WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักฐาน-อาจ take profit บ้าง เหตุไร้ปัจจัยกระตุ้น

      นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอยู่ในช่วงของการพักฐาน โดยคงจะมีการ take profit บ้าง เนื่องจากมองว่า valuation ตลาดฯขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยมากระตุ้น และตลาดฯเอเชียก็น่าจะอยู่ในช่วง take profit ด้วย

     ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ที่ตลาดฯปรับตัวขึ้นไป ทั้งที่นักลงทุนต่างชาติไม่ซื้อ ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะขึ้น แต่ต่อมาก็ทราบข่าวมาว่าทางกบข.และประกันสัมคม ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนเข้ามา ดังนั้นจึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดฯขึ้นไป แต่วันนี้คิดว่าทางสองสถาบันนี้คงจะซื้อในลักษณะ support มากกว่า แต่จะไม่ไล่

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยยังต้องติดตามเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรักสักระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ โดยให้ติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย ส่วนในประเทศก็ให้ติดตามการประชุมกนง.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งทาง BLS คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ทางมอร์แกน สแตนเลย์ มองว่าอาจจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยสักครั้ง

พร้อมให้แนวรับ 1,467 จุด แนวต้าน 1,475 จุด

    ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(16 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,781.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด(+0.03%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,937.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด(+0.08%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,321.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด(+0.24%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 29.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 63.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.70 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.52 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 มิ.ย.) ที่ 1,471.85 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด(+1.09%)

     - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,198.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.57

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 มิ.ย.)ที่ 106.9 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1 เซนต์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 มิ.ย.)ที่ 3.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.36/38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

     - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.)ส่งอนุกรรมการตรวจสอบ 8 โครงการมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท ระหว่างวันที่ 16-18 มิ.ย.นี้

     - สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เร่งสรุปกรอบการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานวงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 8 ปี เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณา หลังตัดรถไฟความเร็วสูงออก และปรับการลงทุนโครงการเร่งด่วน 3 โครงการไปใช้เงินในงบปี 58 ด้าน สบน.พร้อมจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ คาดสรุปได้ทันก่อนเสนอหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ 19 มิ.ย.นี้

    - ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้นเพียง 1.36 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 9.32 หมื่นล้านบาทหรือ 6.4% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ผลประกอบการของภาคเอกชนไม่ขยายตัวเท่าที่ประมาณการไว้

    - ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ)น่าจะกำหนดการประชุมนัดแรกในเร็วๆ นี้เพื่ออนุมัติโครงการที่ค้างการพิจารณากว่า 700 โครงการ มูลค่าประมาณ 7.6 แสนล้านบาท โดยกรอบหลักเกณฑ์พิจารณาโครงการยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่หากเป็นกรอบการพิจารณาของบอร์ดชุดที่ผ่านมาจะเน้นให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการของนักลงทุนต่างชาติของเอสเอ็มอีก่อนเป็นลำดับแรกๆ ไม่เรียงตามลำดับเวลายื่นโครงการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนประเทศ หลังจากชะลอตัวลงจากผลกระทบทางการเมือง

*หุ้นเด่นวันนี้

     - THCOM(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 43 บาท ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ 2Q57 ที่คาดว่าจะเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยกำไรจากธุรกิจปกติ 439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY และ 27% QoQ จากรายได้รวมเพิ่มขึ้นตามไทยคม 5 และ 6 และเชื่อว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ นอกจากนี้หากมีการทำเซ็นสัญญาเป็นทางการกับ China Telecom และ Synertone เพื่อรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จาก IPSTAR อีกทั้งยังมีโอกาสเห็นรายได้เติบโตในระยะยาวจากการยิงดาวเทียมไทยคม 7 ที่คาดว่าจะขึ้นสู่วงโคจรในเดือน ส.ค.นี้ มองเป็นบวกต่อราคาหุ้น

     - AP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.70 บาท ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขาย 6 เดือน ที่ระดับ 8.7 พันล้านบาท ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้จากแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมีเนียม 3 แห่งใน 2Q57 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนยอดขายให้เพิ่มต่อเนื่อง ยังคงแผนเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีหลังอีก 8 พันล้านบาท มีจุดเด่นจากแนวโน้มผลประกอบการที่จะโตต่อเนื่องตั้งแต่ 2Q57 และจะทำระดับสูงสุดใน 4Q57 ตามแผนการรับรู้คอนโดมีเนียม 5 แห่ง คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลทั้งปีที่ 5% ให้ผลตอบแทนรวม 18%

     - PTT(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 375 บาท กำไรสุทธิ 2Q57 จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 1Q57 มีแรงหนุนจากปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นของ PTTEP และ PTT โดย PTTEP จะมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากเริ่มรับรู้กำลังผลิตใหม่จากเข้าซื้อสินทรัพย์ Hess Thailand ทำให้การผลิตใน 2Q57 เพิ่มขึ้นราว 8,000-10,000 BOED ส่วน PTT จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มจากความต้องการสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน ส่วนธุรกิจโรงแยกก๊าซก็มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่ทำการผลิตเพียง 50%ใน 1Q57 จะกลับมาทำการผลิตที่ระดับ 100% ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปี 57 ประมาณ 107,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy

     - SUTHA(ทรีนีตี้)อานิสงส์ คสช. เร่งอนุมัติโครงการ-เตรียมเข้าซื้อกิจการขยายธุรกิจ โดย SUTHA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทปูนขาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผสมคอนกรีตและอิฐมวลเบา การที่ คสช. เร่งเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันยอดขายของบริษัทอย่างมีนัย ทั้งนี้บริษัทมีแผนเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศเพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งปีตั้งเป้าโต 20% พร้อมใช้กำลังการผลิต 100% มองแนวรับ 7.40 แนวต้าน 8 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังสหรัฐเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด

   ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 143.81 จุด เมื่อเวลา 9.26 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,962.99 จุด เพิ่มขึ้น 29.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,237.63 จุด ลดลง 63.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,223.02 จุด เพิ่มขึ้น 20.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,994.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,289.56 จุด ลดลง 0.70 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,874.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.52 จุด

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 79.1% นับเป็นสัญญาณล่าสุดว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวย่ำแย่จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นรุนแรง

     นอกจากนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 49 จากระดับ 45 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังมีเสถียรภาพ หลังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงต้นปี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : วิตกสถานการณ์อิรัก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 23.21 จุด

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย. ) เพราะได้รับปัจจัยลบจากสถานการณ์รุนแรงในอิรัก ซึ่งส่งผลให้ตลาดปิดในแดนลบติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

    ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,754.64 จุด ลดลง 23.21 จุด หรือ -0.34%

     ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ในอิรัก โดยมีรายงานว่ารมว.กลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้เรือ USS Mesa Verde ซึ่งเป็นเรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของสหรัฐ เดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย และยังได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และได้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน

      หุ้นบีทีร่วงลง 2.4% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า บีพีอาจจะต้องจ่ายเงินสูงถึง 550 ล้านปอนด์ต่อปีเข้าสู่โครงการบำเน็จบำนาญ หลังจากมีการปรับทบทวนนโยบายซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า

     หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงหลังจากไรท์มูฟรายงานเมื่อวานนี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือนพ.ค. โดยหุ้นเพอร์ซิมสัน ดิ่งลง 2% ขณะที่หุ้นโบวิส โฮม ร่วงลง 1%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ จากข่าวรัสเซียตัดการส่งก๊าซให้ยูเครน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิรักที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งข่าวที่ว่ารัสเซียได้ตัดการส่งก๊าซให้ยูเครน

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 345.52 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,510.05 จุด ลดลง 33.23 จุด หรือ -0.73% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,883.98 จุด ลดลง 28.89 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,754.64 จุด ลดลง 23.21 จุด หรือ -0.34%

     ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยล่าสุดมีรายงานว่าซีอีโอของบริษัท นาฟโทก๊าซ ของยูเครนเผย รัสเซียตัดการลำเลียงก๊าซให้กับยูเครนแล้วในวันนี้ หลังจากที่ได้ออกมาขู่ว่าจะตัดการจัดส่งก๊าซให้ยูเครน ยกเว้นว่ายูเครนจะสามารถจ่ายล่วงหน้าค่าเชื้อเพลิงดังกล่าวได้

      อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการด้านพลังงานของยุโรปคาดว่ารัสเซียและยูเครนจะบรรลุข้อตกลงประนีประนอมเกี่ยวกับราคาก๊าซสำหรับยูเครนในอนาคตอันใกล้นี้ โดยายกุนเธอร์ โอตติงเกอร์ กรรมาธิการด้านพลังงานของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หากทั้งสองฝายเจรจากันด้วยความยืดหยุ่นมากขึ้น ก็อาจจะมีการบรรลุข้อตกลง

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ในอิรัก โดยมีรายงานว่ารมว.กลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้เรือ USS Mesa Verde ซึ่งเป็นเรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของสหรัฐ เดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย และยังได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และได้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน

      หุ้นบีทีร่วงลง 2.4% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า บีพีอาจจะต้องจ่ายเงินสูงถึง 550 ล้านปอนด์ต่อปีเข้าสู่โครงการบำเน็จบำนาญ หลังจากมีการปรับทบทวนนโยบายซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า

       ส่วนหุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ดิ่งลง 4.2%

       นอกเหนือจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศแล้ว ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ที่ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนพ.ค.อยู่ที่ 0.5% ซึ่งลดลงจาก 0.7% ในเดือนเม.ย. ส่วนอัตราเงินเฟ้อในสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 0.6% ในเดือนพ.ค. เทียบกับ 0.8% ในเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 5.27 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

        ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,781.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,321.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด หรือ +0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,937.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ +0.08%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย.ยังคงปรับตัวขึ้นแตะ 19.28 หลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.01 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงถึงกิจกรรมภาคการผลิตในนิวยอร์กที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง

      ขณะเดียวกันเฟดรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 79.1% นับเป็นสัญญาณล่าสุดว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวย่ำแย่จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นรุนแรง

     นอกจากนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 49 จากระดับ 45 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังมีเสถียรภาพ หลังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงต้นปี

      อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดเพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก โดยมีรายงานว่ารมว.กลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้เรือ USS Mesa Verde ซึ่งเป็นเรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของสหรัฐ เดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย และยังได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และได้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ลงจาก 2.8% สู่ระดับ 2% อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่อ่อนแรงในช่วงไตรมาสแรก แต่ยังคงคาดการณ์สำหรับปี 2558 ไว้ที่ 3%

     หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่าบริษัทซีเมนส์ และมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรี ได้ร่วมกันเสนอซื้อกิจการพลังงานของบริษัทอัลสตอม เพื่อแข่งขันกับข้อเสนอซื้อมูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีอีเสนอไปก่อนหน้านี้

      หุ้นยาฮู ร่วงลง 5.8% หลังจากอาลีบาบาซึ่งยาฮูถือหุ้นอยู่ 22.6% นั้น รายงานผลประกอบการลดลงในไตรมาสแรก

     หุ้นเวอร์เท็กซ์ ฟาร์มาซูติคอล ดิ่งลง 8.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของแซนฟอร์ด แบร์สเติร์น ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!