WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET37ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นฟื้นตามตปท., แต่โรคเมอร์ส-ICAO ปักธงแดงไทยกดดัน

  นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื๋นตัวหลังจากเมื่อวานนี้ตลาดฯปรับตัวลงจากแรงกระทบที่มีจากเรื่องโรคระบาดเมอร์ส แต่การปรับตัวขึ้นคงเป็นไปในกรอบจำกัด เนื่องจากโรคเมอร์สยังกดดันกลุ่มท่องเที่ยว และ ICAO ก็ยังปักธงแดงไทยอีกในเรื่องการบกพร่องการบิน

    อย่างไรก็ดี คาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตามดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ตอบรับเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อของสหรัฐฯก็ออกมาต่ำกว่าคาด

    ส่วนเรื่องของกรีซก็ยังต้องจับตาใกล้ชิดมากขึ้น หลังจากที่รมว.คลังยูโรโซนยังไม่ได้ข้อยุติการเจรจากับกรีซ ทำให้เห็นได้ว่าการเจรจายังล้มเหลวอยู่ และทางผู้นำยูโรโซนก็จะมีการประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์นี้อีกที นอกจากนี้ทาง ECB ก็ได้ออกมาเตือนกรีซว่าอาจจะเผชิญเงินฝากไหลออกจากแบงก์ของกรีซในวันจันทร์นี้จำนวนมาก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสุดท้ายจะตกลงกันได้

พร้อมให้แนวรับ 1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,516-1,548 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(18 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,115.84 จุด เพิ่มขึ้น 180.10 จุด(+1.00%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,132.95 จุด เพิ่มขึ้น 68.07 จุด(+1.34%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,121.24 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด(+0.99%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 161.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 95.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 191.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.54 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.59 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการในวันนี้

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 มิ.ย.58)1,508.04 จุด ลดลง 6.75 จุด (-0.45%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 528.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 มิ.ย.58) ปิดที่ 60.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 53 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 มิ.ย.58)ที่ 7.95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.64 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค จับตาธปท.ปรับลด GDP

                - "ไอซีเอโอ" ปักธงแดงไทย เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยการบิน เหตุไม่สามารถจัดทำคู่มือตรวจสอบการออกใบอนุญาตการบินเสร็จทัน ขณะที่ "ประจิน" รับสภาพสอบตกการแก้ปัญหา ยอมรับการสื่อสารระหว่าง "อาคม" ผิดพลาด เตรียมเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องเดินหน้าแก้ปัญหา 22 มิ.ย.นี้

                - สธ.ประกาศชายชาวตะวันออกกลาง อายุ 75 ปี ติดเชื้อเมอร์สจากต่างประเทศแล้วเดินทางเข้าไทย เร่งประสานส่งห้องแยกโรค พร้อมตามคนใกล้ชิด 59 รายสอบโรค แพทย์มั่นใจคุมไม่ให้แพร่ระบาดได้ นายกฯวอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก ด้านการบินไทยออก 7 มาตรการเข้มป้องกัน ขณะที่เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน มูดี้ส์ชี้บั่นทอนเศรษฐกิจ

                - เฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด "โฆสิต" ชี้ไทยกระทบน้อย แม้ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ด้านนักเศรษฐศาสตร์ระบุเปิดทางนโยบายการเงินไทยผ่อนคลายมากขึ้น ขณะแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่า

                - "ปรีดิยาธร"ระบุเศรษฐกิจเข้าสู่ปกติ เดือนก.ย.นี้ หลังใช้เวลาปรับตัวจากผลกระทบจากประชานิยม ด้านจีดีพีโตระดับ 3-4% ด้านนายแบงก์ประเมินกำลังซื้อยังไม่ฟื้น หวังงบภาครัฐ ขณะสหพัฒน์คาดปีนี้แค่ประคองตัว ประเมินเริ่มฟื้นไตรมาส 4

                - แบงก์ชาติ เผยหลังผลการประชุม FOMC คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับเดิม 0-0.25% เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ภาพรวมเงินบาทเคลื่อนไหวปกติและเกาะกลุ่มไปสกุลเงินในภูมิภาค ขณะเดียวกันมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มอัตราการว่างงาน ส่งผลให้หลายฝ่ายติดตามอย่างใกล้ชิด

                - "หม่อมอุ๋ย" คาดจีดีพีปี 58-59 โต 3-4% โครงการลงทุนภาครัฐปัจจัยหนุนพร้อมลุ้นการส่งออกฟื้นตัว แต่ยอมรับส่งออกยังมีปัจจัยลบ เหตุคู่ค้าเศรษฐกิจชะลอ ส่วนคัดเลือกผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนใหม่ให้รัฐมนตรีคลังตัดสินใจ ไม่สนคนนอกหรือคนในแต่ต้องให้ความสำคัญเรื่องค่าเงินบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TWZ-W4 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น(TWZ)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน2,672,352,957 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.70 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (1 มิถุนายน 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 พ.ค. 2561

                - FVC-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น(FVC)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 121,499,466หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 14 พฤษภาคม 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 14 พ.ค. 2561

                - KBANK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 240 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้อานิสงค์จาก Window Dressing ในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงหลังธนาคารพาณิชย์ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงในช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการ 2H58 จะกลับมาขยายตัวเด่นเมื่อเทียบกับ 1H58 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นธุรกิจของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.6% yoy เป็น 50,131 ล้านบาท และ +14.2% yoy เป็น 57,236 ล้านบาทในปี 2559

      - INTUCH (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 114 บาท เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.20 – 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3% โดยคาดว่าหุ้น Defensive จะเป็นที่พักเงินได้ดี หลังพบผู้ติดเชื่อ MERS รายแรกในไทยวานนี้ โดยคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558 ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 และ IPSTAR ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุมแบงก์ชาติญี่ปุ่น

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินวันสุดท้ายและแถลงมติการประชุมในวันนี้

    ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 146.91 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,152.41 จุด เพิ่มขึ้น 161.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,689.93 จุด ลดลง 95.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,885.73 จุด เพิ่มขึ้น 191.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,056.54 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,319.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.54 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,718.71 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการในวันนี้

     นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงบวกจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 27.33 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง และตลาดปรับตัวขึ้นตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ขานรับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

   ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 27.33 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 6,707.88 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นตามตลาดนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเฟดยังคงมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ หลังเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7%

   นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ยังเปิดเผยหลังการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม

   ส่วนการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองก็เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หลังการร่วงลงของดอลลาร์สหรัฐได้ช่วยหนุนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์ โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์เซส ดีดตัวขึ้น 2.69% นำหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับขึ้น 2.60% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 2.38%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากการเจรจาหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 384.22 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,803.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.27% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,100.30 จุด เพิ่มขึ้น 122.29 จุด หรือ +1.11% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,707.88 จุด เพิ่มขึ้น 27.33 จุด หรือ +0.41%

     ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับเฟดที่ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า ตลาดการเงินไม่ควรจดจ่ออยู่ที่กระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ โดยกรีซจะต้องชำระหนี้วงเงิน 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF ในวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด IMF กล่าวยืนยันในเมื่อวานนี้ว่า IMF จะไม่มีการเสนอให้เวลาปลอดหนี้แก่กรีซเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ หากกรีซไม่สามารถจ่ายหนี้ให้แก่ IMF ในวันที่ 30 มิ.ย.ได้

     สำหรับการประชุมยูโรกรุ๊ปเกี่ยวกับประเด็นหนี้สินของกรีซได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประธานสภายุโรปกล่าวว่า จะมีการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับประเด็นหนี้กรีซในวันจันทร์นี้

    หุ้น ABB ดิ่งลง 3.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสแนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นบิลฟิงเกอร์ ร่วงลง 14% เพราะได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าทางบริษัทเตรียมขายธุรกิจด้านพลังงานหลังจากที่ขาดทุนอย่างหนัก

  หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ปรับขึ้น 4.1% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทวีเวนดี เอสเอ กำลังพิจารณาซื้อธุรกิจในบราซิลของเทเลคอม อิตาเลีย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 180.10 จุด รับเฟดคงจุดยืนนโยบาย

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,115.84 จุด เพิ่มขึ้น 180.10 จุด หรือ +1.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,132.95 จุด เพิ่มขึ้น 68.07 จุด หรือ +1.34% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,121.24 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด หรือ +0.99%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเยลเลนที่เปิดเผยภายหลังการประชุมเฟดครั้งล่าสุดว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม พร้อมกับกล่าวว่า ตลาดการเงินไม่ควรจดจ่ออยู่ที่กระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในเชิงบวก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 มิ.ย. ลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 15 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

    ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

   หุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นออราเคิล คอร์ป ดิ่งลง 4.8% เนื่องจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาด

   หุ้นราล์ฟ ลอเรน ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้น Amazon.com พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดีดขึ้น 1.1% หลังจากฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของจีเอ็ม

  นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ของกรีซต่อไป หลังจากการประชุมยูโรกรุ๊ปเกี่ยวกับประเด็นหนี้สินของกรีซได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประธานสภายุโรปกล่าวว่า จะมีการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับประเด็นหนี้กรีซในวันจันทร์นี้

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!