WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้เหวี่ยงลงเช่นเดียวกับตปท.,เกาะติดคำวินิจฉัยศาลรธน.

                นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเหวี่ยงตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันถ้วนหน้าตามดาวโจนส์ร่วงแรง อันเนื่องมาจากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ต

                นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังต้องเผชิญกับปัจจัยการเมืองในประเทศ วันนี้ก็ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เที่ยงวันนี้ และในวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.)คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะพิจารณาผลสรุปการสอบสวนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตามข้อกล่าวหาละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

                พร้อมให้แนวรับ 1,390-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ลดลง 129.53 จุด (-0.78%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,867.72 จุด ลดลง 16.94 จุด(-0.90%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,080.76 จุด ลดลง 57.30 จุด(-1.38%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 161.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.94 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 พ.ค.) ที่  1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด(-1.23%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 388.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.57

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 99.5 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 5.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.35/36 ตลาดจับตาศาลรธน.วินิจฉัยสถานภาพนายกฯคดีย้าย"ถวิล"

                - ศาลรธน.นัดชี้ชะตา"ยิ่งลักษณ์"คดีโยกย้าย"ถวิล"เที่ยงวันนี้ นายกฯ เบิกความสู้ยันไม่เคยแทรกแซง ทำเพื่อเครือญาติ เผยหากสิ้นสภาพทั้งคณะ นายกฯและรมต.หลุดเก้าอี้แค่ 10 ตำแหน่ง ป.ป.ช.จ่อชี้มูลคดีจำนำข้าว พรุ่งนี้

                - กกร.หวังการเมืองยุติภายใน 6 เดือนฟื้นความเชื่อมั่น หนุนเศรษฐกิจปีนี้โต 2.5-3.0% ระบุการลงทุนชะลอจากงบประมาณภาครัฐล่าช้า เอสเอ็มอีกระทบหนัก ขณะบีโอไอเผยยอดขอต่ำเป้า เหลือ 7 แสนล้าน นักลงทุนรอประเมินสถานการณ์การเมือง

                - ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่าที่ประชุม กกร.มีมติที่จะเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% และจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ออกไปอีก 2 ปี เพราะหากไม่มีการต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับขึ้นเป็น 10% ทันที

                - "แบงก์ชาติ"เร่งจบแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้าย"เฟสแรก"ในไตรมาส 3 นี้ เปิดช่องบริษัทจดทะเบียนออกไปลงทุน ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับการเมืองในประเทศป่วนหนัก ทำภาคธุรกิจไปลงทุนต่างประเทศวูบ

*หุ้นเด่นวันนี้

                -  AMATA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.50 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 1Q57 ไว้ที่ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 647% QoQ และ 327% YoY ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองอาจกระทบไม่มาก เนื่องการเพิ่มขนาดการลงทุนต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมkของผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นทำให้ถอนการลงทุนและย้ายฐานการผลิตไปจากไทยค่อนข้างลำบาก นี้ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปมองที่การตั้งกองทุน REIT และการนำ บริษัท อมตะวีเอ็น (เวียดนาม)เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯใน 2H57

                - GFPT (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.60 บาท มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังประสบปัญหา Oversupply ในปี 55 ประเมินกำไรสุทธิในปี 57 และ 58 ขยายตัวราว 18% และ 12% YoY ตามลำดับ ต่อเนื่องจากที่โต 550% YoY ในปี 56 อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นมาที่ 15% และ 15.25% ตามลำดับ มองการทำ Joint Venture กับลูกค้าหลัก เช่น McKey หรือ Nichirei จะทำให้การขยายตัวในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น

                - PTT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 347 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 71% Q-Q ตามผลกำไรของ PTTEP ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ลดลง 27% Y-Y เพราะธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรจากสต็อกน้ำมันน้อยกว่าปีก่อน ส่วนธุรกิจโรงแยกก๊าซคาดว่ากำไรเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งราคาขายเพิ่มและต้นทุนลด ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 โตเฉลี่ยเพียง 2.4% ต่อปี แต่ PE ปัจจุบันที่ 9.5 เท่า PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่มี PE 10 เท่าและ PBV 1.5 เท่า

                - CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 35 บาท คาดกำไรปกติที่ 503 ล้านบาท +73% Q-Q, -24% Y-Y ถือว่าไม่โดดเด่นแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายนัก เพราะโรงแรมในมัลดีฟช่วยชดเชยผลกระทบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศได้บ้าง ผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตั้งแต่ 2Q14 หลังยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน

                - IRPC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ในฐานะที่เป็น Turnaround stock เป้าหมาย 4.50 บาท กำไรใกล้เคียงตลาดคาดหากตัดรายการพิเศษ กำไรปกติใน 1Q14 ลดลง 72% Q-Q แต่เพิ่ม 146% Y-Y คิดเป็นเพียง 13% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 221% Y-Y แต่แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นให้เป็นโรงงานที่ครบวงจรมากขึ้นภายใต้โครงการ Phoenix ราคาหุ้นซื้อขายเพียง PBV 1 เท่า

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกเยน-สกุลเงินตลาดเกิดใหม่แข็งค่า

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินอื่นๆของตลาดเกิดใหม่ก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.8% เมื่อเวลา 10.01 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,296.25 จุด ลดลง 161.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,023.15 จุด ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,904.52 จุด ลดลง 71.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,903.72 จุด ลดลง 8.67 จุด

                ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,964.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,240.30 จุด ลดลง 5.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,861.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด

                ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเดือนเม.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 23.86 จุด เหตุวิตกยูเครน,ผลประกอบการ

                ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) โดยมีแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงในยูเครน และผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

                ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 23.86 จุด หรือ 0.35% ที่ 6,798.56 จุด

                นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลประกอบการในยุโรปโดยทั่วไปออกมาย่ำแย่กว่าในสหรัฐ ขณะที่สถานการณ์ในยูเครนก็สร้างความวิตกแก่นักลงทุน

                หุ้นบาร์เคลย์สร่วง 5.2% หลังผลกำไรในช่วงไตรมาสแรกลดลง ขณะที่รายได้จากการซื้อขายพันธบัตร สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อผลประกอบการที่อ่อนแอของภาคเอกชน และสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 336.04 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,428.07 จุด ลดลง 34.62 จุด หรือ -0.78% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,467.53 จุด ลดลง 61.97 จุด หรือ -0.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,798.56 จุด ลดลง 23.86 จุด หรือ -0.35%

                นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์รุนแรงในยูเครนจะบานปลาย หลังจากสหรัฐและเยอรมนีได้กดดันรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการกำหนดให้วันที่ 25 พ.ค.เป็นวันที่จะต้องมีการโหวตว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหรือไม่ หากรัสเซียไม่ยอมยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน

                นักวิเคราะห์กังวลว่าหากสหรัฐและยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย เพราะกว่า 70% ของน้ำมันดิบและก๊าซที่ผลิตได้ในรัสเซียนั้น ได้ถูกส่งออกไปยังยุโรปโดยผ่านเส้นทางยูเครน

                หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 5.2% หลังจากธนาครารเปิดเผยว่าผลกำไรก่อนหักภาษีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.69 พันล้านปอนด์ในไตรมาสแรกปีนี้ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.79 พันล้านปอนด์

                หุ้นโบลิเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงและแร่สังกะสีของสวีเดน ร่วงลง 4.8%

                อย่างไรก็ตาม หุ้นสายการบินลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 3% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงสู่ระดับ 245 ล้านยูโรในไตรมาสแรกปีนี้ จากไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 359 ล้านยูโร

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 129.53 จุด

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตและกลุ่มการเงินมากที่สุด

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ร่วงลง 129.53 จุด หรือ -0.78% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,080.76 จุด ลดลง 57.30 จุด หรือ -1.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,867.72 จุด ลดลง 16.94 จุด หรือ -0.90%

                ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัทบางแห่งของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และรายงานที่ระบุว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าลดลง 3.6% สู่ระดับ 4.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. จาก 4.23 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยยอดส่งออกขยายตัว 2.1% แตะที่ 1.939 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 2.343 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม

                แต่หลังจากนั้นไม่นานตลาดก็อ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอินเตอร์เน็ต โดยในหุ้นกลุ่มการเงินนั้น หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ดิ่งลง 4.14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้

                ส่วนหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ตนั้น หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลงอย่างหนักถึง 17.81% ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นอีเทรด ไฟแนนเชียล ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 3.9%

                อย่างไรก็ตาม หุ้นยาฮูดีดตัวขึ้นสวนทางกับหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอินเตอร์เน็ต หลังจากมีการคาดการณ์ว่าราคาหุ้นไอพีโอของบริษัทอาลีบาบาซึ่งยาฮูถือหุ้นอยู่นั้น จะมีมูลค่าราว 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่มีมูลค่าสูงรองจากกูเกิล อิงค์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาหุ้นไอพีโอที่สูงของอาลีบาบานั้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อยาฮูที่กำลังวางแผนจะขายหุ้นราว 22.6% ที่ถืออยู่ในบริษัทอาลีบาบา

                นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่ยังคงรุนแรง ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังที่ให้การสนับสนุนรัสเซียและทางการในเมืองต่างๆซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน

                ทั้งนี้ สหรัฐและเยอรมนีได้กดดันรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการกำหนดให้วันที่ 25 พ.ค.เป็นวันที่จะต้องมีการโหวตว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหรือไม่ หากรัสเซียไม่ยอมยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!