- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 29 May 2015 10:19
- Hits: 1569
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ กังวลศก.ในปท.ส่งผลชะลอลงทุนก่อนหยุดยาว
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากตลาดฯยังกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า และวันนี้ช่วงบ่ายแบงก์ชาติจะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าภาพรวมยังไม่ฟื้นตัว ทำให้นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนก่อนหยุดยาว 3 วัน และรอผลการเจรจาหนี้ของกรีซด้วย
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในช่วงเช้า แต่มาจนถึงขณะนี้เริ่มที่จะไหลมาอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยมีตลาดจีนที่ปรับตัวลงหนัก หลังจากที่ได้มีการเพิ่มมาตรการสกัดหุ้นร้อน
พร้อมให้แนวรับ 1,484-1,486 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500-1,505 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(28 พ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,126.12 จุด ลดลง 36.87 จุด(-0.20%),ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 5,097.98 จุด ลดลง 8.61 จุด(-0.17%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,120.79 จุด ลดลง 2.69 จุด(-0.13%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 41.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 16.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 56.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 30.61 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.21 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 พ.ค.58)1,493.61 จุด ลดลง 7.23 จุด (-0.48%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 725.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 พ.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 พ.ค.58) ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 17 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 พ.ค.58)ที่ 8.12 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.73/74 คาดแกว่งแคบ จับตาตัวเลข GDP Q1/58 ของสหรัฐฯ
- "ประสาร" เผย ธปท.เริ่มปรับสมมติฐานผลค่าเงินบาทต่อภาคส่งออก รับค่าเงินอ่อนส่งผลมากขึ้น จากการค้าโลกเปลี่ยน ขาดกำลังซื้อหันมาแข่งขันราคา ด้าน "ปรีดิยาธร" พอใจค่าเงิน มั่นใจส่งออกฟื้นไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะมูดี้ส์หนุนเรทติ้งไทย จากฐานการเงินการคลังแกร่ง
- แบงก์รัฐทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังคลังเรียกคุยหลายรอบให้ทำหน้าที่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ "เอสเอ็มอีแบงก์" ใจป้ำลดตาม กนง.รวดเดียว0.25% ส่วน "ออมสิน" ลดดอกเบี้ยเงินฝาก 0-0.15% พร้อมปรับลดเงินกู้เอ็มแอลอาร์ 0.05% ส่วน เอ็มโออาร์และเอ็มอาร์อาร์ลดลง 0.15% มีผล 28 พ.ค. "สาลินี" เผยบอร์ดมีมติจ่ายโบนัส 1 เดือน ขณะที่กำไรรอบ 4 เดือน 425 ล้าน ยอดเบิกจ่ายสินเชื่อ 1.1 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า
- สศค.เผยเศรษฐกิจเดือนเมษายนยังโตได้จากการบริโภคภาคเอกชน แรงหนุนภาคท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยอมรับการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดก่อสร้าง
- สภาผู้ส่งออกชี้ปัญหากระทบส่งออกยังสูง ทั้งการไม่ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย-นอก กำลังซื้อฝืด ค้าชายแดนเริ่มติดลบ ประเมินภาวะส่งออกติดลบ ต่อเนื่อง ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้น ทั้งปีฟันธงติดลบ กระทบยอดผลิตอุตสาหกรรม เม.ย.ต่ำสุด 40 เดือนดัชนีใกล้เคียงน้ำท่วมใหญ่
- สรท.ชี้ปี 58 ส่งออกจ่อขยายตัวติดลบ เผยห่วงการค้าชายแดนเริ่มหดตัว ระบุสัญญาณอันตราย ด้าน หม่อมอุ๋ย-ประสาร" ชี้บาทอ่อนอุ้มส่งออก มองค่าเงินยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ ลุ้นเศรษฐกิจครึ่งหลังฟื้นตัวดีขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- LIT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.22 บาท เป็นหุ้นขนาดเล็กที่มีความสามารถในการทำกำไรที่น่าสนใจและมีเป้าการเติบโตของสินเชื่อสูงราว 30% ในปีนี้ และน่าจะต่อเนื่องอีก 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากการที่ลูกค้าถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อใหม่เข้มงวดมากขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่คุณภาพสินเชื่อมีความเสี่ยงต่ำเพราะเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงกับหน่ายงานรัฐ และเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว LIT จะได้ประโยชน์จากงานประมูลทั้งภาครัฐและเอกชนเพราะเป็นผู้ให้สินเชื่อตั้งแต่เริ่มประมูลจนจบโครงการ และคาดเงินปันผลตอบแทน 3.2% (0.15 บาท/หุ้น)
- PLANB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 6 บาท แม้งบโฆษณาจะอ่อนไหวมากต่อเศรษฐกิจและเป็นค่าใช้จ่ายแรกๆแรกที่ถูกตัดในช่วงเศรษฐกิจชะลอ แต่ในจำนวนสื่อทั้งหมด สื่อโฆษณานอกบ้านเติบโตอย่างรวดเร็วและโตสูงกว่าตลาดรวมจาก Lifestyle ของผู้คนที่ใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น การร่วมมือกับ Hello Bangkok ทำให้ PLANB กลายเป็น Supplier รายใหญ่สุดในกลุ่มสื่อนอกบ้าน มี Market share ในสื่อกลางแจ้งประเภทดิจิตอล 91% จากเดิม 55% ปัจจุบันมี Backlog เกือบ 1.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดกำไรปกติปี 2015 โตถึง 86% Y-Y
- BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 11.80 บาท ความน่าสนใจอยู่ที่ Dividend yield ที่สูง 7% หรือ 0.67 บาท/หุ้น จากนโยบายเงินปันผลที่ตั้งไว้ 8 พันล้านบาทสำหรับผลประกอบการปี 2016 (สิ้นสุด มี.ค. 2016) ขณะที่ธุรกิจหลักมั่นคงแข็งแกร่งแม้ว่ากำไรสุทธิในปีนี้อาจเติบโตเพียงเล็กน้อย เราคาด +2% Y-Y ตามธุรกิจสื่อโฆษณาและอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ ซึ่งชดเชยได้ไม่หมดจากธุรกิจเดินรถไฟฟ้า สำหรับประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมทุนกับ SIRI และโอกาสในการได้สิทธิในการเดินรถไฟฟ้าโครงการใหม่ของรัฐบาล จะมาช่วยต่อยอดการเติบในอนาคต
- MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 37.50 บาท ชอบปัจจัยพื้นฐานของ MINT ในเรื่องการกระจายฐานกำไรที่หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี มีแผนการขยายธุรกิจที่น่าสนใจ และแนวโน้มการฟื้นตัวที่สดใส โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 58-59 เติบโตแข็งแกร่ง โดยประมาณการไว้ที่ 27% และ 21% ตามลำดับ
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้และกรีซในขณะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,510.27 จุด ลดลง 41.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,603.47 จุด ลดลง 16.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,398.28 จุด ลดลง 56.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,727.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.75 จุด
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,109.38 จุด ลดลง 1.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,387.16 จุด ลดลง 30.61 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,751.35 จุด ลดลง 4.21 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 7.59 จุด นำโดยหุ้นค้าปลีก ขณะจับตากรีซ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์หนี้สินของกรีซที่ยังคงไม่มีความชัดเจน
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 7.59 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 7,040.92 จุด
ตลาดปิดบวกขึ้นไม่มากนัก หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กรีซว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้กำลังร่างข้อตกลงเกี่ยวกับหนี้สินของกรีซ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้เปิดเผยที่กรุงเอเธนส์ว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ได้มีการเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อนำไปสู่การทำข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายซิปราส โดยกล่าวว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆในขณะนี้
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.3% ในไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดหวังว่าจะมีการปรับทบทวนตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น
หุ้นสปอร์ต ไดเรค อินเตอร์เนชันแนล พุ่ง 4.2% ขณะที่หุ้นคิงฟิชเชอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ปรับขึ้น 2.2% หลังบริษัทรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้ IMF
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ก่อนกำหนดการชำระเงินกู้คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 406.83 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,137.83 จุด ลดลง 44.70 จุด หรือ -0.86% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,677.57 จุด ลดลง 93.56 จุด หรือ -0.79% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,040.92 จุด เพิ่มขึ้น 7.59 จุด หรือ +0.11%
นักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ก่อนกำหนดการชำระเงินกู้คืนให้กับ IMF ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซที่ระบุว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ได้มีการเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายสู่การทำข้อตกลง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ EU ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายซิปราส โดยระบุว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆในขณะนี้
ขณะที่นายวิลเลียม เมอร์เรย์ โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ พร้อมกับกล่าวว่า "การเจรจากับกรีซยังคงดำเนินต่อไป แต่ยังต้องมีงานทำอีกมาก และเราคาดหวังว่ากรีซจะชำระหนี้แก่เรา"
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง นำโดยหุ้นอาร์เซลอร์มิททัล และหุ้น Voestalpine ซึ่งต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 2.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยูและหุ้นเดมเลอร์ ต่างก็ปรับตัวลง 1.7%
อย่างไรก็ตาม หุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ทะยานขึ้น 3.2% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเอวาโก เทคโนโลยีส์ ตกลงซื้อกิจการบริษัทบรอดคอม คอร์ป
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : วิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 36.87 จุด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้และกรีซในขณะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,126.12 จุด ลดลง 36.87 จุด หรือ -0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,097.98 จุด ลดลง 8.61 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,120.79 จุด ลดลง 2.69 จุด หรือ -0.13%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซที่ระบุว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ได้มีการเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายสู่การทำข้อตกลง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ EU ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายซิปราส โดยระบุว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆในขณะนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นายวิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยจะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะสดใสขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัวอย่างอ่อนแอ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 23 พ.ค. เพิ่มขึ้น 7,000 ราย แตะ 282,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้น 3.4% แตะระดับ 112.4 ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2006 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นก็ตาม โดยหุ้นเซาท์เวิสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.5% ส่วนหุ้น Chesapeake Energy ดิ่งลง 4.8%
หุ้นกลุ่มสายการบินอ่อนแรงลง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ และหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 0.7%
หุ้นคอสท์โค ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีก ขยับลง 0.80% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 1.17 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงการประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 1/2558, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ค.
อินโฟเควสท์