WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET12ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนหลังไร้ปัจจัยชี้นำ-ติดตามการประกาศงบฯแบงก์

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะยังอยู่ในทิศทางที่ผันผวนในกรอบ 1,480-1,500 จุด เนื่องจากขณะนี้ไม่มีปัจจัยลบ ขณะเดียวกันปัจจจัยบวกก็ยังหาไม่เจอ ภายหลังจากเรื่องของกรีซผ่านไปแล้ว ซึ่งต่อไปก็ต้องรอดูว่ากรีซจะนำเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากแค่ไหน ในแง่ของผลปฏับัติว่าจะเกิดขึ้นได้ตามแผนปฏิรูปฯที่ให้ไว้ตามสัญญากับเจ้าหนี้หรือไม่ เพราะคนในประเทศกรีซก็มีการคัดค้านกันอยู่พอควร

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก แต่ล่าสุดทางตลาดจีนก็เริ่มที่จะกลับมาติดลบบ้าง ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากลุ่มแบงก์งบฯไตรมาส 2/58 จะ drop ลงประมาณ 9% ทั้ง yoy และ qoq

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(14 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 75.90 จุด(+0.42%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,104.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด(+0.66%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,108.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.35 จุด(+0.45%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้  ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 93.52 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 49.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 98.54 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.78 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.91 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,488.40 จุด ลดลง 2.25 จุด (-0.15%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 118.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.ค.58

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ก.ค.58) ปิดที่ 53.04ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 84 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ก.ค.58)ที่ 6.17 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 34.05/07 คาดแกว่งแคบ ติดตามประชุมสภากรีซผ่านร่างแผนปฏิรูปศก.ใหม่

                - หอการค้าไทยชี้ภัยแล้งซ้ำเติมส่งออก ครึ่งปีหลังดันไม่ขึ้น คาด 7 เดือนหลังมีโอกาสติดลบ 2-5% ทำทั้งปีติดลบ 3.8% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 6 ปี เหตุเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น ขณะ สศก.คาด ส่งออกภาคเกษตรไปจีนแนวโน้มขยายตัว แม้ 5 เดือนแรกติดลบ 7.8%

                - กสทช.อนุมัติร่างประมูล 4 จี กร้าวยึดกรอบเวลาเดิม ไม่เลื่อน ไม่ล้ม ปัดรวมคลื่น 5 เมกะเฮิรตซ์ดีแทค "เศรษฐพงค์" เล็งถกบอร์ดวาระพิเศษพิจารณาวันประมูล 1800-900 รวดเดียว 11 พ.ย.นี้ บอร์ดดีอีถกแผนคืนคลื่นวันนี้ รมว.ไอซีทียืนยันรัฐบาลมีทางออกที่ดีให้แล้ว

                - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เผยคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 3 เส้น คือ 1.เส้นบางปะอิน-นครราชสีมา 196 กิโลเมตร 8.46 หมื่นล้านบาท 2.เส้นบางใหญ่-กาญจนบุรี 96 กิโลเมตร 5.56 หมื่นล้านบาท ทั้ง 2 สาย จะ ดำเนินการปี 2559-2562 โดยใช้เงินงบประมาณเวนคืนที่ดินและให้กระทรวงการคลังหาแหล่งเงินกู้มาใช้ก่อสร้าง

                - คณะรัฐมนตรีโละมติเก่าทำสัญญาระหว่างรัฐและเอกชน เปิดทางเลือกใช้กระบวนการระงับข้อพิพาท ทางศาลหรืออนุญาโตตุลาการในการไกล่เกลี่ย หวังสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลไทยในทางลบ

                - พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาลดอัตราการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ และการนำเข้าทุกกรณีจาก 10% มาอยู่ที่ 7% ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2558 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลของการคงแวตที่ 7% ต่อไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศยังอยู่ในภาวะที่ไม่ฟื้นตัว การบริโภค การลงทุน การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังหดตัว ระดับราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

*หุ้นเด่นวันนี้

                - BR (บมจ.บางกอกแร้นช์)เทรดวันนี้วันแรก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ประเมินว่า BR น่าจะซื้อขายได้แถวๆ 14.20 บาท/ หุ้น หากยึดสมมติฐานการเติบโตกำไรสุทธิในปี 2558 ที่ 15% YoY และกรอบบน P/E ของตัวเปรียบเทียบ ขณะที่ราคาเสนอขาย IPO อยู่ที 8.80 บาท/หุ้น และราคาเป้าหมายโดย Consensus อยู่ที่ 12-13 บาท

                บมจ.บางกอกแร้นช์ เป็นผู้ผลิตเนื้อเป็ดครบวงจรยักษ์ใหญ่ของไทย และมองว่าราคาหุ้นจะ Perform ได้ดี จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เด่นกว่า (CPF, TUF, CFRESH, GFPT) ขณะที่ภาพตลาดเนื้อเป็ด ก็ดูจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าเนื้อไก่ กุ้ง หมู อย่างมาก จากระดับอุปสงค์-อุปทาน ที่อยู่ในระดับที่สมดุลทั้งตลาดใน-ต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นธุรกิจของไทยที่แทบจะไม่พบการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย การขยายกำลังการผลิตระหว่างปี 2557-59 และต้นทุนการเงินที่ลดลงจากการ IPO ในครั้งนี้ ทำให้ภาพระยะกลาง-ยาวของ BR ดูน่าสนใจ

                - JMT-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส(JMT)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 73,999,545 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 18.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 มิ.ย. 2561

                - WAVE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 11.18 บาท จากแนวโน้มการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพหลังเสร็จสิ้นการปรับโครงบริษัทเข้าสู่ธุรกิจ Lifestyle & Entertainment และจุดเด่นอยู่ที่การถือหุ้นใหญ่โดยช่อง 3 ส่งผลให้มีโอกาสมากที่จะได้ผลิตละครหรือรายการเพิ่มเติมให้กับช่อง 3 จากปัจจุบันที่ผลิตเพียงปีละ 1-2 เรื่อง และเป็นธุรกิจที่มีกำไรแน่นอน อีกทั้งมี Hidden Value จากการถือหุ้น 20% ใน TSE ที่การเติบโตของกำไรแน่นอนและมั่นคง เนื่องจากดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +104.2% yoy เป็น 155 ล้านบาท และมี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการคือกำไรจาก INDEX Creative Village ที่เข้าซื้อกิจการในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และ Valuation ยังต่ำกว่าหุ้นกลุ่มสื่อ

                - ITD (เคทีบี)เป้า 10 บาท หลังที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง มูลค่าการลงทุนรวม 1.6 แสนลบ. ทำให้โครงการของภาครัฐฯเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคึกคักมากขึ้น… ล่าสุด ITD ได้งานก่อสร้างอาคารสูง 7 ชั้นมูลค่า 203 ลบ. และภายในปลายเดือน ก.ค. จะมีการลงนามในสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐบาลพม่ากับบริษัทร่วมทุนของ ITD เฟสแรก  พื้นที่ 2 หมื่นไร่ สัมปทาน 70 ปี เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นลบ. เพื่อพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย โดยคาดว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อยกระดับโครงการทวายในอนาคตได้แก่ ถนนมอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทในอนาคต

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาข้อมูลศก.จีน,ผลประชุมบีโอเจ

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของจีน รวมถึงมติการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)

   ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 143.92 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,478.85 จุด เพิ่มขึ้น 93.52 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,874.97 จุด ลดลง 49.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,219.45 จุด เพิ่มขึ้น 98.54 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,063.54 จุด เพิ่มขึ้น 21.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,068.38 จุด เพิ่มขึ้น 9.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,323.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.78 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,723.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.91 จุด

    ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้านี้ รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนมิ.ย., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2558, ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 15.80 จุด นำโดยหุ้นสกาย,กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ขณะที่หุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตดีดตัวขึ้นขานรับยอดค้าปลีกของอังกฤษที่สดใส ส่วนหุ้นสกายพุ่งขึ้น หลังมีการปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุน

   ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 6,753.75 จุด

   หุ้นสกาย ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มสื่อของอังกฤษ ทะยานขึ้น 4.1% เนื่องจากดอยช์ แบงก์แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น

   หุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตปรับตัวแข็งแกร่งหลังสหพันธ์ค้าปลีกของอังกฤษเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหุ้นเทสโก้ ดีดขึ้น 1.86% และหุ้นเจ เซนส์เบอรี บวกขึ้น 1.75%

   อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ระบุว่า ช่วงเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก เหตุหุ้นพลังงานพุ่งรับดีลนิวเคลียร์อิหร่าน

    ตลาดุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจได้

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 398.3 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,032.47 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด หรือ +0.69% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,516.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.52 จุด หรือ +0.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ +0.23%

   ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากมีรายงานว่า อิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาขานรับความสำเร็จในการเจรจานิวเคลียร์ และกล่าวว่าสหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

    ทั้งนี้ หุ้นซีดริลล์ พุ่งขึ้น 8.8% และหุ้นสแตทออยล์ ทะยานขึ้น 3.5%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลง โดยหุ้น BMW ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทร่วมทุนของ BMW ในประเทศจีนคาดการณ์ว่า กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกจะลดลง 40% ขณะที่หุ้นเปอร์โยต์ ซีตรอง ดิ่งลง 2.1% และหุ้นโฟล์คสวาเก้น ปรับตัวลง 2.4%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 75.90 จุด รับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะปูทางสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์

  ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 75.90 จุด หรือ +0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,104.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด หรือ +0.66% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,108.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.35 จุด หรือ +0.45%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างอิหร่านและประเทศมหาอำนาจ หลังจากมีรายงานว่า อิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แล้วเมื่อวานนี้

   ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวขานรับผลสำเร็จของการเจรจาระหว่างอิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งได้แก่ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐ และเยอรมนี และกล่าวว่าสหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

    หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นแซนดิสก์ พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นเอวาโก เทคโนโลยีปรับขึ้น 1.7% ส่วนหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 11% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท Tsinghua Unigroup ของรัฐบาลจีน วางแผนเทคโอเวอร์กิจการ ไมครอน เทคโนโลยี มูลค่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์

   ทั้งนี้ คาดว่า Tsinghua จะเสนอซื้อไมครอนในราคา 21 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าระดับปิดของราคาหุ้นไมครอนเมื่อวันจันทร์อยู่ประมาณ 19% และหากการเจรจาซื้อกิจการประสบความสำเร็จ จะทำให้ข้อตกลงครั้งนี้เป็นข้อตกลงเทคโอเวอร์บริษัทต่างชาติครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทของรัฐบาลจีน

   หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์ก ขานรับข่าวที่ว่าสหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้นกว่า 1.6% ขณะที่หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 1%

  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกร่วงลง 0.3% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 4.42 แสนล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

  นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันพุธและวันพฤหัสบดี ซึ่งตลาดทั่วโลกจะจับตาแถลงการณ์ของนางเยลเลนเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่ได้กล่าวยืนยันแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

  นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตของสหรัฐเดือนมิ.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ก.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 75.90 จุด, +0.42%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,104.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด, +0.66%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,108.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.35 จุด, +0.45%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,032.47 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด, +0.69%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,516.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.52 จุด, +0.28%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.80 จุด, +0.23%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,932.90 จุด ลดลง 28.29 จุด, -0.10%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,316.50 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด, +0.16%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,721.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.99 จุด, +0.29%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,901.81 จุด เพิ่มขึ้น 7.89 จุด, +0.16%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,120.91 จุด ลดลง 103.10 จุด, -0.41%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,538.76 จุด เพิ่มขึ้น 42.43 จุด, +0.57%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,924.49 จุด ลดลง 45.90 จุด, -1.16%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,577.40 จุด เพิ่มขึ้น 104.20 จุด, +1.90%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,561.90 จุด เพิ่มขึ้น 101.50 จุด, +1.86%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,059.23 จุด ลดลง 2.29 จุด, -0.11%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,385.33 จุด เพิ่มขึ้น 295.56 จุด, +1.47%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,041.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด, +0.09%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะปูทางสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 75.90 จุด หรือ +0.42%ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,104.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด หรือ +0.66% ดัชนี S&P 500 ปิดที่2,108.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.35 จุด หรือ +0.45%

ตลาดุหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจได้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 398.3 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,032.47 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด หรือ +0.69%ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,516.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.52 จุด หรือ +0.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ +0.23%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) ขณะที่หุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตดีดตัวขึ้นขานรับยอดค้าปลีกของอังกฤษที่สดใส ส่วนหุ้นสกายพุ่งขึ้น หลังมีการปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุน

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 6,753.75 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งจะนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ 53.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 58.51ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันพุธและวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักลงทุนจับตาดูว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการแถลงครั้งนี้หรือไม่

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.9ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่  1,153.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 14.2 เซนต์ ปิดที่ 15.315 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,028.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 18.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 657.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากข้อมูลค้าปลีกสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาดได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนก.ย.นี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1009 ดอลลาร์สหรัฐ จาก1.1003 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5484ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.33 เยน จาก 123.43 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9452 ฟรังก์ จาก 0.9497 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7449 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7406 ดอลลาร์

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 915.00 จุด เพิ่มขึ้น 15.00 จุด, +1.67%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!