WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ปัจจัยใน-นอกปท.ยังกดดัน

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังไม่มีการกำหดระยะเวลาที่ชัดเจนในการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย โดยระบุ 2 ปัจจัยที่ยังรอดู คือ ตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในปัจจุบันจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% แล้ว แต่เฟดยังกังวลว่าอาจไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกอบกับ การชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ยังไม่มีแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้น ทำให้เฟดยังไม่มีการระบุเวลาที่ชัดเจน ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีแรงขายทำกำไรออกมาค่อนข้างมาก

     นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศจะเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นหลังจากมีการชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตอกย้ำให้กฏอัยการศึกที่ยังประกาศใช้อยู่มีแนวโน้มจะยังคงไว้ ส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนต่างชาติที่ยังไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ อีกทั้งมาตรการสกัดหุ้นร้อนวานนี้จะมีผลกดดันตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ รับปัจจัยจากเฟดยังไม่มีเวลาที่แน่ชัดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทั้งนี้ให้ติดตามปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ การประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือยพฤศจิกายนของจีน ยุโรป และสหรัฐฯ

    พร้อมให้แนวต้าน 1,585-1,586 จุด แนวรับ 1,570-1,575 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,685.73 จุด ลดลง 2.09 จุด(-0.01%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.71 จุด ลดลง 26.73 จุด(-0.57%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,048.72 จุด ลดลง 3.08 จุด(-0.15%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 118.94 จุด,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 27.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง  6.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.94 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.27  จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 พ.ย.) 1,577.55 จุด ลดลง 3.72 จุด(-0.24%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 645.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.57

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 พ.ย.)ที่ 74.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 พ.ย.)ที่ 7.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.84/85 อ่อนค่าต่อเนื่องตามเยน-เฟดยังไม่มีมาตรการเพิ่ม

   - "สมคิด" เผยเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว สร้างแรงกดดันรัฐบาลให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เตือนนโยบายระยะสั้น ส่งผลดีชั่วคราว แต่สร้างปัญหาระยะยาวเหมือนในอดีต ด้าน "บรรยง" ชี้ปีหน้าเดินหน้าปฏิรูป มั่นใจทำได้รัฐบาลนี้ แนะเร่งแก้ปัญหาคอร์รัปชัน "ทียูเอฟ"เตือนอย่าหวังส่งออกปีหน้า คาดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น

    - บอร์ดตลาด เพิ่มยาแรงสกัดหุ้นร้อนแรง ตีกรอบหุ้นซื้อขายผิดปกติเกินจริง สั่งห้ามชำระราคาในวันเดียว พร้อมเทรดด้วยเงินสด 3 สัปดาห์ ห้ามใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน มั่นใจแตะเบรกหุ้นร้อนได้ทันที ด้านนักวิเคราะห์มองมาตรการไม่แรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หวั่นกลัวเจอแรงเก็งกำไรก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้

   - บอร์ดทีโอที ผ่าตัดองค์กรใหม่ ลดสายงานธุรกิจซ้ำซ้อนจาก 13 สายงานเหลือ 7 สายงาน หวังลดรายจ่าย พลิกฟื้นสถานะดีขึ้นจากวิกฤติ คาดปีนี้ ขาดทุนลดเหลือ 4,572 ล้านบาท จากคาดการณ์เดิม  7,800 ล้านบาท ด้านสคร.ประเมินผลดำเนินการล่าสุด ยังอยู่ขั้น "วิกฤติ" ต่อเนื่องจากปีก่อน เผยค่าใช้จ่ายไตรมาสแรกพุ่ง 22.87%

   - อสังหาฯ ชี้รัฐลงทุนเมกะโปรเจคระบบรางดันความต้องการที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้าโตต่อเนื่อง 3-5 ปี ประเมินปีหน้า โต 5% คาดการแข่งขันรุนแรงจากรายเล็กแห่เข้าตลาด ขณะรายใหญ่ดันโครงการใหญ่เพิ่มขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

    - ANAN(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"เก็งกำไร"เป้า 4.60 บาท มีความเป็น Laggard สูง ราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมา -0.52% ผลงาน 3Q57 ต่ำสุดในรอบปีไปแล้ว แนวโน้ม 4Q57 คาดเติบโต qoq จากเริ่มทยอยรับรู้ Idoe Del Ray สุขุมวิท 64 ที่เลื่อนจาก 3Q57 รวมถึงมี Backlog กว่า 3,900 ล้านบาท ทำให้ภาพทั้งปี 57 คาดรายได้โต 14.4% yoy เป็น 10,821 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,113 ล้านบาท คาดเป็นหนึ่งใน 11 หลักทรัพย์ที่จะได้รับเลือกเข้า SET100 มีผลตั้งแต่ต้นม.ค.58

     - RS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า11.80บาท กำไร 3Q14 โตสูงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งกำไรบอลโลกและกำไรจากธุรกิจหลักที่ฟื้นตัวแรงจากไตรมาสก่อน กำไรที่ดีกว่าคาดและมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อธุรกิจสื่อทีวีดิจิตอล ช่อง 8 ที่มี Rating ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2014 ขึ้น 36% เป็น 445 ล้านบาท โต 12.7% Y-Y แม้คาดกำไรสุทธิ 4Q14 ลดลงจากฐานสูงไตรมาสก่อน แต่ยังเพิ่ม Y-Y ส่วนปี 2015 ปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 41% เป็น 524 ล้านบาท ยังโต 18.0% Y-Y แม้ไม่มีกำไรจากบอลโลก แต่จะได้ชดเชยจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาในสื่อทีวีขึ้นเท่าตัว ไม่มีตั้งสำรองจาก Laliga และการยกเลิกคลื่นวิทยุที่ขาดทุน

    - RICHY (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า4.7–5.1 บาท ราคาหุ้น Laggard กลุ่มอสังหาฯ แนวโน้ม Q4/57 โตเด่น (รับรู้รายได้โครงการคอนโดฯ ริชพาร์ค@เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 1.7 พันล้านบาท คาดรับรู้ราว 50% ในไตรมาส 4/57) เตรียมเปิดตัวคอนโดฯติดสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ 22 พ.ย.(ปลดล๊อกความกังวลของตลาดฯว่าตั้งแต่เข้า IPO ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ) PE ไม่แพง9เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่เฉลี่ย 14-15 เท่า)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังเฟดเผยรายงานการประชุม

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง

   นักลงทุนมองว่า การที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,407.69 จุด เพิ่มขึ้น 118.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,401.00 จุด เพิ่มขึ้น 27.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,984.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.69 จุด

   ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,960.72 จุด ลดลง 6.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,337.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,824.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 12.53 จุด หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรง

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อยู่อาศัยที่อ่อนแรงลง

   ดัชนี FTSE 100 ลดลง 12.53 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 6,696.60 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวในแดนลบ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.8% ในเดือนต.ค. แตะที่ 1.009 ล้านยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.6%

     ขณะเดียวกัน รายงานการประชุมธนาคารกลางอังกฤษเมื่อวันที่ 5-6 พ.ย.ที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางอังกฤษได้ลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายมีความเห็นที่แตกต่างกัน

     หุ้นรอยัล เมล ร่วงลง 8.35% นำหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมือง ซึ่งรวมถึง หุ้นแองโกล อเมริกัน หุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็อ่อนแรง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการเผยแพร่หลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว

  ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 339.15 จุด

  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,696.60 จุด ลดลง 12.53 จุด หรือ -0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,266.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.81 จุด หรือ +0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,472.80 จุด เพิ่มขึ้น 16.27 จุด หรือ +0.17%

   หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง และได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นริโอ ทินโต ดิ่งลง 2.1% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 2.9%

  หุ้น ICAP ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ ร่วงลง 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง 10% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557

  ขณะที่หุ้นรอยัล เมล ผู้ให้บริการไปรษณีย์รายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 8.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรช่วงครึ่งปีแรกลดลง พร้อมกับระบุว่าการที่ Amazon.com มีแผนที่จะพัฒนาเครือข่ายการขนส่งพัสดุของตนเองนั้น อาจจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการรายอื่นหดตัวลงด้วย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 2.09 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.ซบเซา

  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐปรับตัวลงในเดือนต.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้เทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้

  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,685.73 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.71 จุด ลดลง 26.73 จุด หรือ -0.57% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,048.72 จุด ลดลง 3.08 จุด หรือ -0.15%

  ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.8% ในเดือนต.ค. แตะที่ 1.009 ล้านยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.6%

  นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน

  อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

  ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า การที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น

  หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีก โดยหุ้น Lowe’s Cos ปรับขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นในปี 2557 เป็น 2.68 ดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.63 ดอลลาร์

  ขณะที่หุ้น Target Corp พุ่งขึ้น 7.39% หลังจากบริษัทบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.773 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.

                        อินโฟเควสท์

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!