- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 28 May 2015 13:47
- Hits: 2066
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวหลังคลายกังวลเรื่องกรีซ แต่ห่วง NPL กลุ่มแบงก์
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1,490-1,510 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวก-ลบคละกัน โดยปัจจัยบวกมาจากที่คลายกังวลเรื่องกรีซหลังจากที่นายกรัฐมนตรีของกรีซออกมาบอกว่า การเจรจากับเจ้าหนี้ของกรีซน่าจะได้ข้อสรุป ทำให้ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นไป
แต่ปัจจัยในประเทศยังมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ของกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ช่องทีวีดิจิตอล 2 ช่องไม่จ่ายค่าไลเซ่นต์ ทำให้แบงก์อาจมีปัญหาเรื่อง NPL ได้และจะไปกดดันการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(27 พ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,162.99 จุด พุ่งขึ้น 121.45 จุด(+0.67%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,106.59 จุด เพิ่มขึ้น 73.84 จุด(+1.47%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,123.48 จุด เพิ่มขึ้น 19.28 จุด(+0.92%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 117.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 81.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 48.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.31 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.86 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(27 พ.ค.58)1,500.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด (+0.19%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 766.00 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(27 พ.ค.58) ปิดที่ 57.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 52 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(27 พ.ค.58)ที่ 8.41 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.74/76 คาดอ่อนต่อจาก Trend ดอลล์ยังแข็งค่า
- เจโทรโรดโชว์ครั้งแรกในไทย ดึงธุรกิจไทยลงทุนในญี่ปุ่น ระบุมีศักยภาพในธุรกิจ "ไฟฟ้า-บริการ-อาหาร" ล่าสุดลงทุนติดอันดับ 10 ด้าน ส.อ.ท.ชี้เงื่อนไขจูงใจ เร่งบีโอไอออกมาตรการส่งเสริมลงทุนนอก หวังดันธุรกิจไทยปักฐานในต่างแดน เตรียมถกสมาชิกหาลู่ทาง ขณะเอสซีจีเผยสนใจซื้อกิจการที่มีแบรนด์
- ไทยทีวี ประกาศอำลาธุรกิจทีวีดิจิทัล หลังขาดทุน 320 ล้าน เดินหน้าลุยทีวีดาวเทียม ด้าน กสทช.ย้ำยึดแบงก์การันตี "ไทยทีวี" กว่า 1.6 พันล้าน ขีดเส้นจ่ายงวด 2 ภายใน 15 วัน ชี้ขั้นตอน "เลิกประกอบกิจการ" ต้องส่งแผนเยียวยาผู้บริโภค หากปล่อย "จอดำ" ก่อน กสท.อนุมัติ เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามประกาศฯ เสี่ยงถูก "เพิกถอน" ไลเซ่นส์ ติดแบล็คลิสต์ปิทาง ออนแอร์ทีวีดาวเทียม "บัณฑูร" รับดิจิทัลทีวียังเสี่ยง
- นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้เตรียมการนำระบบการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ระบบ e-bidding (อีบิดดิ้ง) มาใช้แทนการประมูลแบบ e-auction (อีออกชั่น) โดยเริ่มใช้ในการประมูลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการทุจริตการประมูลงาน และไม่ให้เกิดการฮั้วประมูลงานของผู้รับเหมา
- คลังเดินหน้าลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ 25 ล้านบาท เริ่ม 11 ส.ค. ปีหน้า ลดเหลือ 1 ล้านบาท สคฝ.ขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์ทำความเข้าใจ ลูกค้า หวั่นตื่นตระหนก ยันไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ มั่นใจส่งผลดี ทำให้เห็นเศรษฐกิจยังไปได้ ระบบธนาคารมั่นคง
*หุ้นเด่นวันนี้
- PYLON(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 11 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาในทิศทางเดียวกับหุ้นในกลุ่มรับเหมาซึ่งได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของเมกกะโปรเจ็คของภาครัฐเช่นกัน แต่ด้วย Backlog ที่บริษัท 900 ล้านบาท และสัดส่วนของงานที่รับเฉพาะค่าแรงซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะเดินหน้าทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 14% Y-Y และมีโอกาสสูงกว่าคาดหากบรรยากาศการลงทุนภาคเอกชนดีขึ้นเพราะงานฐานรากเป็นงานที่ส่งมอบเร็วและรับรู้รายได้เร็ว หลังจาก PYLON-W1 หมดอายุแล้วเมื่อ เม.ย.
- VNG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 10.50 บาท เป็นอีกบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า เพราะบริษัทซื้อวัตถุดิบทั้งหมด (ยางพาราเป็นหลัก) เป็นเงินบาท ขณะที่ประมาณ 60-65% ของรายได้มาจากการส่งออก โดยมีตลาดหลักคือสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซาอุดิอาระเบีย ซีเรีย เวียดนาม จีน (ราคาขายอิงดอลลาร์สหรัฐ) เป็นต้น และยังได้ประโยชน์จากราคายางพาราที่อยู่ในระดับต่ำ เห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยับขึ้นเป็น 23-27% ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา จาก 15-20% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 21% Y-Y ทำ new high ต่อเนื่องจากปีก่อน
- QH (บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 3.2 บาท ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายรวมถึงปัญหา over supply ในตลาดบ้าน ฝ่ายวิจัยมอง QH ปีนี้เน้นเรื่องลดภาระหนี้ ที่ดินมีการซื้อสะสมไว้แล้ว ขณะที่มีเงินสดในมือ Cash on hand อยู่พอสมควร เรื่อง Business plan 1. Presale คาดว่าจะโตในระดับ 20% 2. Top line โตเฉลี่ย 10% 3.Gross Margin คาดว่าจะโตขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ 4.Core Profit คาดว่าโตได้ 14% ในปีนี้ 5.มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ใน HMPRO LHBANK และ QHPF ยังมีมูลค่าที่ต่ำอยู่
- AOT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 359 บาท ให้เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มขนส่ง AOT ยืนยันกระทรวงการคลังไม่ขายหุ้นที่ถือ 70% ออกไป เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี สามารถทำกำไรสูง และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ฝ่ายวิจัยมองแนวโน้มธุรกิจไปได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเติบโตแข็งแกร่ง(เม.ย.+22%YoY)โดยประมาณการว่าปริมาณผู้โดยสารของ AOT ในปีนี้จะขยายตัว 15.5% และปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 10.2% ทั้งนี้การที่ปริมาณผู้โดยสารต่างชาติมีสัดส่วนที่สูงขึ้นนั้นเป็นเรื่องดีกับบริษัท เพราะต่างชาติจะเสียค่าธรรมเนียม PSC อัตรา 700 บาท/คน ขณะที่ผู้โดยสารไทยจะเสีย 100 บาท/คน
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังนักลงทุนคลายวิตกหนี้กรีซ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ นอกจากนี้ เงินเยนที่อ่อนค่าเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีเมื่อเทียบดอลลาร์ ยังช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ทะยานขึ้น
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 152.47 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,590.28 จุด เพิ่มขึ้น 117.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,741.57 จุด เพิ่มขึ้น 48.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,117.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,426.25 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,757.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 84.34 จุด หลังคลายวิตกหนี้กรีซ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ หลังจากมีรายงานข่าวว่ากรีซและบรรดาเจ้าหนี้ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 84.34 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 7,033.33 จุด
ตลาดปรับตัวขึ้น หลังนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซ ระบุว่าการหารือกับเจ้าหนี้อยู่ในช่วงสุดท้ายสู่การบรรลุข้อตกลงในเชิงบวก ขณะที่รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่ากรีซกำลังเริ่มร่างข้อตกลงกับบรรดาเจ้าหนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษได้ทรงเปิดสมัยประชุมสภาอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ โดยทรงระบุถึงความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาด
หุ้นซีอาร์เอชพุ่ง 3.6% นำขบวนหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 3.3%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก เหตุตลาดคลายกังวลวิกฤตหนี้กรีซ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) หลังจากนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกันได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 408.88 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,182.53 จุด เพิ่มขึ้น 98.99 จุด หรือ +1.95% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,771.13 จุด พุ่งขึ้น 146.00 จุด หรือ +1.26% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,033.33 จุด เพิ่มขึ้น 84.34 จุด หรือ +1.21%
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเพื่อช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตหนี้สิน หลังจากที่การเจรจายืดเยื้อมานานหลายเดือน
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ของกรีซอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรีซมีกำหนดต้องชำระหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ พร้อมกับจับตาดูการประชุม G7 ซึ่งเริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ที่เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือกันในประเด็นหนี้สินของกรีซด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลกรีซเตรียมใช้เงินในบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของรัฐบาล เพื่อนำไปชำระหนี้งวดต่อไปกับ IMF ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ โดยนายยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกรีซได้ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการผิดชำระหนี้
หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเรย์โนลด์ อเมริกัน ได้รับอนุมัติให้ขายแบรนด์ Winston, Kool, Salem และ Maverick ให้กับอิมพีเรียล โทแบคโค
หุ้น Assicurazioni Generali ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป ทะยานขึ้น 2.8% หลังจากบริษัทประกาศแผนการเพิ่มการจ่ายเงินปันผลและจะเพิ่มกระแสเงินสดหมุนเวียนเป็น 7 พันล้านยูโรภายในปี 2561
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยุโรป โดยในวันนี้ อังกฤษจะเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 1/2558 ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษเดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของฝรั่งเศสเดือนเม.ย. และจีดีพีของอิตาลีช่วงไตรมาส 1/2558
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : คลายวิตกหนี้กรีซ หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 121.45 จุด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,162.99 จุด พุ่งขึ้น 121.45 จุด หรือ +0.67% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,106.59 จุด เพิ่มขึ้น 73.84 จุด หรือ +1.47% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,123.48 จุด เพิ่มขึ้น 19.28 จุด หรือ +0.92%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเพื่อช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตหนี้สิน หลังจากที่การเจรจายืดเยื้อมานานหลายเดือน
นอกจากนี้ มีรายงานว่า รัฐบาลกรีซเตรียมใช้เงินในบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของรัฐบาล เพื่อนำไปชำระหนี้งวดต่อไปกับ IMF ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ โดยนายยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกรีซได้ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการผิดชำระหนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรีซได้ประชุมร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเมื่อวานนี้ ในขณะที่เส้นตายในการชำระหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ช่วงต้นเดือนมิ.ย.กำลังงวดเข้ามาทุกที ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ประเด็นหนี้สินของกรีซอาจจะนำมาหารือนอกรอบการประชุม G7 ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ที่เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี
หุ้นเซมิคอนดัคเตอร์พุ่งขึ้น โดยหุ้นบรอดคอม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพไร้สาย ทะยานขึ้น 22% ขณะที่หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นเอ็นวีเดีย และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.9%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา หุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1% ส่วนหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นทิฟฟานี ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องประดับรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 10.53% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกลดลง 17%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 1/2558, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์