WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้า sideway up น้ำมันขึ้นหนุน-รบ.ชี้แจง ม.44 ต่างชาติ

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ sideway up ปัจจัยหลักราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นสูง และในวันนี้รัฐบาลจะมีการชี้แจงการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวต่อคณะทูตนานาชาติ คาดว่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้าใจและมีความเชื่อมั่นสถานการณ์ในไทยมากขึ้น ประกอบกับ ช่วงสัปดาห์นี้ก็ยังมีเม็ดเงินจากกองทริกเกอร์ฟันด์ทยอยไหลเข้าต่อเนื่อง จึงมองตลาด sideway up

    วันนี้ให้กรอบแนวต้าน 1,540-1,550 แนวรับ 1,530 และ 1,525 จุด ขณะที่ตลาดต่างประเทศบวกทั้งหมดราว 0.4-0.6% เช้านี้ คำแนะนำถ้าดัชนีเข้าใกล้ 1,550 จุด ให้ทยอยขายทำกำไรไปก่อน เพราะดัชนีปรับขึ้นติดต่อกัน 6 วันแล้ว และให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัว

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(6 เม.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,880.85 จุด พุ่งขึ้น 117.61 จุด (+0.66%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,917.32 จุด เพิ่มขึ้น 30.38 จุด (+0.62%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.62 จุด เพิ่มขึ้น 13.66 จุด(+0.66%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 141.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.62 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.24 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 เม.ย.58)1,536.05 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด(+0.25%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 86.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 เม.ย.58) ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 เม.ย.58)ที่ 7.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.45/47 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อน

                - กรมธนารักษ์เร่งแก้ไขปัญหา 4 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ "หมอชิต-ร้อยชักสาม-ศูนย์ประชุมสิริกิติ์-สะพานปลา" พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หลังยืดเยื้อมานาน ทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มศักยภาพ ลั่นภายในปีนี้ ต้องมีความชัดเจนการพัฒนาทั้งหมด หวังเพิ่มรายได้

                - หมอบุญ วนาสิน เปิดแผนลงทุนกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ผนึกพันธมิตรโฮมเฮลท์แคร์ ระดับโลกจากจีน-สหรัฐเดินหน้า ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในธุรกิจโรงพยาบาล-โฮมเฮลท์แคร์ โดยเฉพาะจีนแม้เศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอ หวังพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เหตุต้นทุนต่ำ-แข่งขันน้อย

                - กรมการบินพลเรือนเกาหลีใต้ ยันไม่อนุญาตให้เที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ จากไทยทำการบินเข้าตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นมี 3 สายการบินที่ได้รับผลกระทบ พร้อมตรวจสอบเข้มงวดสายการบินประจำ ยังไม่รับปากหลังกรมการบินพลเรือนของไทยขอเจรจาผ่อนผันช่วงฤดูร้อน "ประจิน" สั่งชะลอออกใบอนุญาต สายการบินใหม่พร้อมแถลงผลเจรจาเกาหลีใต้วันนี้

                - "ออมสิน"เปิดนโยบายลงทุนปี 2558 ปรับพอร์ตบ่อยขึ้นรองรับภาวะตลาดผันผวน เน้นลงทุนกิจการของรัฐ ทั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกิจการพลังงาน แม้ผลตอบแทนไม่สูงแต่ความเสี่ยงต่ำ เผยแต่ละปีมีสภาพคล่องพร้อมลงทุน 5-6 หมื่นล้าน ตั้งเป้าผลตอบแทนปีนี้โตมากกว่า 5% แย้มมีแผนลดการถือหุ้นบริษัทเอกชน ใครให้ราคาดีพร้อมขาย

                - เคทีซีเล็งออกหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 3 รองรับการเติบโตและคืนหนี้เดิม แย้มต้นทุนการเงินลดเหลือ 4.3% หลังกนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมคาดกำไรดีขึ้นเหตุไม่ตั้งสำรองพิเศษ ด้านโบรกมองเศรษฐกิจชะลอส่งผลประชาชนหันใช้บัตรเครดิตแทนหนุนกลุ่มบัตรเครดิต คาดจำนวนบัตรใหม่โต 10% ต่อปี หรือ เพิ่มขึ้นราว 1.5-2 ล้านใบต่อปี เชื่อแนวโน้ม ต่อเนื่องไปอีก 6 ปี

                - ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งเตรียมสำรองเงินสดช่วงสงกรานต์เกือบ 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.72% กรุงไทยสำรองสูงสุดเกือบ 5 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิดให้ลูกค้าฝากถอนข้ามเขตฟรีระหว่าง 13-19 เม.ย.ในแบงก์เดียวกันอีกด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

                - IFEC(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 18 บ.เยี่ยมชมโครงการลม 2 แห่งพบว่าความละเอียดอ่อนการพัฒนาโครงการ รวมถึงการสร้างฐานมวลชนที่ยอดเยี่ยมไม่เพียงแต่จะช่วยให้การทำประชาพิจารณ์ผ่านได้โดยง่ายแล้ว ยังปูทางไปสู่การพัฒนาโครงการให้สำเร็จอย่างราบรื่นและยั่งยืน รวมถึงเปิดโอกาสโครงการใหม่ๆโดยรอบด้วย, ช่วงเดือนที่ผ่านมาได้บทเรียนสำคัญจากการระดมทุนหาก lFEC ผสมผสานการทำงานที่ดีกับการดำเนินการในตลาดทุนที่เหมาะสมเชื่อว่าจะบริษัทด้านพลังงานที่มีอนาคตสดใส

                - WHA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 40 บ.ซื้อหุ้น HEMRAJ ได้แล้ว 79% ผ่าน Tender offer จนถึงวันที่ 2 เม.ย. (วันสุดท้าย 10 เม.ย.)ทำให้มูลค่าง WHA เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุน โดย EPS ปีนี้รวม HEMRAJ 79% น่าจะทำได้ 1.72 บาท เมื่ออิง PE 23 เท่าเป็นค่าเฉลี่ยในปี 2012-14 ราคาเป้าหมาย WHA จะเพิ่มเป็น 40 บาท ยังมี upside ที่น่าสนใจ

                - PS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 38.80 บ.แจ้งยอดขายมี.ค.ที่ 4.1 พันล้านบาท ลดลง 19% MoM และ 10% YoY สาเหตุจากยอดขายคอนโดฯ ลดลงเนื่องจากไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ขณะที่สินค้าหลักแนวราบทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดียวโตต่อเนื่อง 19% MoM คาดว่าสินค้า PS โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ยังคงขายดีและเป็นที่ยอมรับของตลาด ขณะเดียวกัน การพัฒนาระบบก่อสร้างที่รวดเร็วส่งผลดีต่อการบันทึกรายได้ แนวโน้ม 1Q58 คาดโต YoY แต่จะอ่อนตัว QoQ คงประมาณการและราคาเหมาะสมเดิม

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

                ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 149.02 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,539.03 จุด เพิ่มขึ้น 141.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,619.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.65 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,059.05 จุด เพิ่มขึ้น 12.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,469.38 จุด เพิ่มขึ้น 16.47 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,843.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด

                ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556 จากระดับ 264,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 117.61 จุด รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดบ.

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,880.85 จุด พุ่งขึ้น 117.61 จุด หรือ +0.66% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,917.32 จุด เพิ่มขึ้น 30.38 จุด หรือ +0.62% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.62 จุด เพิ่มขึ้น 13.66 จุด หรือ +0.66%

                ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2013 จากระดับ 264,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.

                นักวิเคราะห์จากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐชะลอการจ้างงานในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปอีกยาวนานเพียงใด ดังนั้น การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ตามที่ได้มีการส่งสัญญาณเอาไว้นั้น อาจจะต้องเลื่อนออกไป

                ด้านนายเดวิด สต็อคตัน อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเฟด (ช่วงปี 2543-2554 ) ซึ่งปัจจุบันเป็นนักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน กล่าวว่า มีแนวโน้มมากขึ้นว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. พร้อมกับกล่าวว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดไม่ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แต่กลับ “ให้ความสนใจกับตลาดแรงงานมากกว่า" เมื่อดูจากแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มี.ค.

                หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันสำหรับลูกค้าในเอเชีย โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้นอย่างน้อย 4.4% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 10% และหุ้นไดอามอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ปรับขึ้น 5.6%

                หุ้นเทสลา มอเตอร์ส พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 55% ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้

                นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.พ., รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 17-18 มี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์,  สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนมี.ค.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!