- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 12 January 2015 10:10
- Hits: 2649
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดตปท.เหตุหลักปัจจัยภายนอก
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวลง ภายหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาคละกันทั้งดีและไม่ดี โดยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯงวดเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นได้ดีมากกว่า 2 แสนตำแหน่ง ทำให้การว่างงานลดลง แต่ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงลดลง
ด้านตลาดในยุโรปก็ปรับตัวลง ภายหลังจากที่นักลงทุนผิดหวังกับกระแสข่าวที่ทางเจ้าหน้าทีของธนาคารกลางยุโรป(ECB)ออกมาระบุว่าขนาดของ QE จะมีประมาณ 5.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมองว่าน้อยไปที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป และการเม็ดเงินนี้ก็จะซื้อพันธบัตรในระดับที่ลงทุนได้เท่านั้น อีกทั้งทางรัสเซียก็ได้โดน"ฟิทช์ เรทติ้งส์"หั่นเครดิตลงมาอยู่ที่ BBB-
พร้อมให้แนวรับ 1,520-1,525 จุด ส่วนแนวต้าน 1,535-1,540 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(9 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.37 จุด ร่วงลง 170.50 จุด(-0.95%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,704.07 จุด ลดลง 32.12 จุด(-0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,044.81 จุด ลดลง 17.33 จุด(-0.84%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 17.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.52 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 27.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.48 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.34 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ม.ค.58)1,529.42 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด(+0.51%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 915.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ม.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 ม.ค.58) ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 43 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 ม.ค.58)ที่ 3.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.82/85 คาดวันนี้แกว่งแคบ ตลาดรอดูปัจจัยใหม่
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 12 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ในฐานะหัวหน้า ฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ จะประชุมร่วมอย่างไม่เป็นทางการกับตัวแทนภาคเอกชนประมาณ 20 คนที่บ้านเกษะโกมล
- บลูมเบิร์กรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในที่ประชุมของสภาธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ว่า ในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อีซีบีเสนอต่อเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายของอีซีบีให้ใช้โมเดลการกระตุ้นเศษฐกิจด้วยการให้เข้าซื้อสินทรัพย์ในระดับน่าลงทุนจากตลาดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านยูโร(ราว 20 ล้านล้านบาท)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนที่กำลังเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดอยู่รอมร่อ
- รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้กรมจะเชิญผู้ประกอบการผลิตสินค้ากลุ่มปุ๋ยเคมีและวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กและปูนซีเมนต์ มาหารือเพื่อขอปรับลดราคาสินค้าตามทิศทางของราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะสินค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง จึงควรจะมีการลดราคาสินค้าลงมาเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน
- "ประจิน" สั่งเร่งหาข้อสรุปสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วง N1, 2, 3 หรือล้มเลิก สร้างรถไฟฟ้าสีน้ำตาลแทน เผยต้องฟังเสียงประชาชนที่ไม่เห็นด้วย และหารูปแบบที่ตกลงร่วมกัน ชี้โครงการจำเป็นเพื่อแก้จราจร ขณะที่ สนข.เร่งวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบ เสนอนโยบายตัดสินใจใน 2 สัปดาห์
- คลังโอดไตรมาสแรกปีงบ 58 ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท สรรพากรครองแชมป์ รายได้ทรุดเฉียดหมื่นล้านบาท ประเมิน 9 เดือนที่เหลือสถานการณ์ยังน่าห่วง เศรษฐกิจยังซบ น้ำมันดิ่งกระทบหนัก
*หุ้นเด่นวันนี้
- ABC-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.แอสเซท ไบร์ท(ABC)เทรดวันแรกจำนวน 658,499,929 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ธ.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 10 ก.ย. 2562
- DCC(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 6.40 บาท คาดกำไรปี 58 พลิกฟื้นเป็นเติบโต 11% จากที่หดตัว 9% ในปีก่อน โดยความสามารถในการทำกำไรเหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน นอกจากนี้จ่ายปันผลสูง
- DEMCO(โกลเบล็ก)"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"ราคาเฉลี่ย Consensus 18.2 บาท รายได้ปี 57 มีแนวโน้มทรงตัวจากผลกระทบการเมืองในช่วงต้นปี 57 และในปี 58 ลุ้นประมูลงานจาก EGAT ปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าและวางสายส่ง อีกทั้งได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ EA คอยหนุนรายได้ อีกทั้งเตรียมยื่นขอใบอนุญาต Solar Roof ในค่ายทหารประมาณ 100 MW พร้อมมีแผนขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าขยะที่จังหวัดลพบุรีและมหาสารคามแห่งละ 8 MW
- ROBINS(บัวหลวง) บริษัทฯลูก-Power Buy เข้าถือหุ้น 49% ในบริษัทฯ NKT (NKT ถือหุ้น 100% ในบริษัทฯ NK ซึ่ง NK มีกำไร ในปี 2014 (ปิดงวดบัญชี มีค.) ราว 540 ล้านบาท รายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นคาดการซื้อกิจการนี้จะเพิ่มมูลค่าต่อ ROBINS ไม่มาก เพราะเป็นการถือหุ้นผ่านบริษัทฯย่อยอีกที (คาดรับรู้กำไรในรูปเงินปันผล) เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" จาก "ถือ" เพราะราคาหุ้นปรับลงมากจนมี Upside to fair value มากกว่า 15% ราคาเป้าหมาย 55 บาท
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกเศรษฐกิจยุโรป,สหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคได้ ขณะที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์
ดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 470.28 จุด เมื่อเวลา 9.07 น.ตามเวลากรุงโซล
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,198.02 จุด ลดลง 17.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,918.18 จุด ลดลง 6.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,332.96 จุด ลดลง 5.48 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,730.10 จุด ลดลง 2.34 จุด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ
ก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่าอีซีบีจะใช้มาตรการ QE ครั้งใหม่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงต้นปีนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย. โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่ามาตรการ QE จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคได้
ขณะเดียวกันสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 สู่ระดับ 24.57 ดอลลาร์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วงลง หลังนักลงทุนคาด QE ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคได้ ขณะที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 337.93 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 81.12 จุด หรือ 1.90% ปิดที่ 4,179.07 จุด, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 189.11 จุด หรือ 1.92% ปิดที่ 9,648.50 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 68.82 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 6,501.14 จุด
ก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่าอีซีบีจะใช้มาตรการ QE ครั้งใหม่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงต้นปีนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย. โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ
ถึงกระนั้นนักลงทุนก็คาดการณ์ว่า มาตรการ QE จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคได้
นอกจากนี้ ตลาดยังเกิดความวิตกกังวลหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 สู่ระดับ 24.57 ดอลลาร์
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 170.50 จุด วิตกรายได้แรงงานลดลง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (9 ม.ค.) หลังจากปิดทะยาน 2 วันติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 170.50 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 17,737.37 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 17.33 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 2,044.81 จุด และดัชนี Nasdaq หดตัวลง 32.12 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 4,704.07 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 252,000 รายในเดือนธ.ค. 2557 จากระดับ 353,000 รายในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกังวลกับตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 สู่ระดับ 24.57 ดอลลาร์
อินโฟเควสท์