WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET6ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้เปิดกระโดด-รีบาวน์ตามตลาดตปท. ขานรับ 3 ปัจจัยหนุน

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเปิดกระโดดรีบาวน์ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า ขานรับ 3 ปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯงวดเดือนเม.ย.ออกมาดีขึ้น ทำให้ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี

     นอกจากนี้ การเลือกตั้งในอังกฤษที่พรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ สามารถครองเสียงข้างมากได้ ทำให้ความกังวลที่จะออกจากสหภาพยุโรปก็หมดไป และเมื่อวานนี้ทางธนาคารกลางของจีนก็ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ทำให้ตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวขึ้นกัน

     พร้อมให้แนวต้าน 1,530 จุด ส่วนแนวรับ 1,515-1,520 ถัดไป 1,494-1,500 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(8 พ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,191.11 จุด พุ่งขึ้น 267.05 จุด(+1.49%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด(+1.17%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด(+1.35%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 258.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 259.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 71.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.88 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.57 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 พ.ค.58)1,510.51 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด (+0.81%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 475.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 พ.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 พ.ค.58) ปิดที่ 59.39 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 45 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 พ.ค.58)ที่ 7.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.51/53 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลล์แข็ง

                - "ปรีดิยาธร"เผยรัฐบาลไฟเขียวจ่ายเงิน 9,000 ล้าน ลงขันเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคาร เอไอไอบี ตามข้อเสนอของจีน ทยอยจ่ายปีละ 1,900 ล้าน 5 ปี ประเมินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ของไทยได้อานิสงส์ ขณะนักวิชาการชี้ไทยได้ประโยชน์ระยะยาว

                - แบงก์พาณิชย์กังวลปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินผิดกฎหมาย หวั่นกระทบหลักประกันปล่อยกู้โครงการใช้ที่ดิน "สปก.-น.ส.3 ก." เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมพิจารณาเข้มงวดมากขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงเขตป่าสงวน ยันไม่ทำให้สินเชื่อชะลอมาก เหตุปล่อยกู้ในพื้นที่ดังกล่าวน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้เงินสด

                - นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า คลังจะเสนอออกกฎหมายพิเศษเพื่อล้างหนี้ของประเทศกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการรวมเอาหนี้ทั้งจากโครงการรับจำนำข้าว หนี้ที่รัฐบาลค้างจ่ายให้กองทุนประกันสังคม และหนี้ที่รัฐบาลต้องชดเชยความเสียหายให้กับรัฐวิสาหกิจต่างๆ

                - แหล่งข่าวจากคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สำนักงานสลากฯ) เปิดเผยว่า การจัดสรรโควตาสลากที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย.นี้ จำนวน 48 ล้านฉบับนั้น อาจจะต้องจัดสรรให้กับผู้ค้ารายเดิม เนื่องจากสำนักงานสลากฯ จะเซ็นสัญญากับผู้ได้รับจัดสรรโควตาทุก 2 ปี แต่จะมีการทบทวนเป็นรายปี

                - ส.อ.ท.มองส่งออกปีนี้โตสุดแค่ 0% แม้ค่าเงินบาทจะมีทิศทางอ่อนค่าลงแล้วก็ตามเหตุตลาดหลักๆ ยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะตลาดอียูยังคงระส่ำรับออเดอร์ใหม่ไม่ได้ขาดทุนยับจากยูโรที่อ่อนค่า หนุนมาตรการทำบาทอ่อนชี้อยากเห็น 33.50 บาทต่อเหรียญฯจะเหมาะสุด

                - สมาคมไทยรับสร้างบ้านคาดทั้งปีเติบโต 7-8% ด้าน "พีดีเฮ้าส์" จับมือพันธมิตรรุกตลาดบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท โชว์ไตรมาสแรกกวาดยอดขาย 500 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - MTLS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 25 บาท กำไรแกร่งกว่าคาด จากการกลับสำรองฯ ทำให้กำไร +24% Q-Q, +29% Y-Y คิดเป็น 18% ของประมาณการกำไรทั้งปี แนวโน้มจะดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไปหลังขยายสาขาเชิงรุกเมื่อต้นปีและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง

                - ADVANC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 300 บาท กำไรแกร่งตามคาด กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8% Q-Q และ 4% Y-Y จากรายได้ Non voice ที่เติบโตแข็งแกร่ง +6% Q-Q, +34% Y-Y ชดเชยรายได้จาก Voice ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องได้ ขณะที่ Regulatory cost ลดลงต่อเนื่อง แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปียังคงสดใส

                - LPN(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 23.40 บาท คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง และ 1Q58 เป็นไตรมาสที่มีกำไรต่ำสุดของปีนี้ ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q58 จะเพิ่มเป็นเท่าตัวจาก 1Q58 และกำไรจะขึ้นไปสูงสุดใน 3Q58 เนื่องจากมีการโอนคอนโดหลายแห่ง สำหรับกำไรสุทธิทั้งปี 58 คาดว่าจะเติบโตได้ก้าวกระโดด 42%YoY

                - KAMART (เคเคเทรด)มูลค่าเหมาะสม 9.20 บาท คาดพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรใน 1Q58 จากการตัดขายธุรกิจเดิมที่หมดไปตั้งแต่ปีก่อนแล้ว และมองยอดขายโตเด่นจากการโฆษณา

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ ขานรับจีนประกาศลดดอกเบี้ย

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงอีก 0.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 พ.ค.

      ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 0.6% สู่ระดับ 152 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,637.58 จุด เพิ่มขึ้น 258.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,231.27 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,837.04 จุด เพิ่มขึ้น 259.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,763.94 จุด เพิ่มขึ้น 71.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,106.12 จุด เพิ่มขึ้น 20.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,463.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.88 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,809.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด

     ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 5.1% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557 ที่ธนาคารกลางตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 159.87 จุด รับชัยชนะพรรคอนุรักษ์นิยม

       ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขานรับพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

      ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,046.82 จุด พุ่งขึ้น 159.87 จุด หรือ +2.32%

      ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้นหลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งสูงถึง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และส่งผลให้นายคาเมรอนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 จากพรรคอนุรักษ์นิยมที่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธทเชอร์

      การประกาศชัยชนะของนายคาเมรอนส่งผลให้หัวหน้าพรรคคู่แข่งทั้ง 3 พรรค ซึ่งรวมถึงพรรคแรงงาน ได้ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อแสดงถึงการยอมรับความพ่ายแพ้

     นักวิเคราะห์กล่วาว่า การที่พรรคอนุรักษ์นิยมสามารถจัดตั้งรัฐบาลเดี่ยวได้นั้น ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดมีความกังวลว่าอาจจะไม่มีพรรคใดได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล และอาจทำให้เกิดภาวะที่รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในรัฐสภา (hung parliament)

    หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยม โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิง และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ต่างก็พุ่งขึ้น 5.8%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง หลังพรรคอนุรักษ์นิยมคว้าชัยเลือกตั้งอังกฤษ

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ

     ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.9% ปิดที่ 400.16 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,090.39 จุด เพิ่มขึ้น 123.17 จุด, +2.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,709.73 จุด เพิ่มขึ้น 301.76 จุด หรือ +2.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,046.82 จุด เพิ่มขึ้น 159.87 จุด, +2.32%

    ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นหลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งสูงถึง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และส่งผลให้นายคาเมรอนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 จากพรรคอนุรักษ์นิยมที่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธทเชอร์

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับป้จจัยบวกจากรายงานที่ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. จากระดับ 85,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.4%

    หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 4.1% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้นขานรับชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยม โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิง และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ต่างก็พุ่งขึ้น 5.8%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 267.05 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,191.11 จุด พุ่งขึ้น 267.05 จุด หรือ +1.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด หรือ +1.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด หรือ +1.35%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. จากระดับ 85,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.4%

     นอกจากนี้ ตลาดห้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนที่พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งสูงถึง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และส่งผลให้นายคาเมรอนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 จากพรรคอนุรักษ์นิยมที่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธทเชอร์

    หุ้นกลุ่มต่างๆปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง ขานรับตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นโฮม ดีโปท์ และหุ้นเวิร์ลพูล ต่างก็ปรับขึ้น 1.7% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ ส่วนหุ้นวีซา ทะยานขึ้น 4.3% หลังจากมีรายงานว่าวีซากำลังเจรจาซื้อบริษัทที่เคยอยู่ในเครือของวีซาในยุโรป คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์

     หุ้นกลุ่มสายการบินทะยานขึ้น โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างก็ปรับขึ้น 1.7% ส่วนหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 2.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ปีนี้

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,191.11 จุด เพิ่มขึ้น 267.05 จุด, +1.49%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด, +1.35%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด, +1.17%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,090.39 จุด เพิ่มขึ้น 123.17 จุด, +2.48%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,709.73 จุด เพิ่มขึ้น 301.76 จุด, +2.65%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,046.82 จุด เพิ่มขึ้น 159.87 จุด, +2.32%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,105.39 จุด เพิ่มขึ้น 506.28 จุด, +1.90%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,452.01 จุด เพิ่มขึ้น 19.23 จุด, +0.56%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,807.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด, +0.14%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,182.21 จุด เพิ่มขึ้น 31.72 จุด, +0.62%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,577.34 จุด เพิ่มขึ้น 287.37 จุด, +1.05%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,763.21 จุด ลดลง 53.06 จุด, -0.68%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,205.92 จุด เพิ่มขึ้น 93.70 จุด, +2.28%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,634.60 จุด ลดลง 11.10 จุด, -0.20%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,635.40 จุด ลดลง 9.40 จุด, -0.17%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,085.52 จุด ลดลง 5.48 จุด, -0.26%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,379.19 จุด เพิ่มขึ้น 87.20 จุด, +0.45%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,692.00 จุด ลดลง 12.11 จุด, -0.12%

           

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,191.11 จุด พุ่งขึ้น 267.05 จุด หรือ +1.49%ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด หรือ +1.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด หรือ +1.35%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.9% ปิดที่ 400.16 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,090.39 จุด เพิ่มขึ้น 123.17 จุด, +2.48% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,709.73 จุด เพิ่มขึ้น 301.76 จุด หรือ +2.65% ดัชนี FTSE 100ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,046.82 จุด เพิ่มขึ้น 159.87 จุด, +2.32%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) ขานรับพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

         ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,046.82 จุด พุ่งขึ้น 159.87 จุด หรือ +2.32%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและจะช่วยหนุนอุปสงค์พลังงานให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 59.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 65.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.7ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,188.90 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 16.8 เซนต์ ปิดที่ 16.465 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 12.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,143.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 16.60 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่802.35 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นขานรับพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 119.79 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 119.77 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9312 ฟรังซ์ จากระดับ0.9217 ฟรังซ์

          เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5458 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5258 ดอลลาร์สหรัฐ ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1206 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1266 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้นแตะระดับ 0.7918 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7903 ดอลลาร์สหรัฐ

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 574.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด, +0.17%

               

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!