ 2% หวังหนุนผู้ประกอบการอยู่รอดช่วงเริ่มต้นลงทุนสูง เสนอแพลตฟอร์มจ่ายค่าโครงข่ายกฎมัสต์แคร์รี่

                - สนพ.เผยข่าวดีคนไทย 3-6 เดือนข้างหน้าทิศทางราคาน้ำมันและแอลพีจียังคงอ่อนตัวตามทิศทางน้ำมันโลก เตรียมเข็นแผนอนุรักษ์ พลังงานทดแทน ก๊าซ น้ำมัน ทยอยเข้า กพช. ยันไม่ยกเลิกโซฮอล์ 91 แต่ใช้ราคาให้ผู้บริโภคเลือกใช้เอง ส่งสัญญาณคมนาคมลดค่าขนส่งหลังดีเซลเริ่มลดต่ำ ปตท.รับดีเซลมีลุ้นแตะ 23 บ./ลิตร

                - หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ เผยผลสำรวจเอสเอ็มอีแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง 1,620 บริษัท พบว่าสภาพธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวในทิศทางที่แย่ลง เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศไม่แข็งแรงตามที่คาดไว้ แต่แนวโน้มในครึ่งปีหลังเชื่อว่าสภาพธุรกิจโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น แต่ต้องการให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

                - "ก้องเกียรติ"ยันหุ้นไทยยังไม่เข้าภาวะหมี แม้จะดิ่งหลุด 1,400 จุด ชี้เริ่มน่าสนใจลงทุนมากขึ้น หวังรัฐบาลใช้มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนอกตำรากระตุ้นบรรยากาศ ยอมรับวอลุ่มหด ธุรกิจโบรกเกอร์ปีนี้แย่กว่าปีก่อน ด้านตลาดหลักทรัพย์ระบุ เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุด ส่วนการขายสุทธิของต่างชาติเป็นเงินร้อนเท่านั้น

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TPIPL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 3.40 บาท ราคาหุ้น -26% ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งประเด็นการถูกฟ้องร้อง และ 2Q58 คาดขาดทุนสุทธิจากรายการ FX loss ของค่าเงินยูโรราว 500-600 ล้านบาท ราคาหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวจากประเด็นบวกคือโรงไฟฟ้าขยะ 55MW คาดเริ่มจ่ายไฟ ส.ค.นี้ เป็นปัจจัยผลักดันผลประกอบการใน 2H58 ให้เติบโตโดดเด่นจาก 1H58 อีกทั้ง Downside Risk ค่อนข้างจำกัด

                - กลุ่ม TV Digital ได้แก่ RS WORK MONO(โกลเบล็ก) กสทช. เล็งชงบอร์ด กสท.จัดเก็บค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัลใหม่ อัตราก้าวหน้า 0.25-2% จากเดิมคงที่ 2% หวังหนุนผู้ประกอบการอยู่รอดช่วงเริ่มต้นลงทุนสูง(โกลเบล็ก)

                - กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC INTUCH(โกลเบล็ก) ความคืบหน้าการประมูล 4G (คาดประมูลคลื่นในวันที่ 11-  12 พ.ย.) และเป็นหุ้นปันผลครึ่งปีเด่น

                - FORTH (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 10 บาท ร่วมมือกับพันธมิตรต่อยอดตู้บุญเติม ล่าสุดเจรจาบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พัฒนาตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติที่เป็นตู้เติมเงินได้ด้วย แผนขยายลงทุนต่างประเทศจะเข้าไปทำตลาดตู้เติมเงินในฟิลิปปินส์อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ยังจะหาพันธมิตรที่จะเข้าไปร่วมทุนในอินโดนิเชียที่มีตลาดผู้ใช้งานมือถือกว่า 237 ล้านเลขหมายหรือมากกว่าประเทศไทยถึง 2 เท่า มองว่าเป็นการสร้าง Network ขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการโดยตรงด้วยตู้บุญเติมที่มีมากกว่า 4 หมื่นตู้ แต่สามารถบริหารจัดการได้จาก Center กลาง ทำให้ต้นทุนต่ำมาก

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ ขานรับหุ้นสหรัฐ,ยุโรปพุ่ง นลท.จับตาประชุมเฟด

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

    ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับขึ้น 0.3% เมื่อเวลาประมาณ 09.50 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,425.69 จุด เพิ่มขึ้น 96.80 จุด, +0.48% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,689.83 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด, +0.73% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,630.44 จุด เพิ่มขึ้น 126.50 จุด, +0.52% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,053.62 จุด เพิ่มขึ้น 14.52 จุด, +0.71% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,587.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, +0.06% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,699.60 จุด ลดลง 0.10 จุด, -0.01% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,286.75 จุด เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, +0.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,630.44 จุด เพิ่มขึ้น 126.50 จุด, +0.52%

    ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,584.70 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง และดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,571.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

   ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยูพีเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้เฟดอาจจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่อาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือธ.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 50.15 จุด รับภาคเอกชนควบรวมกิจการ

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นอาร์เอสเอ อินชัวรันซ์  กรุ๊ป ที่พุ่งขึ้นจากข่าวการเทคโอเวอร์ ท่ามกลางกิจกรรมการซื้อและควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้น

    ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ 0.77% ที่ 6,555.28 จุด

     หุ้นอาร์เอสเอ พุ่งขึ้น 18% หลังจากบริษัทซูริค อินชัวรันซ์ กรุ๊ปเปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอซื้อกิจการของอาร์เอสเอ ในข้อตกลงที่อาจมีมูลค่าสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์

    หุ้นฮิคมา ฟาร์มาร์ซูติคอล ทะยานขึ้น 12% หลังบริษัทตกลงซื้อธุรกิจของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ขณะที่หุ้นจีเคเอ็น ปรับขึ้น 7.3% เนื่องจากบริษัทตัดสินใจซื้อกิจการของฟอคเกอร์ เทคโนโลจีส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านอากาศยานของเนเธอร์แลนด์

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากที่มีการเติบโต 0.4% ในไตรมาสแรก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับข่าวเทคโอเวอร์ภาคเอกชน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขานข่าวการซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้

    ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 390.02 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,977.32 จุด เพิ่มขึ้น 49.72 จุด หรือ +1.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,173.91 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด หรือ +1.06% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.28 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ +0.77%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก

     ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับข่าวการซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทบางแห่ง รวมถึงบริษัทเมลโรส อินดัสทรีส์ ที่ประกาศขายธุรกิจ Elster ให้กับฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหุ้นหุ้นเมลโรส พุ่งขึ้น 9.6%

     หุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอล ทะยานขึ้น 12% หลังจากบริษัทตกลงซื้อกิจการร็อกซ์เซล จากบริษัทโบห์ริงเจอร์ อินเกลไฮม์ ขณะที่อาร์เอสเอ อินชัวรันซ์ พุ่งขึ้น 18% หลังจากมีข่าวว่า ซูริค อินชัวรันซ์ กรุ๊ป กำลังเสนอซื้อกิจการอาร์เอสเอ อินชัวรันซ์

     หุ้นจีเคเอ็น พุ่งขึ้น 7.3% หลังจากบริษัทตกลงซื้อกิจการฟอคเกอร์ เทคโนโลยี กรุ๊ป ส่วนหุ้นเกอร์เรสไฮเมอร์ พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทตกลงซื้อกิจการเซนเตอร์ ยูเอส โฮลดิงส์ จากเนเมรา ดิเวลล็อปเมนท์

    อย่างไรก็ตาม หุ้นมิเชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงซื้อเก็งกำไร หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 189.68 จุด

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยูพีเอส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,630.27 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด หรือ +1.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +1.24%

  ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ อันเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการร่วงลงอย่างหนักของเศรษฐกิจจีน

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง โดยยูพีเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 1.35 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นยูพีเอสทะยานขึ้น 5.07%

    ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 574 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นฟอร์ดพุ่งขึ้น 1.92%

    ทั้งนี้ ปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน สามารถสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 90.9 ในเดือนก.ค. หลังแตะระดับ 99.8 ในเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าระดับ 5.6% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้เฟดอาจจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่อาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือธ.ค.

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. วันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 2/2558 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,630.27 จุด                         เพิ่มขึ้น 189.68 จุด     +1.09%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,089.21 จุด                     เพิ่มขึ้น 49.43 จุด      +0.98%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,093.25 จุด                       เพิ่มขึ้น 25.61 จุด      +1.24%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.28 จุด                   เพิ่มขึ้น 50.15 จุด      +0.77%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,173.91 จุด                          เพิ่มขึ้น 117.51 จุด     +1.06%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,977.32 จุด                        เพิ่มขึ้น 49.72 จุด      +1.01%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,582.49 จุด                          เพิ่มขึ้น 25.81 จุด      +0.30%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,328.89 จุด                    ลดลง 21.21 จุด       -0.10%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,571.00 จุด      ลดลง 8.20 จุด        -0.15%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,584.70 จุด            ลดลง 5.20 จุด        -0.09%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,039.10 จุด                        เพิ่มขึ้น 0.29 จุด       +0.01%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,663.00 จุด                     ลดลง 62.56 จุด       -1.68%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,479.03 จุด             ลดลง 68.41 จุด       -0.91%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,503.94 จุด                              เพิ่มขึ้น 151.98 จุด     +0.62%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,714.76 จุด     ลดลง 56.53 จุด       -1.18%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,699.70 จุด                      ลดลง 10.06 จุด       -0.59%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,281.09 จุด                      ลดลง 32.33 จุด       -0.98%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,459.23 จุด                        ลดลง 102.15 จุด      -0.37%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยูพีเอส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,630.27 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด หรือ +1.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +1.24%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขานข่าวการซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 390.02 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,977.32 จุด เพิ่มขึ้น 49.72 จุด หรือ +1.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,173.91 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด หรือ +1.06% และดัชนีFTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.28 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ +0.77%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นอาร์เอสเอ อินชัวรันซ์  กรุ๊ป ที่พุ่งขึ้นจากข่าวการเทคโอเวอร์ ท่ามกลางกิจกรรมการซื้อและควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้

          ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ 0.77% ที่ 6,555.28 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 53.3 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,096.20  ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 14.642 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 986.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 621.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดหวังว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1048 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5601 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.61 เยน จาก 123.24 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9630 ฟรังก์ จาก 0.9631 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7326 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7282 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,094.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, +0.37%

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!