WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซต์เวย์-เก็งหุ้นกลาง-เล็ก, รอผลประชุมเฟด-กนง.

   นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ โดยคงจะมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ในหุ้นที่มีแนวโน้มจะ Turnaround และกลุ่มพลังงานทดแทน เป็นต้น

   ทั้งนี้ ตลาดฯคงจะได้รับแรงกดดันจากกลุ่มเทเลคอมที่มีประเด็นเรื่องชะลอการประมูลคลื่น และกลุ่มพลังงานแม้ว่าจะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันขึ้นอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก แต่ก็น่าจะส่งผลดีต่อ PTTEP ตัวเองมากกว่า ส่วนตัวอื่น ๆ ในกลุ่มพลังงานยังต้องรอดูการปรับโครงสร้างพลังงาน

  นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็กำลังรอดูการประชุมกนง.ที่จะมีขึ้นในวันนี้ด้วย ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นกลุ่มแบงก์ อัตราดอกเบี้ยคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

  ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) โดยเฉพาะคำแถลงของประธานเฟดว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

    พร้อมให้แนวรับ 1,465-1,460 จุด แนวต้าน 1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,808.49 จุด เพิ่มขึ้น 27.48 จุด(+0.16%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,941.99 จุด เพิ่มขึ้น 4.21 จุด(+0.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,337.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.12 จุด(+0.37%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 33.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 75.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.70 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.32 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 มิ.ย.) ที่ 1,471.02 จุด ลดลง 0.83 จุด(-0.06)

   - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 798.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 มิ.ย.)ที่ 106.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 54 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 มิ.ย.)ที่ 4.43 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.49/50 รอผลประชุมกนง.บ่ายนี้

   - คสช.สั่งกสทช. ชะลอ 4 โครงการชั่วคราว ทีวีดิจิทัลและ USO" มูลค่ารวม 8.79 หมื่นล้าน สั่งคณะทำงานด้านกฎหมาย ตรวจสอบความโปร่งใส กสทช. เสนอบอร์ดใหญ่วันนี้ ถกด่วนเยียวยาลูกค้าคลื่น 1800 ป้องกันซิมดับ "สุภิญญา" แนะเปิดประชาพิจารณ์คูปอง ขณะที่ "เอไอเอส-ดีแทค" ยันใช้คลื่นที่มีให้บริการต่อ

    - พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เปิดเผยว่า ได้รายงานผลการติดตามการตรวจสอบโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐที่มีวงเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 28 โครงการ มูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แก่ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ กก.คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธานเพื่อรับทราบแล้วโดยหัวหน้าคสช. ย้ำว่าต้องดูว่าเป็นโครงการที่ให้ประโยชน์กับประชาชนและคุ้มค่าหรือไม่

    - ก.ล.ต. กระตุ้น "บริษัทหลักทรัพย์-บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน" ให้ความสำคัญ กับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันจริงจัง โดยให้เปิดเผยดัชนีวัดความคืบหน้าในการดำเนินการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของบริษัทจดทะเบียนแต่ละรายไว้ในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ พร้อมให้ถือปฏิบัติ เริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป

   - "ประยุทธ์" นั่งหัวโต๊ะประเดิมประชุมบอร์ดบีโอไอนัดแรก วันนี้ (18 มิ.ย.) ลุ้นเคาะอนุมัติโครงการค้างท่อล็อตแรกกว่าแสนล้านบาท ตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองลงทุนเพื่อเดินหน้าส่งเสริมฯ ให้เร็วขึ้น ขณะที่ ส.อ.ท.เล็งเสนอนอกรอบให้บีโอไอชัดเจนส่งสริมกิจการไทยลงทุนต่างประเทศ

   - กองทุนประกันสังคมรับมือเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น เตรียมยกระดับฝ่ายบริหารเงินเทียบเท่ากอง, นายวิน พรหมแพทย์ หัวหน้ากลุ่มลงทุน สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ สปส. ได้มีมติปรับโครงสร้างด้านการลงทุน โดยยกระดับสำนักบริหารการลงทุนให้เทียบเท่ากอง เป็นหน่วยงานพิเศษภายใต้การกำกับของ สปส.

   - ประชุม กนง. ธนาคารพาณิชย์ คาดลงมติคงอัตราดอกเบี้ย 2% เชื่อว่าเป็นผลจากการเมืองคลี่คลาย และรัฐเดินหน้าโครงการลงทุน จึงลดความจำเป็นใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านหอการค้าแนะไม่ควรตรึงดอกเบี้ยนานเกิน ป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจโตเร็วเกิน คาดปลายปีโอกาสขยับอีก 0.25%

*หุ้นเด่นวันนี้

   - CK(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 25 บาท แนวโน้มธุรกิจสดใส เนื่องจากมีงานก่อสร้างในมือสูงกว่า 1 แสนล้านบาท และการลงนามในสัญญาก่อสร้างใหม่ๆที่จะลงนามเพิ่มใน 2H57 อีก 2.2 หมื่นล้านบาท (โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะอิน มูลค่า 5 พันล้านบาทใน 3Q57 และโครงการพลังงานน้ำ น้ำบากในสปป.ลาว มูลค่า 1.6-1.7 หมื่นล้านบาทใน 4Q57 ส่วนนี้เป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาเงินกู้ และสัญญาสัมปทานอายุ 30 ปีในคราวเดียวกัน)  ส่วนการเปิดประมูลงานใหม่ๆของภาครัฐและภาคเอกชนในระยะต่อไปเป็นโอกาสของบริษัท ซึ่งทาง CK ประเมินว่าน่าจะได้งานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างขั้นพื้นฐานเร่งด่วนเข้ามาไม่น้อยกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทจากมูลค่ารวมของโครงการทั้งหมด 1.5 แสนล้านบาท รวมทั้งบริษัทเองได้ปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำกำไรได้มากขึ้น (ในไตรมาส 1/57 มีอัตรากำไรขั้นต้นเป็นเลขสองหลักที่ 11.4%)

    - คสช. สั่ง กสทช. ชะลอโครงการหลัก 4 โครงการรวมประมูลคลื่นความถี่(ทรีนีตี้)ได้แก่ โครงการจัดประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 และ 900 MHz โครงการจัดบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริหารเพื่อสังคม (USO) และโครงการแจกคูปองทีวีดิจิตอลแก่ประชาชน ทั้งนี้เชื่อว่าการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่จะไม่ถูกเลื่อนออกไปอย่างมีนัย นอกจากนี้วันนี้จะมีการประชุม กสทช. เพื่อหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการกรณีโครงการต่างๆ ถูกเลื่อนออกไป จึงมองว่ายังไม่กระทบพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญแต่กระทบราคาในเชิง sentiment เท่านั้น ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" ADVANC 281 บาท DTAC 135 บาท

   - STEC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 26.25 บาท กลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยชอบ STEC มากสุด เพราะเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรดีที่สุด โดย 1Q57 STEC มีกำไรสุทธิ 414 ล้านบาทสูงที่สุดของกลุ่ม และคิดเป็น Net Profit Margin ที่ 7.5% เทียบกับ CK และ ITD ที่มี Net Profit Margin ต่ำเพียง 4% และ 1.5% ส่วนทั้งปีคาดกำไรปกติปีนี้ประมาณ 1,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%yoy

     - CPALL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 55 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q14 โต 6% Q-Q และ 9% Y-Y จากอากาศร้อนและบอลโลกช่วยหนุนให้ Same store sales growth พลิกกลับเป็นบวก จากติดลบใน 1Q14 ชดเชยดอกเบี้ยจ่าย ค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ และค่าที่ปรึกษาของดีล MAKRO ก้อนสุดท้ายได้ แนวโน้มผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง ในอนาคตยังมี upside จากการขาย MAKRO ที่ถืออยู่ 97.88% ราคา 39.35 บาท/หุ้น โดยมีแผนจะลดสัดส่วนให้เหลือ 51% (ไม่ได้กำหนดระยะเวลา)

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาผลประชุมเฟด

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ (เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย)

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 143.51 จุด เมื่อเวลา 9.27 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,009.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,128.22 จุด ลดลง 75.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,257.65 จุด เพิ่มขึ้น 17.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,002.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,277.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,874.41 จุด ลดลง 0.19 จุด

    ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 18 มิ.ย. โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการเผยแพร่แถลงการณ์นโยบายของเฟด การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขว่างงาน เงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปิดท้ายด้วยการแถลงข่าวของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

     นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 12.13 จุด ขณะรอดูผลการประชุมเฟด

     ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะทราบผลในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ตามเวลาไทย

   ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ 0.18% ที่ 6,766.77 จุด

   นักลงทุนต่างจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นหรือไม่ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบาย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเนื่องมาจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

    ทั้งนี้ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยจะทราบผลการประชุมในช่วงเช้าวันที่ 19 มิ.ย.ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนจับตาการประชุมเฟด

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) โดยตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 346.42 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,536.07 จุด เพิ่มขึ้น 26.02 จุด หรือ +0.58% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,920.32 จุด เพิ่มขึ้น 36.34 จุด หรือ +0.37% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,766.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ +0.18%

   ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากข้อมูลของยูโรสแตทที่ระบุว่าอัตราตำแหน่งงานว่างในยูโรโซนอยู่ที่ 1.7% ในไตรมาสแรกของปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.6% ทั้งในไตรมาสก่อนหน้า และในไตรมาสแรกของปี 2556

   นักลงทุนจับตาดูคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 18 มิ.ย. โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการเผยแพร่แถลงการณ์นโยบายของเฟด การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขว่างงาน เงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปิดท้ายด้วยการแถลงข่าวของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

  ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งนี้

  หุ้นไชร์ปรับตัวขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นวิทเบรด พุ่งขึ้น 2.2% ส่วนหุ้นเมิร์คร่วงลง 5.3%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 27.48 จุด ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,808.49 จุด เพิ่มขึ้น 27.48 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,337.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.12 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,941.99 จุด เพิ่มขึ้น 4.21 จุด หรือ +0.22%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์และวันจันทร์ ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 18 มิ.ย. โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการเผยแพร่แถลงการณ์นโยบายของเฟด การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขว่างงาน เงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปิดท้ายด้วยการแถลงข่าวของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

    ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งนี้

   สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตรารวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2556 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.จะอยู่ที่ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

   ทั้งนี้ ราคาผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี ซึ่งบ่งชี้ถึงช่วงขาขึ้นของราคาในประเทศ และอาจส่งผลถึงการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับกรอบเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดได้กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ราว 2% ซึ่งเป็นสัญญาณถึงความมีเสถียรภาพด้านราคา และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

  ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค.ลดลง 6.5% มาอยู่ที่ 1 ล้านยูนิต เนื่องจากการสร้างบ้านเดี่ยวและอาคารพักอาศัยรวมต่างปรับตัวลดลง โดยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค.อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต

   หุ้น E*Trade Financial และหุ้น Charles Schwab พุ่งขึ้นกว่า 5.4% ส่วนหุ้นเมดโทรนิค ดีดตัวขึ้น 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

   หุ้นเนทฟลิกซ์ และหุ้นเอ็กซ์พีเดีย ปรับตัวขึ้น 3.1% หลังจากนักวิเคราะห์ได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นของทั้ง 2 บริษัท

อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!