- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 28 July 2015 19:07
- Hits: 3047
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET ร่วงต่อ เหตุไร้ปัจจัยบวกหนุน แถมปัจจัยลบทั้งในและ ตปท. กดดัน แนะ Wait&See
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยร่วงต่อเหตุไร้ปัจจัยบวกหนุน แถมปัจจัยลบทั้งในและตปท. กดดัน แนะ Wait&See ประเมินแนวรับ 1,400-1,390 จุด แนวต้าน 1,420 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเครราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งผันผวนทั้งแดนบวกและแดนลบ แม้ว่าช่วงเช้าจะมีจังหวะดีดฟื้นตัว แต่ก็เจอแรงขายออกมากดดัน จนพลิกกลับมาเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปที่เพิ่งเปิดการซื้อขาย เคลื่อนไหวแดนบวก แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงเป็นลบอยู่ โดยปัจจัยกดดันหลัก มาจากปัจจัยในประเทศ เศรษฐกิจมหภาคไทยอ่อนแอ บรรดาฝ่ายวิเคราะห์ต่างออกมาปรับลดประมาณการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปีนี้ลง ไม่น่าจะโตเกิน 3% รวมถึงตัวเลขการส่งออกที่หดตัวแรงกว่าคาด ล่าสุดตัวเลขส่งออกติดลบเกือบ 8% แม้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าเกือบแตะ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากย้อนไปดูตั้งแต่ปีที่แล้ว ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าในอัตราเร่งน้อยกว่าประเทศคู่ค้า และเพิ่งจะเร่งตัวอ่อนค่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงต้องติดตามกันต่อไปว่าภาคการส่งออกไทยจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างชัดเจนช่วงใด โดยช่วงปลาย Q3/2558 เป็นช่วง High season ของกลุ่มส่งออก
นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากต่างประเทศ เริ่มจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ตัวเลข PMI ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ด้วยเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่ และถือเป็นส่วนหนึ่งที่กระทบราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง น้ำมันดิบ ปรับร่วงหลุดระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง จากเดิมที่ถูกกดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน เมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอตัว จีนมีแรงกดดันจากอุปสงค์อีกทาง ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ มองว่าเฟดน่าจะส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพราะหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. นี้ตามคาดการณ์ การประชุมครั้งครั้งนี้จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
สำหรับ พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยมีโอกาสร่วงต่อ แม้จะมีลุ้นรีบาวน์ทางเทคนิค แต่ด้วยแรงกดดันจากทั้งในและต่างประเทศ และยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยทางเทคนิคให้แนวรับ 1,400 จุด เป็นแนวรับสำคัญ หากไม่หลุดมีโอกาสฟื้นตัวสั้นๆ (Technical rebound) แต่หากหลุด มีโอกาสลงต่อไปลึกถึง 1,360 จุด
ด้านกลยุทธ์ สำหรับนักเก็งกำไร แนะหาจังหวะขาย ในช่วงดัชนีฯ รีบาวน์ หรือ Wait&See เพื่อรอจังหวะฟื้นตัวชัดเจน ส่วนนักลงทุนระกลาง-ยาว แนะทยอยซื้อสะสมหุ้นที่คิดว่าจะซื้อ พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,400-1,390 จุด แนวต้าน 1,420 จุด
ด้านนายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีปรับลดลง สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลต่อภาคส่งออกในประเทศไทยเนื่องจากประเทศจีนเป็นคู่ค้าสำคัญจึงทำให้ภาคส่งออกติดลบต่อเนื่อง แม้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ35บาทจะทำให้ราคาสินค้าจูงใจในการซื้อ แต่ไม่ได้หนุนภาคส่งออกเนื่องจากปริมาณสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศคู่ค้ายังมีแนวโน้มที่จะลดน้อยลงโดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งทางบล.ยูโอบี เคย์เฮียน คาดว่าทั้งปีจะติดลบที่3% รวมถึงหนี้ครัวเรือนภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นราว 87% โดยส่วนใหญ่มาจากชาวนา-เกษตรกรและจากโครงการรถคันแรกจากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนให้เกิดความกังวลต่อการลงทุน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง แตะ47เหรียญ/บาร์เรล จากตัวเลขการผลิตในสหรัฐอเมริกายังปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความกังวลต่อการส่งออกน้ำมันของประเทศอิหร่านจากการพ้นสภาพการคว่ำบาตรในเร็วๆนี้ ซึ่งส่งผลต่อจิตวิทยาเชิงลบในการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานแต่อย่างไรก็ตามจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาก บล.ยูโอบี เคย์เฮียน มองว่า มีโอกาสจะรีบาวน์ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ55เหรียญ/บาร์เรลได้อีกครั้งภายในไตรมาส 3/2558 และคาดว่าสิ้นปี ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 57-59 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในอนาคต
สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีปรับตัวลงต่อ จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัวส่งผลต่อเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติให้ทยอยขายสุทธิต่อเนื่องและยังไม่มีสัญญานซื้อกลับ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงต่อส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในเชิงจิตวิทยาเชิงลบ พร้อมประเมินแนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,430 จุด
กลยุทธ์การลงทุน แนะหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่ผลประกอบการในไตรมาส 2/2558 ออกมาโดดเด่น PTT ราคาเป้าหมาย 410 บาท , IRPC ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท , PTTGC ราคาเป้าหมาย 76 บาท , SVI ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย