WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวแดนบวก จับตา คสช.ทยอยเลิกเคอร์ฟิว กนง.อาจลดดอกเบี้ย แนะลุยหุ้นกลุ่ม Domestic Play

    โบรกฯ คาด พรุ่งนี้หุ้นไทยยังแกว่งตัวในแดนบวก เหตุนลท.ยังแห่ลุย Laggard พร้อมจับตา คสช.ยกเลิกเคอร์ฟิวต่อเนื่อง- ประชุมกนง.อาจลดอัตราดอกเบี้ยกระตุ้นการลงทุน ทีได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Domestic Play ,ท่องเที่ยว,ขนส่ง และสื่อสาร ประเมินแนวรับ 1,445 - 1,453 จุด แนวต้าน 1,466 -1,485 จุด

    นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงทรงตัว เคลื่อนไหวในกรอบแคบอิงทางลบ เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรออกมาจากกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ รวมถึงการโยกการเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นข่าว โดยมีแรงขายหุ้น ADVANC DTAC แล้วโยกไปซื้อในหุ้น TRUE

     ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติที่วานนี้พลิกกลับมาขายสุทธิครั้งแรกของเดือนนี้ มองว่าไม่มีนัยต่อตลาดมากนัก เพราะด้วยยอดขายสุทธิที่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท หากเทียบกับมูลค่าซื้อขายต่อวันที่สูงกว่าหกหมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมองว่านักลงทุนต่างชาติถือหุ้นไทยค่อนข้างน้อย และกระแสเงินทุน (Fundflow) ยังมีแนวโน้มที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียน แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยแล้ว หากจะกลับเข้ามาอย่างเต็มตัว คงต้องรอความชัดเจนทางการเมือง ในเรื่องของการเรื่องตั้งเพื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

    นอกจากนี้ สำหรับประเด็นต่างประเทศ ยังคงต้องจับตาการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถึงท่าทีของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งขณะนี้ได้ส่งสัญญาณว่าจะเลื่อนการปรับขึ้นออกไปจนถึงปลายปีหน้าแล้ว ซึ่งหากท่าทียังคงเดิมก็จะยังเป็น Sentiment ที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก

    สำหรับ พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideway) โดยมีการโยกการลงทุนไปยังหุ้นในกลุ่มที่ยังมองว่า Laggard และได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ หากสัปดาห์หน้าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของตลาด และจะเป็นปัจจัยเชิงบวกช่วยหนุนการลงทุนอีกทาง

     ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) และมองว่ายัง Laggard อาทิ BBL-TMB-LH-LPN รวมไปถึง ADVANC ที่คาดว่าจะรีบาวน์ โดยประเมินแนวรับ 1,453 จุด แนวต้าน 1,473 จุด

    ทางด้านนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีฯตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ตามเเรงขายทำกำไร ที่คาดว่ามาจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศ เนื่องจากวานนี้ตลาดปรับตัวขึ้นเเรง

    ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย วันพรุ่งนี้ มีโอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 1,466 - 1,467 จุดได้ โดยมองว่าปัจจัยที่จะส่งผลให้ตลาดปรับขึ้นต่อ จะมาจากข่าวดีที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง อาทิ หาก คสช.มีการยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ รวมถึงยกเลิกกฎอัยการศึก

    ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เช่น การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่า จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม รวมถึงคงมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณทางการเงิน หรือ QE รวมถึง ธนาคารโลก มีการปรับลด GDP โลกปี 2557 ลงจาก 3.2% เหลือ 2.8% ต่ำกว่า IMF ที่คาดว่าจะโตได้ 3.6% รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน แต่มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก

     ส่วนกลยุทธ์การลงทุน เเนะนำ ซื้อเก็บ หุ้นในกลุ่มสื่อสาร  ADVANC ,INTUCH เนื่องจากราคาปรับลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการ หรือเก็งกำไรในหุ้น กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มขนส่ง เพื่อรอลุ้นการยกเลิกเคอร์ฟิว หรือหุ้น RS ที่ได้ประโยชน์จากการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดกรณีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก โดยประเมินกรอบ เเนวต้านที่ 1,475 - 1,485 จุด เเนวรับที่ 1,445  จุด

     นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้พักฐานและผันผวนตลอดทั้งวันหลังดัชนีปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ที่แล้วประกอบกับไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนตลาดฯตอนนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มรับเหมาเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพราะก่อนหน้านักลงทุนคาดหวังเป็นอย่างมากกับการพิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทางคสช.ได้เข้าไปจัดการระเบียบสังคมต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชนมากขึ้น ทำให้โครงการดังกล่าวล่าช้ากว่าที่ตลาดฯและนักลงทุนคาดไว้ ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างแกว่งตัวและไม่ใช่ปัจจัยหลักที่หนุนตลาดฯเหมือนเช่น 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับ แนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งตัวและสามารถยืนในแดนบวกได้เล็กน้อย เพราะนักลงทุนขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อรอดูพัฒนาการของการดำเนินการโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับปัจจัยต่างประเทศที่ไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆหนุนตลาดหุ้นไทยมากนัก ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจน และดัชนีฯดาวโจนส์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ (New High)มาโดยตลอด แต่ตลาดหุ้นไทยก็รับข่าวเชิงบวกมามากพอควรจนขณะนี้เริ่มนิ่งและรอดูสถานการณ์การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศมากกว่า ส่วนกระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ที่วานนี้กลับมาขายสุทธิ ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าเป็นช่วงที่ต่างชาติขายเพื่อลดพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่าจะไม่ขายต่อเนื่องรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องพิจารณาเป็นรายวันเช่นกัน

     "ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะออกมาดีมาก แต่ก็เป็นดาบ 2 คม เพราะถ้าดีต่อเนื่องก็มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอนาคตได้ อีกทั้งนักลงทุนภายในประเทศก็รับข่าวต่างประเทศมามากจนตอนนี้นิ่งๆแล้ว  สนใจแต่ในประเทศมากกว่าซึ่งก็ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน จึงขายทำกำไรออกมาก่อนแต่ก็ไม่ถึงขั้นดิ่งลงจนรุนแรง แค่แกว่งตัวเท่านั้น"นายสมชาย กล่าว

    ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อเมื่ออ่อนตัว ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,455-1,450 จุด และแนวต้านที่ 1,466-1,468 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!