- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 30 June 2015 11:51
- Hits: 2608
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว-เล็งแรงหนุนจากWindow Dressing แม้กรีซยังกดดัน
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว โดยเรื่องของกรีซยังคงกดดันตลาดฯ ล่าสุดกรีซได้ออกมาประกาศแล้วว่า ทางกรีซจะไม่ชำระหนี้ให้ IMF ได้ตามกำหนด ซึ่งทำให้คาดว่าจะผิดนัดชำระหนี้ แต่ก็ยังต้องรอฟังผลในวันที่ 5 ก.ค.นี้ว่าทางประชาชนของกรีซจะยอมรับข้อตกลงของทางเจ้าหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งทางกรีซเองก็ยังต้องการที่จะอยู่ในยูโรโซนต่อไป แต่หากประชาชนของกรีซยอมรับข้อตกลงของเจ้าหนี้ได้ ก็แสดงให้เห็นได้ว่ากรีซจะต้องรัดเข็มขัด อย่างไรก็ดี หากมองเศรษฐกิจของกรีซถือว่าค่อนข้างเล็กมาก คิดเป็น 1.8% ของเศรษฐกิจในยุโรปเท่านั้น ดังนั้นผลกระทบจึงเป็นไปอย่างจำกัด
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังน่าจะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,500-1,520 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(29 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,596.35 จุด ร่วงลง 350.33 จุด(-1.95%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,958.47 จุด ลดลง 122.04 จุด(-2.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,057.64 จุด ลดลง 43.85 จุด(-2.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 64.66 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 46.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 22.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 12.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 5.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.44 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 มิ.ย.58) 1,511.19 จุด ลดลง 6.84 จุด(-0.45%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 19.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 มิ.ย.58) ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.3 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 มิ.ย.58)ที่ 6.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.76/78 คาดแกว่งแคบ จับตาสถานการณ์หนี้กรีซต่อ
- นายราจี บิสวาส หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิก ของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล ไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ ให้ความเห็นในนิกเกอิ รีวิว ว่า หากวันนี้กรีซผิดนัดชำระหนี้ กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนและต้องกลับไปใช้เงินสกุลดรักมา ซึ่งเป็นสกุลเดิมของกรีซ แน่นอนว่าค่าเงินกรีซจะอ่อนค่าอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก ซึ่งจะฉุดรั้งการเติบโตของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของภูมิภาคเอเชียลงราว 0.3% ในปีหน้าทันที เนื่องจากเอเชียได้รับผลกระทบจากการค้า และความปั่นป่วนในตลาดทุนโลก
- สศค.เกาะติด"ส่งออก-ภัยแล้ง" ปัจจัยซ้ำเติม "จีดีพี" ล่าสุดสัญญาณเศรษฐกิจเดือนพ.ค. "ดัชนีผลผลิต-ราคาสินค้าเกษตร" ยังคงรับ ผลกระทบจากภัยแล้งต่อเนื่อง เดือนเดียวติดลบ 7.3% ขณะดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ปรับตัว ลดลงต่อเนื่องเดือนที่5 เหตุกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ปัญหาภัยแล้งกระทบกำลังซื้อ
- นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะปรับตัวเลขการส่งออกของไทยใหม่ โดยคาดว่าการส่งออกจะติดลบมากกว่า 1.5% จากเดิมที่คาดว่าไม่ขยายตัว หรือเติบโต 0% ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยขาดกำลังซื้อ
- "กฤษฎา จีนะวิจารณะ" ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค. 2558 ว่า มีเพียงการใช้จ่ายรัฐบาลที่เป็นแรงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว การส่งออกหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่วนผลผลิตภาคเกษตรกรรมหดตัวและต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด
- แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) สัปดาห์หน้า กำหนดเบื้องต้นวันที่ 6 กรกฎาคม จะมีการพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนกรกฎาคม ซึ่งราคา แอลพีจีตลาดโลกมีทิศทางปรับลดลง 15 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือประมาณ 10 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) จึงมีโอกาสที่ กบง.จะตรึงราคาขายปลีกที่ 23.96 บาทต่อ กก.ตามเดิม เพื่อเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนแอลพีจีเพื่อใช้ดูแลราคาขายปลีกหากอนาคตราคาปรับสูงขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- WIIK-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.วิค แอนด์ ฮุคลันด์(WIIK)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 99,963,136 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 5.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 3 ปีนับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2558 กำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 15 มิ.ย. 2561
- MPG-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. แมงป่อง 1989(MPG)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 292,581,561 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 2 มิถุนายน 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 1 มิ.ย.2561
- BWG-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 399,860,905 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 6 เดือนนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 9 มิถุนายน 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 8 ธ.ค. 2558
- BWG-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 399,860,905 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 9 มิถุนายน 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 8 มิ.ย. 2559
- TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 28 บาท ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ที่ปรับตัวลงวันที่ 4 ติดต่อกัน จากความกังวลต่อสถานการณ์ในกรีซ และหากอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงโครงการอาวุธนิวเคลียร์ได้จะส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้งและส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวลงต่อ พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q58 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.2-1.4 พันล้านบาท จากแรงหนุนของตลาดต่างประเทศ หลังจีนมีคำสั่งซื้อ Lot ใหญ่เข้ามาถึง 2.5 แสนตัน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับสูงเนื่องจากได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนไว้ล่วงหน้าแล้วราว 3-4 เดือน และทิศทางผลประกอบการ 3Q58 จะดีต่อเนื่อง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +249.7% yoy เป็น 4,226 ล้านบาท
- FPI(ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรมีแนวโน้มฟื้นในครึ่งปีหลังจากออเดอร์ของ Toyota Revo, Fiat, Suzuki (new vitara 2015), ชุดแต่ง TRD, และ New Foton ของจีน และสายการผลิตงานชุบที่กลับมาเดินเครื่องได้ปกติ ระยะสั้นอาจมีแรงเก็งกำไรจากความคาดหวังกำไร 2H15 รวมถึงการรุกธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่ด้วย Forward PE ประมาณ 30 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่ 15 เท่า จึงต้องระวังการเก็งกำไร กรอบเก็งกำไรมีแนวรับ 5.7-5.8 บาท แนวต้าน 6.2-6.30 บาท
ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาหนี้กรีซ
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ร่วงหนักเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์หนี้กรีซอย่างใกล้ชิด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้น 0.1% แตะ 145.16 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,174.61 จุด เพิ่มขึ้น 64.66 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,006.75 จุด ลดลง 46.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,944.03 จุด ลดลง 22.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,223.27 จุด ลดลง 12.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,054.83 จุด ลดลง 5.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,283.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,695.36 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด
ทั้งนี้ นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซได้เปิดเผยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของกรีซว่า กรีซจะไม่ชำระหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตามกำหนดในวันนี้ หากกรีซไม่สามารถทำข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดร่วง 133.22 จุด ขณะวิกฤตหนี้กรีซเลวร้ายลง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับชะตากรรมของกรีซและอนาคตในยูโรโซนได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 133.22 จุด หรือ 1.97% ปิดที่ 6,620.48 จุด
สถานการณ์ในกรีซที่เลวร้ายลงได้ฉุดตลาดหุ้นลอนดอน เนื่องจากตลาดกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในการเจรจาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
กรีซมีกำหนดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้ และการผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้รับแรงกดดัน หลังจากที่กลุ่มมือปืนได้เกิดเหตุกราดยิงที่รีสอร์ทริมชายหาดแห่งหนึ่งในเมืองซูส ประเทศตูนิเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 38 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นชาวอังกฤษอย่างน้อย 15 ราย
หุ้นTUI ร่วง 7.1% ขณะที่หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ กรุ๊ป ปรับตัวลง 4.14%.
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเงินของกรีซ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศปิดธนาคารและตลาดหุ้น ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้จุดปะทุให้เกิดการคาดการณ์ว่า กรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.6% ปิดที่ 386.43 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,869.82 จุด ร่วงลง 189.35 จุด หรือ -3.74% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,083.20 จุด ดิ่งลง 409.23 จุด หรือ -3.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.48 จุด ลดลง 133.22 จุด หรือ -1.97%
นักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวที่ว่า รัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ขณะที่สั่งปิดธนาคารพาณิชย์ และตลาดหุ้นจนถึงวันที่ 6 ก.ค. และจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ระดับ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันในช่วงเวลาที่ธนาคารปิดทำการ
การประกาศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ประชาชนชาวกรีซพากันแห่ถอนเงินฝากในธนาคาร หลังจากที่บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันพรุ่งนี้ และอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
กรีซมีกำหนดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF ในวันนี้ และการผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกรีซรายหนึ่งกล่าวยืนยันว่า กรีซจะไม่ชำระหนี้แก่ IMF ได้
นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ CCC- จากระดับ CCC และยังคงให้แนวโน้มเป็นลบ พร้อมระบุว่า ความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนั้น มีอยู่ถึง 50%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 350.33 จุด เหตุวิตกหนี้กรีซ
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 350 จุดเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากที่รัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน พร้อมกับสั่งปิดธนาคารพาณิชย์และตลาดหุ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าสถานะการเงินของกรีซอยู่ในขั้นวิกฤติ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,596.35 จุด ร่วงลง 350.33 จุด หรือ -1.95% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,958.47 จุด ลดลง 122.04 จุด หรือ -2.40% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,057.64 จุด ลดลง 43.85 จุด หรือ -2.09%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซและความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องถูกบีบออกจากกลุ่มยูโรโซน หลังจากที่ประชุมยูโรกรุ๊ปได้ปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ที่จะสิ้นสุดลงในวันอังคารนี้ ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 30 มิ.ย.
ทั้งนี้ การที่ยูโรกรุ๊ปปฏิเสธที่จะขยายความช่วยเหลือทางการเงินให้กับกรีซ ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ขยายเพดานเงินกู้ฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) ที่ให้กับภาคธนาคารของกรีซนั้น ส่งผลให้รัฐบาลกรีซตัดสินใจประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน และปิดธนาคารพาณิชย์จนถึงวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นเวลา 1 วันหลังจากที่มีการจัดทำประชามติในวันที่ 5 ก.ค.ว่าด้วยข้อเสนอในการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ ส่วนการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจะถูกจำกัดไว้ที่ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันในช่วงเวลาที่แบงก์พาณิชย์ปิดทำการดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ CCC- จากระดับ CCC และยังคงให้แนวโน้มเป็นลบ พร้อมระบุว่า ความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนั้น มีอยู่ถึง 50%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.9% แตะระดับ 112.6 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2006 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ
อินโฟเควสท์