- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 18 February 2015 09:59
- Hits: 2243
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวลงสัญญาณเทคนิคปรับฐาน-ตลาดหลายปท.ปิดตรุษจีน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวลงต่อ เนื่องจากสัญญาณทางด้านเทคนิคยังเป็นช่วงปรับฐานอยู่ โดยภาพรวมการซื้อขายวันนี้จะไม่คึกคักมากนัก จากแรงซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติที่หายไป เนื่องจากหลายตลาดในต่างประเทศปิดทำการในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนในประเทศที่เข้ามาซื้อขายหุ้นรายตัว เพื่อเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการและเงินปันผลที่อาจจะทำให้ดัชนีรีบาวด์ได้บ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,582 จุด ส่วนแนวต้าน 1,593 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,047.58 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด(+0.16%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,899.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด(+0.11%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด(+0.16%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.89 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 51.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.80 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.55 จุด และตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 ก.พ.58) 1,587.75 จุด ลดลง 20.29 จุด(-1.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,193.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.พ.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 ก.พ.58) ปิดที่ 53.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 75 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 ก.พ.58)ที่ 8.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.56/62 โดยนักบริหารเงินคาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดเงินของหลายประเทศปิดทำการชั่วคราว
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ให้ใช้นโยบายการเงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้อัตราดอกเบี้ยแท้จริงสูงเกินไป โดยเงินเฟ้อปีนี้อาจอยู่ในระดับ 0-1% ว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของ สศช. แต่การที่ สศช.มีตัวแทนนั่งอยู่ในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ควรจะไปผลักดันตามที่ สศช.มีความเห็นด้วย
- กรมเชื้อเพลิงฯ มั่นใจรัฐบาลเดินหน้าเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ต่อ หลังเปิดเวทีสร้างความเข้าใจประชาชนและผู้คัดค้าน 20 ก.พ.นี้ พลังงานส่ง "คุรุจิต" ตัวแทนชี้แจง เตือนล้มสัมปทานกระทบความเชื่อมั่น นักลงทุน-ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น "รสนา" เผยยังไม่ได้รับเชิญ ลั่นพร้อมให้ข้อมูลยันใช้ "พีเอสซี" เหมาะที่สุด แนะรัฐตั้งคณะทำงานศึกษาข้อดี-เสีย กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ก.ม.สัมปทาน ตีกรอบต้องประมูลเปิดเผย
- "คลัง"เตรียมเสนอร่างการปรับแก้กฎหมายสรรพสามิตเข้าครม.ภายในเดือนนี้ หวังทันสมัย โปร่งใสมากขึ้น ขยายฐานภาษี "เอกชน" ลุ้นอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ หลังรัฐเปลี่ยนเกณฑ์คำนวณราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ชี้หากใช้อัตราเดิมทำให้ราคาสินค้าขยับกระทบผู้บริโภค
- มติ ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้ประเมินความเสียหายจำนำข้าวในคดีอาญา "ยิ่งลักษณ์" คาดไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท ย้ำเป็นไปตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลา ไม่หวั่นถูกวิจารณ์จ้องเล่นงานบางฝ่าย ยันต้องชี้แจงให้เข้าใจ ด้านคดีความเสียหายจีทูจี ใช้ปม "ซื้อข้าวแพงขายถูก" ประเมินความผิด "พณ." ยันตัดสิทธิ เอ็มไพร์ดีเวอลอปเม้นท์ เหตุมีพฤติกรรมเป็นนอมินีสยามอินดิก้าชัดเจน เตรียมปรับปรุงเงื่อนไขการประมูลครั้งใหม่ให้รัดกุมยิ่งขึ้น
*หุ้นเด่น
- AMATA(ธนชาต)แนะนำ"ซื้อ"เป้าหมาย 20.30 บาท รายงานกำไร Q4/57 แข็งแกร่งมากที่ 1.67 พันลบ. เพิ่มขึ้น 2,129% y-y และ 1,111% q-q หนุนจากการโอนที่ดินอุตสาหกรรมสูง โดยกำไรปี 57 สูงกว่าที่เราคาด 33% และสูงกว่าตลาด 54% แต่ยังกังวลแนวโน้มการเติบโตของกำไรตั้งแต่ปีนี้ ซึ่งเห็นความเสี่ยเชิงลบเพราะ backlog ลดเหลือ 2 นลบ. ณ สิ้นปี 57 และยังไม่เห็นการขายที่ดินสัญญาใหม่มีแนวโน้มดีขึ้น
- PS(เคเคเทรด)แนะนำ"ซื้อ"เป้าหมาย 38.80 บาท กำไรปี 57 ใกล้เคียงประมาณการ จ่ายปันผล 1 บาท มากกว่าที่เราคาดไว้ 0.94 บาทต่อหุ้น ให้ผลตอบแทนเงินปันผลทั้งปี 3.2% ขึ้น XD 11 มี.ค.และจ่าย 15 พ.ค.ราคาเป้าหมายหลังเพิ่มทุนรองรับวอร์แรนต์ที่เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน ยังมีส่วนต่างราคา 22% โดยในปี 58 มีความน่าสนใจจากงานในมือ 2.2 หมื่นล้านบาทรองรับประมาณการรายได้ 50% ส่วนยอดขายปี 58 เริ่มต้นของปีเดือน ม.ค.ทำได้ดีเติบโตมากว่ากลุ่มอยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% MoM และ 171% YoY
- KTC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 100.00 บาท ปรับเพิ่มกำไรในปี 58 ขึ้น 11% เราทำการปรับลดสมมติฐานการตั้งสำรองลงไปอยู่ที่ 8.95% จาก 9.35% ในปี 58 เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์กำไรสุทธิของเราในปี 58 สูงกว่าคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากเราเชื่อว่าระดับการตั้งสำรองในปัจจุบันเพียงพอต่อความเสี่ยงเรื่องหนี้เสีย เราคาดกำไรจะเติบโต 26% เป็น 2.2 พันล้านบาทในปี 58
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ จากคาดการณ์กรีซเจรจาหนี้สำเร็จ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซนเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซจะลุล่วงไปด้วยดี
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 143.65 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,103.98 จุด เพิ่มขึ้น 116.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,836.05 จุด เพิ่มขึ้น 51.17 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,428.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,806.54 จุด ลดลง 3.55 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 41.08 จุด ขณะจับตาปัญหาหนี้กรีซ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้กรีซ โดยมีความหวังว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงหนี้สินกับบรรดาเจ้าหนี้ได้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 6,898.13 จุด
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซรายหนึ่งกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกรีซเชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตการณ์หนี้กับสหภาพยุโรป (EU) ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่กรีซจะไม่ยอมรับการยื่นกำหนดเส้นตาย หลังการประชุมเมื่อต้นสัปดาห์สิ้นสุดลงโดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ
เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่า รัฐบาลกำลังย้ำเป้าหมายในการให้ความร่วมมือกับยุโรปอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ แต่ปฏิเสธที่จะต่ออายุโครงการความช่วยเหลือปัจจุบันออกไปอีก 6 เดือน
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ยุติการให้เงินกู้ฉุกเฉินต่อธนาคารของกรีซในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ระหว่างกรีซและยูโรโซน
หุ้นดิอาจิโอ พุ่ง 2.50% นำหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป ดีดขึ้น 2.20% และหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ปรับตัวขึ้น 1.92%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นกลุ่มอาหารพุ่ง หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.1% ปิดที่ 377.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,753.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.04 จุด หรือ +0.04% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,895.62 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,898.13 จุด เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ +0.60%
หุ้นกลุ่มเครื่องและอาหารปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดในแดนบวก โดยหุ้น Diageo และหุ้น Anheuser-Busch InBev ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.5% ซึ่งช่วยพยุงดัชนีหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นแพนโดรา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 17% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2557 ที่ดีเกินคาด และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้น E.ON SE และหุ้น RWE AG ซึ่งปรับตัวขึ้น 1% และ 0.92% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ หลังจากที่กรีซไม่ยอมรับร่างแถลงการณ์ในการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่ระบุว่ากรีซได้เห็นพ้องกับการขยายเวลาของมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินฉบับปัจจุบันออกไป
ด้านนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า รัฐบาลกรีซจะไม่รีบร้อนในการหาทางบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้กับยูโรโซน และกรีซจะไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องดังกล่าว โดยรัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีจุดยืนในการคัดค้านการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขในข้อตกลงเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการให้เงินช่วยเหลือฉบับปัจจุบันของสหภาพยุโรปซึ่งจะหมดอายุในเดือนนี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 28.23 จุด จากความหวังเจรจาหนี้กรีซลุล่วง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซนเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซนั้น จะลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,047.58 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,899.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,100.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เหนือ 2,100 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า กรีซและยูโรโซนจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซรายหนึ่งกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกรีซเชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตการณ์หนี้กับสหภาพยุโรป (EU) ยังคงมีความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากผลการเจรจาปัญหาหนี้กรีซยังคงไม่แน่นอน หลังจากที่กรีซไม่ยอมรับร่างแถลงการณ์การประชุมของยูโรโซน ขณะที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลของเขาจะไม่รีบร้อนในการหาทางบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้กับยูโรโซน และกรีซจะไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซยังคงยืนกรานว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีจุดยืนในการคัดค้านการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขในข้อตกลงเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการให้เงินช่วยเหลือฉบับปัจจุบันของสหภาพยุโรปซึ่งจะหมดอายุในเดือนนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงสู่ระดับ 7.8 จากระดับ 10 ในเดือนม.ค. เนื่องจากคำสั่งซื้อและการจ้างงานที่อ่อนแอ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลงสู่ระดับ 55 ในเดือนก.พ. จากระดับ 57 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2
หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ปรับตัวขึ้น 2.7% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4/2557 ส่วนหุ้นโนเบิล คอร์ป พุ่งขึ้น 5.1% ขณะที่หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ทะยานขึ้น 4.9%
หุ้นเวสท์ เมเนจเมนท์ พุ่งขึ้น 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ส่วนหุ้นเมดโทรนิก ปรับขึ้น 3.7% เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนม.ค., รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.พ.เฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.พ. 2558
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,047.58 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด, +0.16%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,899.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด, +0.11%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,100.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด, +0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,753.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.04 จุด, +0.04%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,895.62 จุด ลดลง 27.61 จุด, -0.25%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,898.13 จุด เพิ่มขึ้น 41.08 จุด, +0.60%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,415.91 จุด ลดลง 11.25 จุด, -0.33%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,810.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด, +0.07%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,337.50 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด, +0.23%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,784.88 จุด เพิ่มขึ้น 58.35 จุด, +0.24%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,793.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.75 จุด, +0.11%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,246.91 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด, +0.76%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,961.45 จุด เพิ่มขึ้น 3.22 จุด, +0.16%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,987.09 จุด ลดลง 17.68 จุด, -0.10%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,858.20 จุด ลดลง 30.50 จุด, -0.52%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,822.30 จุด ลดลง 27.20 จุด, -0.46%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซนเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซนั้น จะลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,047.58 จุด เพิ่มขึ้น 28.23 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,899.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,100.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.1% ปิดที่ 377.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,753.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.04 จุด หรือ +0.04% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,895.62 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,898.13 จุด เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ +0.60%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้กรีซ โดยมีความหวังว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงหนี้สินกับบรรดาเจ้าหนี้ได้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 6,898.13 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างมาก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 53.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 63 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2557
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ยุติการให้เงินกู้ฉุกเฉินต่อธนาคารของกรีซในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่าการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ระหว่างกรีซและยูโรโซนยังไม่มีความคืบหน้าก็ตาม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 18.5 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ระดับ 1,208.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 91.6 เซนต์ ปิดที่ 16.378 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 30.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,177.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าจะมีทางออกที่เหมาะสมในการคลี่คลายปัญหาหนี้กรีซ
ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1411 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1349 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5357 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5358 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.29 เยน เทียบกับระดับ 118.44 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9368 ฟรังก์ จาก 0.9320 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7815 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7771 ดอลลาร์
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 516.00 จุด ลดลง 6.00 จุด, -1.15%
อินโฟเควสท์
