- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 06 June 2014 10:05
- Hits: 3582
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้น-แกว่งไซต์เวย์ หลัง ECB ลดดบ.,ต่างชาติยังซื้อ
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นได้ และอาจจะแกว่งไซต์เวย์ก็ได้ เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ขึ้นทำ New High หลังจากที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)เมื่อวานนี้ได้มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็น่าจะทำให้มีเงินไหลออกจากยุโรปมากขึ้น ส่วนจะเข้าตลาดฯได้มากแค่ไหนก็ต้องรอดู
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราได้พักตัว 2 วันที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นการพักตัวแคบ ๆ และนักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนในประเทศขายทำกำไรออกมาบ้าง ดังนั้นตลาดฯจึงยังมีโมเมนตัมที่จะขึ้น ทั้งนี้ตลาดบ้านเรายังให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศมากกว่า เพียงแต่ตอนนี้ปัจจัยนอกประเทศไม่ได้กดดัน
พร้อมให้แนวรับ 1,442 จุด ส่วนแนวต้าน 1,458-1,475 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,836.11 จุด เพิ่มขึ้น 98.58 จุด (+0.59%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,940.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด(+0.65%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,296.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.59 จุด (+1.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 59.38 จุด หรือ +0.39% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 121.66 จุด หรือ +0.53% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.30% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.17% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.61 จุด หรือ +0.09% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.02 จุด หรือ 0.00% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ไม่เปลี่ยนแปลง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(5 มิ.ย.) ที่ 1,453.16 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด(+0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,379.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(5 มิ.ย.)ที่ 102.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 16 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 มิ.ย.)ที่ 4.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.63/65 แข็งค่าตามภูมิภาค
- พาณิชย์ขานรับคสช.เรียกผู้ผลิตสินค้า 250 รายการหารือวันนี้ ตรึงราคาสินค้าจำเป็น 6 เดือน พร้อมจัดเร่งมหกรรมธงฟ้า ด้านเอกชนพร้อมร่วมมือ ยันไม่ปรับราคา ขณะคสช.สั่งเกษตรฯตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ทุกจังหวัด ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนผลิต
- อีซีบีลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์กำหนดดอกเบี้ยติดลบสำหรับเงินฝากข้ามคืน หวังกระตุ้นธนาคารปล่อยกู้มากขึ้น ป้องกันเงินฝืดซ้ำรอยญี่ปุ่น พร้อมจัดทำมาตรการเพิ่มสภาพคล่องภาคธนาคาร
- บอร์ดกองทุนฯ เห็นชอบแจกคูปองทีวีดิจิทัลมูลค่า 1,000 รวม 25 ล้านครัวเรือน จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท แลกซื้อ 4 อุปกรณ์ ชง กสทช.พิจารณาขั้นตอนประชาพิจารณ์หรือไม่ 13 มิ.ย.นี้ ด้านผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล จี้เร่งกระบวนการแจกคูปองทั่วประเทศ ชี้ล่าช้าแบกต้นทุนอ่วม-เสียโอกาสหารายได้ กระทบธุรกิจเสียหายเดือนละ 2.5 พันล้าน
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีระบุภาพโรดแมปเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนขึ้นถือเป็นปัจจัยบวก แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากราบรื่นจีดีพีอาจขยายตัวกว่า 2.5%
- นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแผนโรดแมป 4 ด้านของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ซึ่งการจะปฏิรูปและเริ่มปูทางถึงการปรับโครงสร้างในระยะต่อไปนั้นจะต้องปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 7% แม้ว่าจะยังไม่สามารถทำได้ทันทีในขณะนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังซบเซาอยู่ก็ตาม
*หุ้นเด่นวันนี้
- SF(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.50 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงกว่า 50% จากจุดสูงสุดเมื่อปีที่แล้วสะท้อนความผิดหวังความล่าช้าของการเปิดโครงการขนาดใหญ่แล้ว ในขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการปกติปี 2557 จะเติบโตได้จากปีก่อน 15% เนื่องจากบริษัทได้ลูกค้าใหม่รายใหญ่เข้ามา 2 รายทำให้อัตราการใช้พื้นที่สูงขึ้น และช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ร่วมกับ LPN ทำให้หุ้น SF กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง
- SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27.50 บาท การแจกคูปองทีวีดิจิตอลครัวเรือนละ 1,000 บาทของ กสทช. ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการเพิ่ม Upside จากประมาณการ SAMART ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลรายใหญ่ในตลาด ประเมินอิงสมมติฐานยอดขายกล่องปีนี้ราว 8 แสนกล่อง คาดว่า SAMART จะมีกำไรส่วนเพิ่มประมาณ 60-80 ล้านบาทจากประมาณการปีนี้ และมีมูลค่าเพิ่มต่อหุ้นราว 0.06-0.08 บาท
- KTB(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 23 บาท คาดจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่าย&ลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐานของรัฐบาล เนื่องจากมีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อในโครงการรัฐสูงกว่าธนาคารอื่นๆ ผลประกอบการปี 58 จึงมีโอกาสดีกว่าที่ประมาณการไว้(+11%)แต่ในปี 57 คาดกำไรสุทธิไม่น่าจะต่างจากที่ประเมิน (โดยมีสมมติฐานหลักของปี 57 คือ สินเชื่อ +4.2%, รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย +10%) แต่ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีโอกาสเกิด Positive Upside มากขึ้นในสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากคสช.เข้ามาบริหารประเทศ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E และ P/BV ปี 57 ต่ำเพียง 8 เท่า และ 1.2 เท่า ตามลำดับ ด้าน Dividend Yield ก็อยู่ในเกณฑ์สูงที่ประมาณ 5% สำหรับปี 57
- JAS (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)แนวโน้ม IFF ล่าช้าต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากอยู่ระหว่างแก้ไขโครงสร้างกองทุน ทำให้อาจต้องมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นใหม่อีกครั้งหากโครงสร้างใหม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รวมผลของกองทุนไว้ในประมาณการ การเลื่อน หรือ ยกเลิกไปจะไม่กระทบประมาณการ โดยคาดกำไรปกติปีนี้เติบโต 18% YoY อ้างอิงวิธี DCF ได้ราคาเป้าหมายที่ 10.20 บาท มี Upside gain 24% จึงแนะนำ"ซื้อ"
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับอีซีบีลดดอกเบี้ยสกัดเงินฝืด
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ตัดสินใจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเวลา 09.59 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 15,138.75 จุด เพิ่มขึ้น 59.38 จุด หรือ +0.39% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,231.32 จุด เพิ่มขึ้น 121.66 จุด หรือ +0.53% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 9,167.83 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.30%
ส่วนดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,285.18 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.17% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,870.61 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด หรือ +0.09% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,040.86 จุด ลดลง 0.02 จุด หรือ 0.00% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,436.90 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง
ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นหลังจากอีซีบีลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบ 0.10% จากระดับเดิมที่ 0% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในการแถลงข่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม และมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการปล่อยกู้แก่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานจะขยับขึ้นแตะ 6.4% ในเดือนพ.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่งที่ 6.3% ในเดือนเม.ย.
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 5.14 จุด หลังประชุมธ.กลางยุโรป,อังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 5.14 จุด หรือ 0.08% ที่ 6,813.49 จุด
อีซีบีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในเขตยูโรโซน ซึ่งกำลังชะลอตัวและประสบกับภาวะอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ในการประชุมที่สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคงโครงการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ หรือ 6.28 แสนล้านดอลลาร์ไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก หลังอีซีบีประกาศลดดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ตัดสินใจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับภาวะเงินฝืดในกลุ่มยูโรโซน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 344.99 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,947.83 จุด เพิ่มขึ้น 21.16 จุด หรือ +0.21% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,548.73 จุด เพิ่มขึ้น 47.73 จุด หรือ +1.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,813.49 จุด ลดลง 5.14 จุด หรือ -0.08%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก โดยดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า อีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของยูโรโซนต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด
นอกจากนี้ อีซีบียังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบ 0.10% จากระดับเดิมที่ 0% ส่งผลให้อีซีบีเป็นธนาคารกลางแรกในโลกที่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคาร Mediobanca ของอิตาลี พุ่งขึ้น 4% ขณะที่หุ้น Banco de Sabadell ปรับตัวขึ้น 3.6% และหุ้น Commerzbank ของเยอรมนี ปรับตัวขึ้น 3.2%
หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ พุ่งขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้นเบลล์เวย์ ปรับตัวขึ้น 2.2%
ส่วนหุ้นวอลโว ร่วงลง 2.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงจากระดับ "neutral"
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 98.58 จุด ขานรับอีซีบีลดดอกเบี้ย
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ตัดสินใจใช้มาตรการรับมือกับภาวะเงินฝืด ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,836.11 จุด เพิ่มขึ้น 98.58 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,296.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.59 จุด หรือ +1.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,940.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ +0.65%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของยูโรโซนต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด
นอกจากนี้ อีซีบียังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบ 0.10% จากระดับเดิมที่ 0% ส่งผลให้อีซีบีเป็นธนาคารกลางแรกในโลกที่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอีซีบีช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,941.74 จุด ก่อนที่จะปิดที่ระดับ 1,940.46 จุด และยังหนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 16,845.81 จุด ก่อนที่จะปิดที่ระดับ 16,836.11 จุด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดนั้น กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย
หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของแปซิฟิค เรท คาดว่าราคาหุ้นของทวิตเตอร์จะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 45 ดอลลาร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่หุ้น Amazon.com ทะยานขึ้น 5.5% และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ และหุ้นแพนโดรา มีเดีย ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานจะขยับขึ้นแตะ 6.4% ในเดือนพ.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่งที่ 6.3% ในเดือนเม.ย.
อินโฟเควสท์