WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET81โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET มีลุ้นรีบาวน์ทางเทคนิค แต่เทรนด์หลักยังเจอน้ำมัน เฟดจ่อขึ้นดบ.กดดัน แนะลุยหุ้นงบเด่น - ปันผลดี

     โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยลุ้นรีบาวน์ทางเทคนิค ชี้ตามสถิติมีสัญญาณกลับตัว แต่หวั่นเทรนด์หลักยังน่าหวั่น หลังน้ำมันทรุด  - เฟดจ่อขึ้นดบ. กดดัน พร้อมตั้งความหวังเมกะโปรเจ็ค ปรับทีมศก.ช่วยเรียกความเชื่อมั่น แนะซื้อ PLANB-TVT-SPA-ADVANC-INTUCH-LPN ประเมินแนวรับ 1,410-1,400 จุด แนวต้าน 1,425-1,430 จุด

  นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยปละบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตั้งแต่ช่วงเช้าต่อเนื่องมาช่วงบ่าย ด้วยแรงกดดันทั้งในและต่างประเทศ เริ่มจากแรงกดดันในประเทศ ที่ตัวเลขส่งออกไทยลดลงแรงกว่าคาด ติดลบถึง 7.87% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะติดลบ 4.6% 

 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เริ่มจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว ต่อเนื่องมาเช้านี้ที่ตัวเลข PMI จีนชะลอตัวเช่นกัน โดยลดลงมาต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ทำให้ดัชนีฯ หลุดจุดต่ำสุดเดิมเมื่อวันศุกร์ที่ 1,432 จุด มาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ของรอบนี้ที่ 1,410 จุด ส่วนราคาน้ำมันโลกทรุดอีกครั้ง หลุด 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลง

  สำหรับ พรุ่งนี้ คากว่าดัชนีฯ หุ้นไทยมีโอกาสรีบาวน์ทางเทคนิคหลังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ก็มีโอกาสปรับลงต่อเช่นกัน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ประเด็นที่สร้างความคาดหวังก็ยังคงเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเมกะโปรเจ็คของภาครัฐ ตลอดจน Semtiment เชิงบวกของการปรับทีมเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ที่ลงมาที่ 1,410 จุด ส่งผลให้ค่า Equity risk premium ของการลงทุนในหุ้นเท่ากับ 5.19% หากเทียบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว และทุกครั้งที่มาเท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว มักจะเห็นการฟื้นตัวของดัชนีฯ เช่น เมื่อครั้งวิกฤติซับไพร์ม และน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เป็นต้น

  ด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ Q2/2558 จะออกมาดี อย่าง PLANB-TVT-SPA และหุ้นที่มีปันผลดี อาทิ ADVANC-INTUCH-LPN พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,410-1,400 จุด แนวต้าน 1,425-1,430 จุด

  นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน  เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวลดลงตลอดวัน สาเหตุจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจีนอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย จึงทำให้ตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย.58 อยู่ที่ ติดลบ7.78% ส่งผลโดยตรงต่อความจิตวิทยาเชิงลบต่อนักลงทุนให้เริ่มทยอยขายสินทรัพย์เสี่ยง

  ส่วนราคาน้ำมันยังปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่มีสัญญานที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากกำลังการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับอิหร่านใกล้ส่งออกน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลกในปริมาณที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้หุ้นกลุ่มใหญ่อย่างพลังงานปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

  นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)ของสหรัฐอเมริกาในวันพรุ่งนี้ โดยทาง บล.ยูโอบี เคย์เฮียน คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน ก.ย.58 ตามคาด ซึ่งส่งผลต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ย้ายสินทรัพย์ไปลงทุนในสหรัฐฯเนื่องจากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

  สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีฯปรับลงต่อ สาเหตุจากราคาน้ำมันยังผันผวนในเชิงลบ ซึ่งอาจมีแรงขายของหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาต่อเนื่อง รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวยังคอยกดดันต่อ โดยประเมินแนวรับ 1,400จุด หากหลุดไปได้มีโอกาสลงไปที่1,380จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,450จุด

   แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ-เอกชน โดยเดือนหน้า(ส.ค.58) จะมีงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ อาธิ ถนนมอเตอร์เวย์3สาย และเส้นทางรถไฟรางคู่ ซึ่งจะหนุนให้กลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

  กลยุทธ์การลงทุน เน้นลงทุนในหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง อย่าง ADVANC ราคาเป้าหมาย 270 บาท และหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล อย่าง BDMS ราคาเป้าหมาย 25.75 บาท และหุ้นที่ได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า อย่าง SVI ราคาเป้าหมาย 5.50บาท

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!