- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 16 February 2015 10:41
- Hits: 2271
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้น เล็งขานรับ GDP ยุโรปโตเกินคาด-ราคาน้ำมันขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้น โดยมีโอกาสที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ และทะลุแนวต้าน 1,619-1,620 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวก 2 เรื่องจากทางตัวเลข GDP ของยุโรปที่ออกมาขยายตัวดีกว่าคาด โดยขยายตัว 0.3% ดีกว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.2% นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำให้เป้นตัวหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้
ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามตัวเลข GDP ของไทยที่จะประกาศออกมา ซึ่งทางทิสโก้คาดว่าจะขยายตัว 2.2% แต่ทางตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.5% อย่างไรก็ดีไตรมาสนี้ถือว่าเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2557
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อยราว 0.1-0.2% ยกเว้นตลาดสิงคโปร์ ทั้งนี้สัปดาห์นี้ได้เริ่มเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนแล้ว ทำให้วอลุ่มเทรดจากต่างประเทศอาจชะลอ อย่างตลาดไต้หวันได้เริ่มปิดทำการวันนี้แล้วและต่อเนื่องไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ต่อไปก็ตลาดเวียดนาม และตลาดจีนจะปิดทำการตามมา ซึ่งจะเริ่มหยุดกันในวันที่ 18 ก.พ.นี้
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,600 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(13 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,019.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด(+0.26%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.84 จุด เพิ่มขึ้น 36.23 จุด(+0.75%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.51 จุด(+0.41%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 110.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 34.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.55 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.99 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ก.พ.58)1,615.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด(+0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 91.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.พ.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ก.พ.58) ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ก.พ.58)ที่ 9.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.59/60 รอดูตัวเลข GDP สภาพัฒน์-รายงานผลประชุม FED
- "ประวิตร" ถกยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำ-แก้ปัญหายากจนวันนี้ เร่งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน-เบิกจ่ายภาครัฐ ขณะแบงก์รัฐ 5 แห่งเสนอโครงการแก้ปัญหาวงเงินเฉียด 2 แสนล้าน เน้นปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ-พักหนี้เกษตรกร เชื่อดันเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ หลังกระตุ้นระดับล่าง
- รัฐบาลหวั่นกลุ่มต้าน สั่งพลังงานขยายเวลายื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ออกไปก่อน พร้อมจัดเวทีกลางระดมทุกฝ่ายร่วม รับฟังความเห็น 20 ก.พ.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ลั่นรับฟังรอบด้าน "สรรเสริญ" เตือนกลุ่มคัดค้านส่งตัวแทนยื่นหนังสือรัฐบาล ไม่ต้องมาเป็นกลุ่มใหญ่ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯเผยถกกพช.วันนี้ กำหนดเวลายื่นสัมปทาน ชี้เลื่อน 1-2 เดือน ไม่กระทบความมั่นคงด้านพลังงาน กมธ.พลังงานหนุนชะลอเปิดสัมปทาน ชี้โอกาสดีปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม
- นายบี เตชะอุบล ทายาทบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ และเจ้าของบริษัทจัดการแข่งขันฟุตบอล โกลบอล เลเจนด์ส ซีรี่ส์ เปิดเผยว่า ได้เสนอเจรจาซื้อสโมสรเอซี มิลาน มูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท โดยต้องการถือหุ้นมากกว่า 50% แต่ ไม่ต้องการซื้อทั้งสโมสร ยังอยากให้มีผู้ร่วมทุนอยู่ด้วย
- "อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย" ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกรวมของไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวในระดับ 1-2% จากการประเมินภาวะตลาดโลกในขณะนี้มีปัจจัยลบด้านต่างๆ สูงมาก ขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมคาดว่าจะขยายตัว 3-4% และจีดีพีอุตสาหกรรมจะขยายตัว 2-3% แต่ทั้งนี้ สศอ.ต้องดูตัวเลขการส่งออกช่วงกลางปีนี้ก่อนจึงจะประเมินได้ชัดเจน
- ธปท.ขอเวลาคิดปิดความเสี่ยงก่อนเปิดให้ซื้อขายหุ้นไทยด้วยสกุลเงินต่างประเทศ ย้ำต้องดูให้รอบคอบ ยังไม่ได้สรุปจะเปิดเฉพาะต่างชาติหรือพ่วงคนไทยด้วยฝากสมาคมโบรกฯหนุนเต็มเหนี่ยวให้ทั้งนักลงทุนไทย-เทศเทรดได้ ชี้ช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นคึก
- "กฟผ." ปรับแผนลงทุนปี 2558 ขยับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเป็น 4.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 3.9 หมื่นล้านบาท ลุยขยายระบบส่ง สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเก่าที่หมดอายุโดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าพระนครใต้และบางปะกง หวังดึงเงิน 1 หมื่นล้านบาทจาก อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ที่คาดจะขายหน่วยลงทุนได้ เม.ย.นี้โปะลงทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- JASIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เทรดวันนี้วันแรก หมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มีจำนวน 5,500,000,000 หน่วย ราคา Par 10.00 บาทต่อหน่วย ราคาเสนอขาย 10.00 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ JASIF ลงทุนในกรรมสิทธิ์เส้นใยแก้วนำแสงของบมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์(TTTBB) จำนวน 980,000 คอร์กิโลเมตร (ส่งมอบ 800,000 คอร์กิโลเมตร ณ วันซื้อขายเสร็จสิ้น) และอีก 180,000 คอร์กิโลเมตร ภายใน 2 ปี JASIF จัดหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินโดยให้ TTTBB เช่าเส้นใยแก้วนำแสงร้อยละ 80 ของเส้นใยแก้วนำแสงทั้งหมด ตามสัญญาเช่าหลักเป็นระยะเวลา 11 ปี(สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. 2569) และประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 20 ตามสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า มีระยะเวลาการเช่า 3 ปี (ต่ออายุสัญญาได้อีกครั้งละ 3 ปี จนกว่าจะครบอายุสัญญาเช่าหลัก)
- CGH-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(CGH)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 855,408,275 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขาย (6 มกราคม 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 พ.ค. 2558 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 5 ม.ค. 2561
- NUSA-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ณุศาศิริ(NUSA)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 287,115,535 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 22 มกราคม 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 พ.ค. 2558 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 ม.ค. 2561
- E-W4 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล(E)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 2,205,403,790 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 10 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 2 ก.พ. 2559 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 2 ก.พ. 2559
- AOT(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 340 บาท ผลการดำเนินงาน 1Q15 กำไร 3.8 พันล้านบาท +79% q-q และ 2% y-y ใกล้เคีรยงกับที่คา ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2Q15-4Q15 ของ AOT จะเติบโตแข็งแกร่ง y-y มากกว่าในช่วง 1Q15 (ต.ค.-ธ.ค.14) เนื่องจากฐานผู้โดยสารที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากปัญหาการเมือง ขณะที่ในทางเทคนิคราคาหุ้นปรับลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 308-310 บาท เป็นจังหวะ “ซื้อ" โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 333 บาท และระยะสัปดาห์ที่ 380 บาท
- ITD(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10.50 บาท จะได้ Sentiment เชิงบวก จากความคืบหน้าของอุตสาหกรรมเหมืองโปแตชที่คาดว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะมอบประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตชที่ จ.ชัยภูมิ ในวันที่ 16 ก.พ. เนื่องจากชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเหมืองโปรแตชได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ และคาดว่าเหมืองโปแตชของ ITD ใน จ.อุดรธานีที่อยู่ระหว่างพิจารณา มีโอกาสที่จะได้ประทานบัตรใน 2Q58 เช่นกัน พร้อมคาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาเหมาะสมอิงความอนุรักษ์นิยมเนื่องจากรวมมูลค่าของโครงการโปรแตซเพียง 2.00 บาท จากทั้งหมดที่ 13.00 บาท
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2557 ขยายตัว 2.2% ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% แตะระดับ 143.26 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,024.01 จุด เพิ่มขึ้น 110.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3จุด เพิ่มขึ้น 2.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,717.49 จุด เพิ่มขึ้น 34.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,960.03 จุด เพิ่มขึ้น 2.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,417.67 จุด ลดลง 8.55 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,804.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด
ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 45.41 จุด หลังจีดีพียูโรโซนโตเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,873.52 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า จีดีพีของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกา พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีนี้ ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 5%
ส่วนหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ปรับตัวขึ้น 4.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : จีดีพียูโรโซนขยายตัวเกินคาด หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557 ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซอย่างใกล้ชิด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 377.07 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,759.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.16 จุด หรือ +0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,963.40 จุด เพิ่มขึ้น 43.75 จุด หรือ +0.40% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,873.52 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า จีดีพีของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.9%
ยูโรสแตทระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตัวเลขจีดีพียูโรโซนปรับตัวขึ้นนั้นเป็นเพราะการขยายตัวแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานในวันนี้ว่า จีดีพีเบื้องต้นของเยอรมนีในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 0.7% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในช่วงไตรมาส 3
หุ้นแองโกล อเมริกา พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีนี้ ขณะที่หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ปรับตัวขึ้น 4.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์
อย่างไรก็ตาม หุ้น ThyssenKrupp AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมนี ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ โดยกรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ ได้เริ่มต้นเจรจากันในเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการปฏิรูปที่กรีซจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนานาประเทศต่อไป
ด้านนายโฆษกของนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า กรีซจะทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกันในการประชุมรัฐมนตรีคลังกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์หน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ยุโรปรายหนึ่งระบุว่า กรีซและกลุ่มทรอยก้าอาจบรรลุข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินฉบับใหม่ ถึงแม้การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายยังคงไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ คาดว่าการเจรจาจะส่งสัญญาณในด้านบวก และทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า การประชุมอีกครั้งระหว่างรมว.คลังของกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์หน้า จะบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินของกรีซ หลังจากผู้นำยุโรปแสดงท่าทีผ่อนปรนในการประชุมสุดยอดเมื่อวานนี้ ก่อนที่ข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 46.97 จุด รับจีดีพียูโรโซนโตเกินคาด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) ขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,019.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.26% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 18,000 จด ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.84 จุด เพิ่มขึ้น 36.23 จุด หรือ +0.75% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.51 จุด หรือ +0.41%
ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.1% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 2% และดัชนี NASDAQ ปรับขึ้น 3.1%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า จีดีพีของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.9%
ยูโรสแตทระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตัวเลขจีดีพียูโรโซนปรับตัวขึ้นนั้นเป็นเพราะการขยายตัวแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานในวันนี้ว่า จีดีพีเบื้องต้นของเยอรมนีในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 0.7% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในช่วงไตรมาส 3
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ หลังจากผลการสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอย่างมากถึง 84 แห่ง สู่ระดับ 1,056 แห่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2554
ส่วนข้อตกลงสันติภาพในยูเครนนั้น ยังคงเป็นปัจจัยหนุนในตลาดด้วยเช่นกัน โดยผู้นำรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครนได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาสันติภาพแล้ว และการหยุดยิงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากแรงบวกได้ถูกสกัดลงด้วยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนก.พ.ลดลงสู่ระดับ 93.6 ต่ำกว่าระดับ 98.1 ของเดือนม.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียม และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 6.8% ส่วนหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
หุ้นแอปเปิลทะยานขึ้น 6.9% ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของแอปเปิลในปีนี้ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 15% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าผลประกอบการของแอปเปิลจะได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไอโฟนรุ่นใหม่
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซอย่างใกล้ชิด โดยมีรายงานว่ากรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ ได้เริ่มต้นเจรจากันในเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการปฏิรูปที่กรีซจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนานาประเทศต่อไป ซึ่งการเจรจาในครั้งนี้ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า การประชุมอีกครั้งระหว่างรมว.คลังของกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์หน้า จะบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินของกรีซ หลังจากผู้นำยุโรปแสดงท่าทีผ่อนปรนในการประชุมสุดยอดเมื่อวานนี้ ก่อนที่ข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.พ. 2558
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,019.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด, +0.26%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,893.84 จุด เพิ่มขึ้น 36.23 จุด, +0.75%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,096.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.51 จุด, +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,759.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.16 จุด, +0.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,963.40 จุด เพิ่มขึ้น 43.75 จุด, +0.40%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,873.52 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด, +0.67%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,094.93 จุด เพิ่มขึ้น 289.83 จุด, +1.01%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,426.22 จุด เพิ่มขึ้น 7.05 จุด, +0.21%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,800.95 จุด เพิ่มขึ้น 11.88 จุด, +0.66%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,374.17 จุด เพิ่มขึ้น 30.76 จุด, +0.58%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,682.54 จุด เพิ่มขึ้น 260.39 จุด, +1.07%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,773.45 จุด เพิ่มขึ้น 58.86 จุด, +0.76%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,203.83 จุด เพิ่มขึ้น 30.41 จุด, +0.96%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,957.50 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด, +0.82%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,913.36 จุด ลดลง 66.36 จุด, -0.37%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,529.51 จุด เพิ่มขึ้น 33.20 จุด, +0.35%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,877.50 จุด เพิ่มขึ้น 133.90 จุด, +2.33%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) ขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,019.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.26% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 18,000 จด ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.84 จุด เพิ่มขึ้น 36.23 จุด หรือ +0.75% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.51 จุด หรือ +0.41%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557 ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซอย่างใกล้ชิด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 377.07 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,759.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.16 จุด หรือ +0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,963.40 จุด เพิ่มขึ้น 43.75 จุด หรือ +0.40% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,873.52 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ +0.67%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,873.52 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ +0.67%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างมากในสัปดาห์นี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2557
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 4.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,227.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 17.294 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,207.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (13 ก.พ.) หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงในเดือนก.พ. ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกหลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวได้ดีเกินคาด แต่ก็อ่อนตัวลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเจรจาเรื่องปัญหาหนี้สินของกรีซ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 118.77 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 118.87 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ1.2473 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2478 ดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9332 ฟรังก์ จากระดับ 0.9315 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1387 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1413 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.5394 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5413 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7764 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 530.00 จุด ลดลง 10.00 จุด, -1.85%
อินโฟเควสท์