- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 23 January 2015 19:27
- Hits: 2288
โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้า SET บวกต่อในกรอบแคบ หลังตอบรับปัจจัยบวกพอสมควรแล้ว สั่งเกาะติดการเมือง แนะทยอยขายทำกำไรบางส่วน
โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้า SET บวกต่อในกรอบแคบ หลังตอบรับปัจจัยบวกพอสมควรแล้ว สั่งเกาะติด ประเด็นการเมืองมากขึ้น แนะทยอยขายทำกำไรบางส่วน ภายหลังถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" ประเมินแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,620 จุด
นางสางธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยขานรับธนาคารกลางยุโรปออกมาตราการ QE เพิ่มเติมสูงกว่าคาดที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จากที่คาดการณ์ไว้ 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนโดยจะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรและหุ้นกู้เอกชน ในเดือนมี.ค.ปีนี้ไปจนถึงเดือน ก.ย.ปีหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น และหุ้นไทยก็ตอบรับไปพอสมควรแล้ว ส่วนกระแสเงินทุนที่จะไหลเข้ามา ในเชิงเปรียบเทียบเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียน่าจะน้อยกว่าสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างสดใส ดังนั้น หากนักลงทุนที่จะเข้ามาเก็งกำไรช่วงนี้ มองว่าจะเป็นการไล่ราคาที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมาก ด้วย Upside ที่จำกัดมากขึ้น
ขณะที่สัปดาห์หน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ ประชุมรอบใหม่ ติดตามเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เช่นเดียวกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมรอบถัดไป วันที่ 28 ม.ค. คาดว่ากนง. ยังไม่น่าจะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะการปรับลดฮัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นตัวเร่งให้หนี้ครัวเรือนให้ปรับตัวสูงขึ้นไปกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสนช. มีมติด้วยคะแนน 190 ต่อ 18 ถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมีแรงกังวลว่าจะเป็นตัวจุดชนวนความร้อนแรงรอบใหม่การเมืองไทย เนื่องจากมีกระแสบางส่วนที่ไม่พอใจการปฏิวัติครั้งนี้ ภายใต้กฎอัยการศึก ดังนั้น จึงต้องให้น้ำหนักปัจจัยการเมืองมากขึ้น ตลอดจนการยกเลิกกฎอัยการศึกก็อาจจะยากกว่าเดิม
สำหรับ สัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดมากขึ้น เนื่องจากดัชนีฯ ได้ตอบรับปัจจัยบวกต่าง ๆ ไปพอสมควร อีกทั้งยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งกรีซ วันที่ 25 ม.ค. นี้ ซึ่งหากฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกยกเลิกช่วยเหลือหากกรีซยกเลิกมาตราการรัดเข็มขัด รวมถึงการเมืองไทยที่อาจจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมา น่าจะเป็นกลางต่อบรรยากาศการลงุทน รวมถึงค่า PE ที่สูงขึ้นถึง 18 เท่า สะท้อนว่าหุ้นไทยค่อนข้างแพงแล้ว
ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยขายทำกำไรบางส่วน เพื่อรอเข้าซื้อใหม่จังหวะที่ดัชนีฯ ย่อตัว โดยประเมินแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,620 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย