WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าไซต์เวย์ เล็งแรงหนุนจากแรงซื้อสถาบัน-ทำWindow Dressing

    นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่จะแกว่งไซต์เวย์ ถึงไซต์เวย์ อัพ เนื่องจากจะเห็นได้ว่านักลงทุนรายสถาบันในประเทศมีการซื้อเข้ามามากเมื่อวานนี้ และปกติก่อนที่จะปิดงบฯในไตรมาส 2 มักจะมีการทำ Window Dressing ก่อนล่วงหน้า ดังนั้นจึงน่าจะทำให้ตลาดฯขึ้นต่อไปได้ และยังมีโมเมนตัมที่เป็นบวกอยู่

    นอกจากนี้ ปัจจัยการลงทุนในประเทศก็ยังได้แรงหนุนจากที่ทางคสช.ได้มีการหารือกับทางหอการค้าต่างประเทศเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ซึ่งก็ถือว่าสามารถกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนในและต่างประเทศขึ้นมาได้ ส่วนงบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานก็อยู่ระหว่างพูดคุยกันอยู่ เชื่อว่าจะมีความชัดเจนได้ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้าหน้า

  ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งก็ยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงในเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรักอยู่

   พร้อมให้แนวรับ 1,454-1,447 จุด ส่วนแนวต้าน 1,467-1,473 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,921.46 จุด เพิ่มขึ้น 14.84 จุด (+0.09%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,959.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.50 จุด(+0.13%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,359.33 จุด ลดลง 3.51 จุด(-0.08%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 1.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.32 จุด, และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,885.36 จุด เพิ่มขึ้น 3.88 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 มิ.ย.) ที่ 1,461.91 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด(+0.73%)

   - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,845.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.57

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 มิ.ย.)ที่ 106.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 46 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 มิ.ย.)ที่ 4.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.47/48 วิตกข่าวเก็บภาษี Capital Gain

   - "ประยุทธ์"แจง 6 หอการค้าต่างประเทศ เดินหน้าเศรษฐกิจไทยเตรียมอาเซียน ย้ำโรดแมพ 3 ระยะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จัดตั้ง "รัฐบาล-ปฏิรูป"เดือนต.ค. จัดเลือกตั้ง ใน 1 ปี ด้านหอการค้า 29 แห่ง ออกแถลงจุดยืนจันทร์นี้ เรียกร้องขจัดอุปสรรคการค้า-ทุจริต ขณะบีโอไอเผยอนุมัติโครงการค้างใน 2-3 เดือน เล็งประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่

   - ประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจทยอยยื่น ลาออกทั้ง "กฟผ.-ปตท.-อสมท-การบินไทย" ขณะที่ "ประจิน" ยื่นลาออกประธานบอร์ดบินไทยวันนี้ ลุ้นบอร์ดปตท. ดัน "ประจิน" นั่งประธาน 27 มิ.ย. นี้ ส่วนสหภาพฯอสมท ร้องคสช. ปฏิรูปองค์กร

   - นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอใช้เงินคงคลังจำนวน 8,600 ล้านบาท มาจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิรถคันแรกที่มีการตั้งงบประมาณปี 2557 ไว้ไม่เพียงพอ ซึ่งการใช้เงินคงคลังก้อนนี้จะช่วยให้การจ่ายเงินกับผู้ใช้สิทธิเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่เกิดการสะดุด

   - ตลาดหลักทรัพย์ หวั่นเก็บภาษีขายหุ้นกระทบ ความเชื่อมั่น เตรียมชงบอร์ดตั้งคณะทำงานศึกษาเก็บภาษีใหม่ งดภาษีปันผลแต่เก็บภาษีผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 6 เดือน หวังลดการเก็งกำไรในตลาดหุ้น บลจ. มองการยกเลิกสิทธิภาษีแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟจะเป็นอุปสรรคในการสร้างสมดุลของนักลงทุนในตลาด โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันลดลงที่จะรักษาเสถียรภาพให้ตลาดทุน เชื่อไม่กระทบตลาดหุ้น เหตุเป็นการทยอยออก

    - แบงก์ชาติยันยังไม่ได้รับคำสั่งจาก คสช.ให้พิมพ์ธนบัตรใหม่ ระบการพิมพ์ธนบัตรใหม่แก้ปัญหาฟอกเงิน อาจเกิดผลกระทบวงกว้าง

   - นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)เผยคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ประเมินปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 1.5% แม้หลายคนจะเห็นว่าต่ำ แต่ดีกว่าที่คาดไว้เดิมว่าจะโตไม่ถึง 1% เนื่องจากไตรมาสแรกติดลบถึง0.6% ขณะที่การส่งออกและการท่องเที่ยวปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าไม่เป็นไปตามที่คาด โดยธปท.คงปรับลดประมาณการส่งออกปีนี้ลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 4.5% รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบทางจิตวิทยาทำให้ไตรมาส 2-3 ท่องเที่ยวไม่เติบโตเท่าภาวะปกติ

*หุ้นเด่นวันนี้

    - JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท ราคาหุ้น Laggard เกินไปเมื่อเทียบกับ TRUE ขณะที่ JAS ยังมีปัจจัยบวกในระยะสั้นจากแนวโน้มกำไรของไตรมาสที่ 2 ที่เราคาดว่าจะเป็นสถิติใหม่ แม้ว่าการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) จะช้าไปจากกำหนดการเดิมแต่เราไม่คิดว่าจะกระทบฐานะการเงินเพราะกระแสเงินสดจากธุรกิจหลักในช่วง 2 ปีนี้ยังเติบโตดี และหากการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่า 6 - 7 หมื่นล้านบาทสำเร็จ JAS จะได้รับเงินสุทธิไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท สามารถรองรับการขยายธุรกิจหลัก Broadband Internet โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า FTTX ได้อย่างดี และยังมีโอกาสจ่ายเงินปันผลปีนี้สูงกว่าปกติหากตั้ง IFF สำเร็จ ทั้งนี้ JAS จะเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนจะเริ่มสัปดาห์หน้า

   - SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 26 บาท แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการชะลอการให้คูปองดิจิตอลทีวีล่าช้าออกไปกว่าเดิม แต่เราเชื่อว่าจะกระทบกับ SAMART ไม่มาก และเชื่อว่า กสทช. จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านระบบการรับชมดิจิตอลทีวีเกิดขึ้นอย่างทั่วถึง มองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงได้สะท้อนปัจจัยลบไปบ้าง และมองว่าราคาหุ้นตอนนี้เป็นระดับที่น่าลงทุนจากโอกาสได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐต่อยอดการเติบโตในอนาคต ซึ่งแม้ว่ายังไม่รวมโครงการใหม่ๆที่รอประมูลที่จะหนุนรายได้ของ SAMTEL ให้เติบโตของกำไรปี 2557-2558 ยังสูงเฉลี่ย 20% ราคาหุ้นยังไม่แพง PE ปี 2557 ที่ระดับ 11 เท่า อีกทั้งยังมีผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 5% ต่อปี

    - BBL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 225 บาท สินเชื่อเดือน พ.ค. ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.09% M-M รวมงวด 5M14 ลดลง 0.41% YTD แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q14 จะลดลงเล็กน้อย Q-Q จากการชะลอตัวของรายได้ค่าธรรมเนียม (Bancassurance) แม้ผู้บริหารจะปรับเป้าสินเชื่อปีนี้ลงเหลือ 4-5% จากเดิม 5-6% โดยเชื่อว่าการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ที่ 5% เป็นไปได้ และจะเร่งตัวขึ้นเป็น 8% ในปีหน้า และคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 2% Y-Y

    - BIGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น"เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับน้ำหนักดัชนี FTSE  โดยคาดว่าได้รับผลบวกจาก Fund Flows ต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี FTSE เป็น Benchmark ที่จะมีการปรับน้ำหนักในวันนี้ และ BIGC เป็นหุ้นที่ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักในดัชนี FTSE Emerging Asia สูงที่สุดในรอบนี้ จากน้ำหนักเดิมที่ 0.074% เป็น 0.103%

    - PTTEP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 185 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะมี Momentum เชิงบวก จากการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ  BRENT เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน +0.70% dod เป็น US$115.06/barrel และทำระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากความกังวลต่อเหตุการณ์ตึงเครียดในอิรัก และอาจส่งผลกระทบต่อ Supply น้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 2 ของกลุ่มโอเปค พร้อมคาดผลประกอบการ 2Q57 เติบโต qoq จากการเริ่มรับรู้สัดส่วนเพิ่มในโครงการไพลิน และสินภูฮ่อมตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา และการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ QTE ใน 2Q57 จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายให้ขยับขึ้น qoq และราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่ยังค่อนข้างต่ำ

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังหุ้นโทรคมนาคม-เฮลธ์แคร์ร่วง

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมและเฮลธ์แคร์ที่อ่อนตัวลง

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% สู่ระดับ 145.25 จุด เมื่อเวลา 9.32 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,359.60 จุด ลดลง 1.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,330.35 จุด เพิ่มขึ้น 13.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,990.71 จุด ลดลง 1.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,268.10 จุด ลดลง 0.92 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,885.36 จุด เพิ่มขึ้น 3.88 จุด

    หุ้น M3 Inc บริษัทจัดหาข้อมูลทางการแพทย์ชั้นนำของญี่ปุ่น ร่วงลง 2.6% ขณะที่หุ้นซอฟต์แบงก์ คอร์ป ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย หดตัวลง 0.8% ในโตเกียว ด้านหุ้นซัมซุง ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ร่วง 3.4% ในโซล

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 29.55 จุด หลังเฟดให้คำมั่นคงดอกเบี้ยต่ำ

   ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน หลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลงแล้ว

   ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 29.55 จุด หรือ 0.44% ที่ 6,808.11 จุด

   นักวิเคราะห์มองว่าเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณถึงความรีบด่วนในการยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดหุ้นในระยะใกล้ หลังจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดกันถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

   ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่สิ้นสุดลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดมีมติปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือนลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์

   ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด

  หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป นอกจากนี้ การที่เฟดได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นด้วย

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 348.15 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,563.04 จุด เพิ่มขึ้น 32.67 จุด หรือ +0.72% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,004.00 จุด เพิ่มขึ้น 73.67 จุด หรือ +0.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,808.11 จุด เพิ่มขึ้น 29.55 จุด หรือ +0.44%

   ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับคณะกรรมการเฟดที่ออกแถลงการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%

   นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น เฟดมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฟดระบุว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง"

   หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์ หรือ 1.7 พันล้านดอลลาร์

   หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 6% หลังจากนักวิเคราะห์ของโนมูระ โฮลดิงส์ แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นดังกล่าว

   หุ้นเปอร์โยต์ ทะยานขึ้น 5.4% ส่วนหุ้นอีดีเอฟ ร่วงลง 7.7% หลังจากกระทรวงพลังงานฝรั่งเศสเปิดเผยว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะยกเลิกแผนการปรับขึ้นราคาไฟฟ้า

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 14.84 จุด ขานรับเฟดหนุนดอกเบี้ยต่ำ

  ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,921.46 จุด เพิ่มขึ้น 14.84 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,359.33 จุด ลดลง 3.51 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,959.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.50 จุด หรือ +0.13%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,959.87 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับการตัดสินใจของคณะกรรมการเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน และเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวเร็วขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงได้ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาสแรก

   ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 313,000 ราย  สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

   ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจในภาคการผลิตของเขตมิด-แอตแลนติก ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 17.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับของเดือนพ.ค.ที่ 15.4 สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาคดังกล่าวของสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

   หุ้นแบล็คเบอร์รี่ พุ่งขึ้น 9.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นโค้ช อิงค์ ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเป๋ารายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 8.9% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายในอเมริกาเหนือ

   หุ้นสตาร์บัค คอร์ป ปรับขึ้น 2.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว โดยยูบีเอสระบว่า สตาร์บัคเป็นหนึ่งในบริษัทอีกหลายแห่งของสหรัฐที่มีโอกาสที่จะเติบโตในระยะยาวในประเทศต่างๆ

            อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!