WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET20ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์ตามตลาดทั่วโลก จับตาการปรับอัตราดอกเบี้ยเฟด

    นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการรีบาวน์ขึ้นมาหลังจากที่ร่วงลงไปมากเมื่อวานนี้ จากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในเรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้ต่างก็รีบาวน์กันทั่วหน้า

     นอกจากนี้ Bond Yield ของสหรัฐฯแม้ว่าจะยังขยับขึ้นแต่ก็ไม่แรง ดังนั้นจึงมองว่าตลาดฯเป็นลักษณะของการ Panic และรอดูความชัดเจนในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยเฟดก่อน ซึ่งถ้ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดจริงก็อาจจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงได้อีก เนื่องจากมีผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน และยังมีผลต่อราคาน้ำมันที่จะมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย และหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดเร็วก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ Emerging Market ได้เร็วไปด้วย

    พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(7 พ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,924.06 จุด เพิ่มขึ้น 82.08 จุด(+0.46%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,945.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.90 จุด(+0.53%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.85 จุด(+0.38%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 23.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.81 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 40.77 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 267.55 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 พ.ค.58)1,498.31 จุด ลดลง 21.57 จุด(-1.42%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 68.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 พ.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(7 พ.ค.58) ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.99 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(7 พ.ค.58)ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.53/55 ตลาดรอดูผลเลือกตั้งอังกฤษ-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ

                - คลังเตรียมชงนายกฯ อนุมัติแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นช่วยเหลือ 3 กลุ่มใหญ่ "เกษตรกร-เอสเอ็มอี-ธุรกิจท่องเที่ยว" จับมือแบงก์รัฐ-เอกชนปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมสั่งสรรพากรศึกษาเพิ่มมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว หวังเป็นช่องทางกระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ

                - ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุดรอบ 5 ปีครั้งใหม่ ตลาดกังวลเศรษฐกิจชะลอ ด้าน "ประสาร" ชี้ช่วยเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว เผยกนง.ลดดอกเบี้ยทำนโยบายเผื่อลดความเสี่ยง "เศรษฐกิจชะลอตัว-ภาวะเงินฝืด" ไว้แล้ว ขณะเอกชนคาดเริ่มเห็นส่งออกฟื้นไตรมาส2

                - ครม.ไฟเขียวปล่อยกู้พม่าสร้างถนนเชื่อมโครงการทวาย 4,500 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ยตลอดสัญญา 30 ปี ระบุผลตอบแทนทางเศรษฐกิจระยะยาวคุ้มค่ากว่าการคิดดอกเบี้ย ดึงปตท.สร้างคลังแอลเอ็นจีโครงการทวาย เฟสแรก พร้อมอนุมัติงบกว่า 2.6 หมื่นล้าน สร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น สั่งร.ฟ.ท.เร่งประมูลมั่นใจมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น

                - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงได้อีก เพราะจะสร้างสมดุลหลังมีคนขายเงินบาทเพื่อซื้อเงินเหรียญสหรัฐมากขึ้น และจะส่งผลดีกับภาคการส่งออก แต่จะดีแค่ไหนต้องดูเรื่องเศรษฐกิจประกอบด้วย

                - นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.อยู่ที่ระดับ 76.6 ซึ่งเป็นการลดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2557 โดยดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความเชื่อมั่นต่อโอกาสหางานทำและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 66.6, 71.2 และ 92.7 ตามลำดับ

                - หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากธนาคารพาณิชย์ในการลดดอกเบี้ยตาม ต่างจากการลดดอกเบี้ยนโยบายรอบวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งในครั้งนั้นธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้นำการปรับลดดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากลงครั้งแรก

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TVT บมจ. ทีวี ธันเดอร์ เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ MAI, บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า หากพิจารณาในรูปแบบ fully diluted เต็มจำนวน 800 ล้านหุ้น และสมมติให้กำไรสุทธิขยายตัว 20% YoY ได้ และอ้างอิง PER เฉลี่ยของกลุ่มสื่อที่ 48.5 เท่า ประเมินว่าราคาพื้นฐานเบื้องต้นน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 2.71 บาท/หุ้น หรือยังคงมี upside ราว 30% จากราคาจองที่ 2.00 บาท/หุ้น โดยความน่าสนใจของ TVT อยู่ที่การเป็นผู้ผลิต content ที่มีประสบการณ์สูง ทำให้มีความพร้อมที่จะเข้าไปผลิตรายการป้อนแก่สถานีทีวีดิจิตอลหลายช่องที่กำลังต้องการ content ไว้ดึงดูดลูกค้า

                - SVI-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เอสวีไอ(SVI) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 31,000,000 หน่วยอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 4.44 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 ก.ค.2558 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 26 มี.ค. 2563

                - CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 40 บาท คาดกำไรปกติ 1Q15 ที่ 645 ลบ. +45.6% Q-Q, +28.6% Y-Y จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเพราะไม่มีปัญหาการเมืองในปีก่อน ขณะที่ การเติบโตของรายได้ธุรกิจร้านอาหารแม้จะชะลอตัวลงจากการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร แต่จะส่งผลดีอย่างต่อ Margin ที่จะขยายตัวขึ้น แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปีคาดว่ายังเติบโตโดดเด่น เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2015 ที่ 1,417 ลบ. +22.7% Y-Y

                - TK(บัวหลวง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 14 บาท กำไร 1Q15 ที่ 107 ล้านบาท (+50%YoY, +38%QoQ) สูงกว่า Consensus เนื่องจากการตั้งสำรองลดลงมาอยู่ที่ 223 ล้านบาท ควบคุมสินเชื่อได้ดีทำให้ NPL ลดลงมาอยู่ที่ 4.7% จากเดิมที่ 5% Outlook 2Q15 1.การตั้งสำรองจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1Q15 TK 2.ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์) จะเป็นตัวหนุนรายได้ในระยะยาว

                - SF (บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 9 บาท กำไร 1Q15 ที่ 207 ล้านบาท (+40%YoY, -3%QoQ) โดยกำไรสุทธิที่เติบโตสูงได้ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไร Mega bangna ที่ 129 ล้านบาท เติบโต 49%YoY และรายได้ของ SF เองเติบโตขึ้นถึง 6%YoY อยู่ที่ 330 ล้านบาท แนวโน้ม 2Q15 ผลประกอบการยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ QoQ ยังไม่เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ผลประกอบการยังเติบโตได้ดี YoY และกำไรมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดใน 2H15 จากเปิดโครงการ LPN ทาวน์ชิป รังสิตคลอง 1

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐวันนี้

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

    ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับขึ้น 0.1% แตะที่ 150.49 จุด เมื่อเวลาประมาณ 09.40 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,315.63 จุด เพิ่มขึ้น 23.64 จุด, +0.12% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,090.19 จุด ลดลง 0.81 จุด, -0.04% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,645.70 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,152.98 จุด เพิ่มขึ้น 40.77 จุด, +0.99% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,818.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, +0.03%

    ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,724.29 จุด เพิ่มขึ้น 20.18 จุด, +0.21% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,806.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด, +0.07% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,445.83 จุด เพิ่มขึ้น 13.05 จุด, +0.38% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,557.52 จุด เพิ่มขึ้น 267.55 จุด, +0.98%

   กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

    สำหรับ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 4,250 ราย แตะระดับ 279,500 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543

    ส่วนในเวลา 19.30 น.วันนี้ ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งเป็นข้อมูลแสดงถึงภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ และจะบ่งชี้กำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

   นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.4% จาก 5.5% ในเดือนมี.ค.

 ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 46.79 จุด เหตุวิตกผลเลือกตั้งทั่วไป

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ขณะที่ชาวอังกฤษที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้ออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งทั่วไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 46.79 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 6,886.95 จุด

     บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเผชิญแรงกดดัน ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลในวันเลือกตั้ง เนื่องจากผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดามากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

    นักลงทุนต่างมีความระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ขณะที่มีความไม่แน่นอนว่าพรรคใดจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้

    หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง หลังจากบริษัทรายงานยอดขายที่อ่อนแรงลง

   ส่วนหุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวลง 4.03% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 3.54%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ข้อมูลภาคการผลิตเยอรมนีสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อในภาคการผลิตของเยอรมนีฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งของอังกฤษ

    ดัชนี STOXX Europe 600 ขยับขึ้น 0.08% ปิดที่ 388.98 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,407.97 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือ +0.51% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,967.22 จุด ลดลง 14.37 จุด, -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,886.95 จุด ลดลง 46.79 จุด, -0.67%

   ตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อในภาคการผลิตของเยอรมนีฟื้นตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังจากปรับตัวอ่อนแรงในช่วงต้นปี

    การฟื้นตัวของคำสั่งซื้อในภาคการผลิตของเยอรมนี ได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่พุ่งขึ้น 4.3% แม้ประเทศนอกกลุ่มยูโรโซนมีคำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่อง โดยหดตัวลง 0.4% ในเดือนมี.ค.

   อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของอังกฤษ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานอาจจะไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ และอาจต้องพึ่งพาพรรคเล็ก อาทิ พรรคแห่งชาติสก็อตแลนด์ (SNP) และพรรเสรีประชาธิปไตย เพื่อรวมที่นั่งให้เกินครึ่ง จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้

   หุ้นกลุ่มสายการบินและธุรกิจเดินทาง ปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง โดยหุ้นไรอันแอร์ โฮลดิงส์ และหุ้นไอเอจี เอสเอ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.2%

    หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ พุ่งขึ้น 2.4% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท ขณะที่หุ้นโนเกีย ทะยานขึ้น 4.2% และหุ้นไดอะล็อก เซมิคอนดัคเตอร์ พุ่งขึ้น 9.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน

    ส่วนหุ้นซีเมนส์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมรายใหญ่ของเยอรมนี ร่วงลง 1.5% หลังจากบริษัทประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีก 4,500 คนทั่วโลก โดยจะลดพนักงานในฝ่ายไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงกลุ่มที่ปฏิบัติงานได้ต่ำกว่าความคาดหวัง

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 82.08 จุด รับข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ขานรับข้อมูลที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,924.06 จุด เพิ่มขึ้น 82.08 จุด หรือ +0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,945.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.90 จุด หรือ +0.53% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.85 จุด หรือ +0.38%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย

     ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 4,250 ราย แตะระดับ 279,500 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543

   นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 169,000 รายในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ราย

    หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอาลีบาบาพุ่งขึ้น 7.50% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 2,811 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบเป็นรายปี

    ส่วนหุ้นยาฮู พุ่งขึ้น 5.3% ขณะที่หุ้นกูเกิลทะยานขึ้น 1.3% หลังจากมีรายงานว่าเฮดจ์ฟันด์ภายใต้การบริหารของโอเมกา แอดไวเซอร์ส ได้เข้าซื้อหุ้นกูเกิล

    หุ้นเทสลา ปรับขึ้น 2.76% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด

    หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ ปรับขึ้น 5.2% ส่วนหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.9%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,924.06 จุด                       เพิ่มขึ้น 82.08 จุด     +0.46%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,945.54 จุด                    เพิ่มขึ้น 25.90 จุด     +0.53%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,088.00 จุด                     เพิ่มขึ้น 7.85 จุด      +0.38%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,886.95 จุด                  ลดลง 46.79 จุด      -0.67%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,967.22 จุด                       ลดลง 14.37 จุด      -0.29%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,407.97 จุด                         เพิ่มขึ้น 57.82 จุด     +0.51%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,704.11 จุด                         ลดลง 114.09 จุด     -1.16%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,291.99 จุด                  ลดลง 239.64 จุด     -1.23%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,091.00 จุด                      ลดลง 13.58 จุด      -0.65%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,645.10 จุด   ลดลง 45.80 จุด      -0.80%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,645.70 จุด         ลดลง 46.50 จุด      -0.82%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,112.21 จุด                   ลดลง 117.05 จุด     -2.77%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,816.27 จุด          ลดลง 57.37 จุด      -0.73%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,289.97 จุด                            ลดลง 350.94 จุด     -1.27%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,150.49 จุด    ลดลง 34.46 จุด      -0.66%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,805.10 จุด                    ลดลง 15.87 จุด      -0.87%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,432.78 จุด                    ลดลง 27.01 จุด      -0.78%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,599.11 จุด                      ลดลง 118.26 จุด     -0.44%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ขานรับข้อมูลที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,924.06 จุด เพิ่มขึ้น 82.08 จุด หรือ +0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,945.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.90 จุด หรือ +0.53% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.85 จุด หรือ +0.38%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อในภาคการผลิตของเยอรมนีฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งของอังกฤษ

          ดัชนี STOXX Europe 600 ขยับขึ้น 0.08% ปิดที่ 388.98 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,407.97 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือ +0.51% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,967.22 จุด ลดลง 14.37 จุด, -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,886.95 จุด ลดลง 46.79 จุด, -0.67%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ขณะที่ชาวอังกฤษที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้ออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งทั่วไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 46.79 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 6,886.95 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 2.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ระดับ 1,182.20 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 20.9 เซนต์ ปิดที่ 16.297 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,131.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 785.75 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1266 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5258 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5248 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.77 เยน เทียบกับระดับ 119.35 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9217 ฟรังก์ จาก 0.9148 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7903 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7967 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 573.00 จุด ลดลง 2.00 จุด, -0.35%

 

                อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!