WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ยังอยู่ในโหมดของการพักตัว รอ ECB แถลงนโยบายการเงิน

    นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังอยู่ในโหมดของการพักตัว ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก เนื่องจากตลาดฯกำลังรอข่าวในเรื่องการแถลงนโยบายทางด้านการเงินของ ECB และช่วงสั้นตลาดในแถบเอเชียก็น่าจะอยู่ในช่วง take profit

    นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นเร็วในช่วงของการทำรัฐประหาร ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิด take profit ได้ในระยะหนึ่ง โดยมองว่าตลาดฯน่าจะพักตัวในสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้จะเคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อย โดยทุกตลาดฯต่างกำลังรอผลการประชุม ECB อยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,440-1,435 จุด ส่วนแนวต้าน 1,453 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(4 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,737.53 จุด เพิ่มขึ้น 15.19 จุด (+0.09%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,927.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.64 จุด(+0.19%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,251.64 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด หรือ (+0.41%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 44.63 จุดดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.39 จุดดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 9.05 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.60 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.36 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.09 จุดดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.78 จุดดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.12 จุดดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 2.16 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 มิ.ย.) ที่  1,449.40 จุด ลดลง 4.84 จุด(-0.33%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 558.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 มิ.ย.)ที่ 102.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2 เซนต์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 มิ.ย.)ที่ 5.03 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 32.68/70 แกว่งแคบ รอความชัดเจนผลประชุม ECB

    - "ประยุทธ์" สั่งตรึงราคาสินค้าลดค่าครองชีพ "ประจิน" เผยสัปดาห์หน้าชี้ขาดปรับโครงสร้างพลังงาน ยึดหลักลดค่าครองชีพพร้อมกับตั้งบอร์ดบีโอไอ-กพช. ขณะอนุมัติงบกระทรวงเกษตรฯแล้ว 4 โครงการ 1.1 หมื่นล้าน ด้านคลังเตรียมดันแบงก์รัฐอัดฉีดเงินเข้าระบบ

    - เคาะงบปี 2558 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท หวังเก็บรายได้เพิ่มไตรมาส 4, นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยจากการหารือร่วมกัน 4 หน่วยงาน ประกอบด้วยกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และสำนักงบประมาณ เพื่อทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 โดยมีความเห็นสอดคล้องกันว่า การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีนี้คงมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ การจัดเก็บรายได้ไม่น่าจะมีปัญหาส่งผลให้การจัดเก็บภาพรวมทั้งปีไม่ต่ำกว่าเป้าหมายมากนัก

   - "ทริส"เผยปัญหาการเมืองยังไม่กระทบเครดิตเรทติ้งบริษัทจดทะเบียน เพราะปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน แต่กำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 เติบโตต่ำตามเศรษฐกิจที่น่าจะยังติดลบ ก่อนจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของคสช.ที่ออกมา ด้านเอเซีย พลัส ยันไม่ปรับคาดการณ์จีดีพีเพราะมองไตรมาส4 โตสูง

   - เอดีบีเผยการเมืองเปลี่ยนส่งผลให้ตลาดพันธบัตรไทยไตรมาสแรกปีนี้เทียบไตรมาสสุดท้ายปีก่อนขยายตัวไม่มากที่ 1.2% แต่หากเทียบกับไตรมาสแรกปี 2556 ยังขยายตัว 5.7% ขณะที่ยอดคงค้างพันธบัตรสกุลเงินบาทอยู่ที่ 2.8 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้เอกชนเติบโต 12.6% ชี้ดีมานด์พันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นย่านเอเชียตะวันออกเพิ่มต่อเนื่อง ผลจากเศรษฐกิจภูมิภาคแข็งแกร่งขึ้น

    - นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เผยเศรษฐกิจไทยปีนี้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เชื่อว่าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นตามความชัดเจนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่จะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 การจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวที่ค้างอยู่ให้กับชาวนา รวมถึงการทบทวนนำส่วนหนึ่งของโครงการใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาพิจารณาดำเนินการต่อ ส่งผลให้มีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ ขั้นเลวร้ายอาจขยายตัวได้ 1.3% ขั้นกลาง 1.7% และขั้นดี ขยายตัว 2.3-2.4%

*หุ้นเด่นวันนี้

    - TAE(บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่)เข้าเทรดวันนี้วันแรก ในกลุ่มพลังงาน บล.ฟินเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าไว้ที่ 3 บาท(อิง PE 11 เท่า) ที่ราคา IPO 2 บาทคิดเป็น PE 7 เท่าปีนี้และ 6.1 เท่าปีหน้า โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 142% Y-Y จากการขยายกำลังการผลิต 43% และคาดกำไรปีหน้าโต 16% Y-Y จากโรงไฟฟ้าชีวภาพ 3 MW เปิดครบทั้ง 2 เฟสซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 80 ล้านบาท/ปี

   TAE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลเชิงพาณิชย์รายแรกของไทยและใช้เทคโนโลยีจากฝรั่งเศสที่ผลิตเอทานอลได้บริสุทธิ์ถึง 99.5% บริษัทอยู่ระหว่างปรับปรุงเครื่องจักรให้รองรับวัตถุดิบได้ทั้งกากน้ำตาลและมันสำปะหลัง คาดแล้วเสร็จใน 2Q14

   - AP(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 6.30 บาท ยอดขาย Presales เม.ย.-พ.ค.57 ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาก โดยเดือนพ.ค.57 เดือนเดียวมียอดขาย 4.5 พันล้านบาท มากกว่ายอดขายสะสม 4 เดือนแรกของปีนี้ที่ 3 พันล้านบาท เนื่องจากเปิดขายคอนโดใหม่ 3 แห่ง และยอดขายบ้านแนวราบดีขึ้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ คาดว่า กำไร 2Q57 จะดีขึ้น QoQ และใน 4Q57 จะมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งมาก สำหรับปี 58 คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตถึง 22% นับว่าผลประกอบการมีโมเมนตัมดีมากนับจากนี้ไป

   - SIM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.20 บาท จากข้อมูลเดือน เม.ย.พบว่ายอดขายเครื่องโทรศัพท์ของ SIM เติบโตจาก 1Q57 กว่า 50% เป็น 6 แสนเครื่องต่อเดือน และน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ คสช. ทยอยจ่ายเงินให้เกษตกรในโครงการจำนำข้าวจะช่วยฟื้นกำลังซื้อผู้บริโภคในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ SIM ที่เป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์ Smart phone ราคาประหยัด ทำให้ผลประกอบการ 2Q57 ที่คาดไว้ในเบื้องต้นจะมีกำไรสุทธิ 2Q57 ราว 262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% QoQ และ 2% YoY ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัท ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นมาน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มสื่อสาร

    - CHG(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.80 บาท มองราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการทั้งในระยะสั้นจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ที่จังหวักปราจีนบุรี ซึ่งได้เปิดให้บริการเฟส 1 ไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. อีกทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการและเพิ่มบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเดิม 3 แห่งจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิของ CHG ในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะสามารถเติบโตราว 14% ต่อปี สำหรับปี 2557 คาดรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายของผู้บริหารที่ 10 - 15% เรามองว่า CHG เป็นหุ้นที่เด่นทั้งการเติบโตของกำไรและมีเงินปันผลจ่ายสม่ำเสมอ

ตลาดหุ้นเอเชียขยับลงเล็กน้อย ขณะจับตาประชุมอีซีบี

     ตลาดหุ้นเอเชียขยับลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังข้อมูลภาคบริการสหรัฐดีเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% สู่ระดับ 142.66 จุด เมื่อเวลา 10.36 น.ตามเวลาฮ่องกง

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,112.59 จุด เพิ่มขึ้น 44.63 จุดดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,019.44 จุด ลดลง 5.39 จุดดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,142.66 จุด ลดลง 9.05 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,127.56 จุด เพิ่มขึ้น 7.60 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,007.20 จุด ลดลง 1.36 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,278.08 จุด ลดลง 2.09 จุดดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,869.98 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุดดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ที่ 4,932.44 จุด ลดลง 0.12 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,764.41 จุด ลดลง 2.16 จุด

    ตลาดหุ้นเอเชียขานรับข้อมูลภาคบริการสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยสถาบัน ISM รายงานว่า ดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้นแตะ 56.3 ในเดือนพ.ค. จาก 55.2 ในเดือนเม.ย. นับว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 9 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวในภาคบริการ

    ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นแตะ 58.1 จากระดับ 55 ในเดือนเม.ย. นับว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปอย่างใกล้ชิด ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการครั้งนี้ และหากเป็นไปตามคาดการณ์ การปรับลดที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าว จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่แดนลบเป็นครั้งแรกของอีซีบี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 17.67 จุด เหตุผิดหวังจ้างงานสหรัฐ

   ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) หลังจากที่ภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้

   ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 17.67 จุด หรือ 0.26% ที่ 6,818.63 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนมีแรงถ่วง หลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 210,000 ตำแหน่ง

   ขณะเดียวกัน ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจากงานภาคเอกชนเดือนเม.ย. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง

   อีซีบีมีกำหนดประชุมพิจารณานโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ โดยคาดกันว่าอีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับติดลบ พร้อมขยายมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ได้กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด

   หุ้นเทสโก้ร่วงลง 1.3% หลังบริษัทรายงานว่ายอดขายรายไตรมาสร่วงลง 3.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว ขณะตลาดจับตาการประชุมอีซีบี

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาไทย

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% ปิดที่ 343.56 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,501.00 จุด ลดลง 2.69 จุด หรือ -0.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,926.67 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด, +0.07% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,818.63 จุด ลดลง 17.67 จุด, -0.26%

   นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายพร้อมกับจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาไทยอย่างใกล้ชิด ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการครั้งนี้ และหากเป็นไปตามคาดการณ์ การปรับลดที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าว จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่แดนลบเป็นครั้งแรกของอีซีบี

   ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปครั้งนี้มากเป็นพิเศษนั้น เป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่ลดลงสู่ระดับ 0.5% ในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 0.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 0.6% ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำ

   หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับฐานลง โดยหุ้นโฟล์คสวาเก้นร่วงลง 1.5% หลังจากมีรายงานว่าโฟล์คสวาเก้นได้ขายหุ้นบุริมสิทธิ์ได้กับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการระดมทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท Scania ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถบรรทุกของสวีเดน ขณะที่หุ้นเปอร์โยต์ ซีตรอง ปรับตัวลง 1.6% และหุ้นเฟี๊ยต ดิ่งลง 1.7%

   หุ้นเทสโก้ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในอังกฤษลดลง 3.8% ในไตรมาสแรก

   นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานจะขยับขึ้นแตะ 6.4% ในเดือนพ.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่งที่ 6.3% ในเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 15.19 จุด รับข้อมูลภาคบริการสดใส

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในสัปดาห์นี้

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,737.53 จุด เพิ่มขึ้น 15.19 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,251.64 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,927.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.64 จุด หรือ +0.19%

  ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซา โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 210,000 ตำแหน่ง

  ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่น่าผิดหวังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อแนวโน้มตลาดแรงงานของสหรัฐ พร้อมกับจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานจะขยับขึ้นแตะ 6.4% ในเดือนพ.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่งที่ 6.3% ในเดือนเม.ย.

  อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการในสหรัฐ โดยสถาบัน ISM รายงานว่า ดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้นแตะ 56.3 ในเดือนพ.ค. จาก 55.2 ในเดือนเม.ย. นับว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 9 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 โดย   ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวในภาคบริการ

  ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นแตะ 58.1 จากระดับ 55 ในเดือนเม.ย. นับว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

   หุ้นโพรเทคทีฟ ไลฟ์ พุ่งขึ้น 18% หลังจากบริษัทไดอิชิ ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ของญี่ปุ่นประกาศการเตรียมเข้าซื้อกิจการของบริษัทโพรเทคทีฟ ไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันของสหรัฐ เป็นมูลค่า 5.822 แสนล้านเยน

   หุ้นพรูเดนเชียล พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นเมทไลฟ์ ดีดตัวขึ้น 3%

   ส่วนหุ้นโค้ช อิงค์ ร่วงลง 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของสเติร์น อกรี แอนด์ ลีช ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

   นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาไทยอย่างใกล้ชิด ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการครั้งนี้ และหากเป็นไปตามคาดการณ์ การปรับลดที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าว จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่แดนลบเป็นครั้งแรกของอีซีบี

   อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!