WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลงจากแรงกดดันทั่วโลกถูกปรับประมาณการศก.

    นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างอยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า โดยนักวิเคราะห์ฯจากหลายสำนักได้มีการปรับตัวเลขประมาณเศรษฐกิจจากหลายโซน ทั้งในยุโรป, เอเชีย เป็นต้น ทำให้บ่งชี้ได้ว่ามีโอกาสที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะมี downside และตลาดยุโรป, อเมริกา ก็มีการเทรดกันในระดับที่สูงกันอยู่แล้วดังนั้นก็พร้อมที่จะขายได้ตลอด

    แม้ว่าตลาดบ้านเราจะปรับตัวลงจนทำให้เห็นว่าราคาหุ้นถูกลงแต่ก็คงจะไม่ถูกจนสามารถดึงเม็ดเงินเข้ามาได้ และคนมีกำไรก็พร้อมที่จะขายมากกว่าซื้อ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเทรดบน P/E Forward ที่ 16 เท่า มากกว่าค่าเฉลี่ย P/E ตลาดหุ้นไทยที่ 12.5-12.8 เท่า

   ทั้งนี้ นักลงทุนคงจะปรับพอร์ตการลงทุนก่อนถึงสิ้นปี เพื่อรับกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นในปีหน้า(2558)

   พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,547 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(7 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,719.39 จุด ร่วงลง 272.52 จุด(-1.60%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,385.20 จุด ลดลง 69.60 จุด(-1.56%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,935.10 จุด ลดลง 29.72 จุด(-1.51%)

    - ตลาดหุ้นเอเชีย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 209.23 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 200.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 50.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 15.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 16.37 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.87 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 ต.ค.) 1,539.39 จุด ลดลง 3.74 จุด(-0.24%)

   - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 136.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ต.ค.57

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(7 ต.ค.)ที่ 88.85 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 1.49 ดอลลาร์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(7 ต.ค.)ที่ 6.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.64/65 แนวโน้มอ่อนค่า

   - กกร.คาดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอัดฉีดเข้าระบบปีนี้ได้ 1 แสนล้าน ห่วงการส่งออกทรุดเหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว คาดส่งออกปีนี้ ติดลบ 1% เสนอรัฐบาลเร่งปฏิรูปรฟท.ลดต้นทุนโลจิสติกส์ หนุนเม็ดเงินระบบราง 1.34 ล้านล้านบาทใช้ได้ตามแผน

   - ประธานตลาดหลักทรัพย์หวังโรดโชว์สหรัฐสัปดาห์นี้ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับตลาดหุ้นไทย หลังดัชนีไหลลงเพราะที่ผ่านมาราคาสูงเกินพื้นฐาน เชื่อทั้งปีมียอดซื้อสุทธิ ส่วนเลขาธิการกบข.ยันยังไม่ปรับพอร์ตลงทุนในหุ้นไทย ระบุดัชนีระดับ 1,570 อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจ เดินนโยบายลงทุนเน้น ในตลาดตราสารทุน รับผลบวกเศรษฐกิจ ในและต่างประเทศเริ่มกระเตื้อง พร้อมประเมินจีดีพีปีหน้าโตในช่วง 4.5-5%

   - ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยการที่ขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงนั้นเพราะอยู่ในช่วงปรับฐาน หลังจากที่ผ่านมาดัชนีปรับเพิ่มมากจนทำให้ระดับพีอีขึ้นมาอยู่ที่ 16 เท่า จากปกติในอดีตอยู่ที่ 13-14 เท่า ทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะเกินมูลค่าพื้นฐาน จึงเกิดแรงขายออกมา ถือเป็นเรื่องปกติของการซื้อขายและเป็นการปรับลดตามทิศทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยด้วย แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยระมัดระวังในการลงทุน และยืนยันว่าตลาดไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลหุ้นที่เก็งกำไร

   - "อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก" ประธานสภาอุตฯ ท่องเที่ยว คนใหม่ ชู 11 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวสู่ผู้นำอาเซียน เชื่อมั่นศักยภาพ ผนึกภาคเอกชนส่วนกลาง-ภูมิภาคทำงานร่วมกัน หวังดันเป้ารายได้เติบโต มากกว่า 7% ต่อปี พร้อมหนุนพัฒนา ฮาลาล ทัวริสซึ่ม ชี้ศักยภาพตลาดใหญ่กว่า 1.6 พันล้านคนทั่วโลก "คสช." เมินยกเลิกกฎอัยการศึก

*หุ้นเด่นวันนี้

   - CGD-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 2,438,659,310 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิคือวันที่ 8 กันยายน 2557 และวันครบกำหนดคือวันที่ 7 กันยายน 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 มี.ค.2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 7 ก.ย. 2559

    - BEAUTY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 37 บาท มุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตและเบื้องต้น Conference Call กับบริษัทคาด 3Q57 จะเติบโตสูง yoy และ qoq พร้อมทำนิวไฮรายไตรมาสต่อเนื่อง 2Q57 จุดเด่นที่การเติบโตและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 65% คาดกำไรสุทธิปี 57 โต +32.4% yoy เป็น 280 ล้านบาท และ +35.7% yoy เป็น 380 ล้านบาทในปี 58 สูงที่สุดในกลุ่มค้าปลีกจาก SSSG โตเฉลี่ย 5% ต่อปี และการเปิดสาขาต่อเนื่องปีละ 65 สาขา ฐานะการเงินแกร่ง

    - SIRI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"หลังราคาวานนี้ปรับลง 15% จากขึ้น XA(เพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิม 3:1 @ 1.30 บาท และแจก SIRI-W2 พรี ในอัตรา 1 หุ้นเพิ่มทุน:1 วอร์แรนท์)คงราคาเป้าหมายปี 58 ที่ 2.20 บาท(PE 10 เท่า)รวมผล Dilution แล้ว แนวโน้มกำไร 3Q-4Q14 เริ่มดีขึ้นตามรายได้โอนมากขึ้น แม้ Presales งวด 9M14 ทำได้เพียง 22% ของเป้าทั้งปี แต่ Backlog สิ้น 3Q14 ที่มีอยู่ 5.1 หมื่นล้านบาทจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ 2H14-2018

   - BEC(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 50.08 บาท ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติ กสท.ให้ช่อง 3 ออกอากาศบนโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลตามปกติถึงวันที่ 11 ต.ค.57 และให้คู่กรณีหาข้อยุติพิพาทให้ศาลทราบ แต่ยังไม่มีแนวโน้มสำเร็จโดยศาลจะพิจารณาเร่งด่วนวันนี้คาดโอกาสได้ข้อสรุปชัดเจนมีมากขึ้น มติ กสท.อาจมีความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายได้

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ หลัง IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ เป็นขยายตัว 3.3% ซึ่งลดลง 0.1% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. พร้อมกับปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าลง 0.2% สู่ระดับ 3.8%

       ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.8% เมื่อเวลา 9.55 น.ตามเวลาโตเกียว

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,574.60 จุด ลดลง 209.23 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,221.76 จุด ลดลง 200.76 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,989.99 จุด ลดลง 50.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,957.90 จุด ลดลง 15.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,227.62 จุด ลดลง 16.37 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,830.67 จุด ลดลง 2.87 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 68.07 จุด เหตุวิตกอีโบลา,ข้อมูลศก.ย่ำแย่

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 68.07 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 6,495.58 จุด

     การพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายใหม่ในสเปนได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า พยาบาลชาวสเปนได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยนับเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้ออีโบลานอกภูมิภาคแอฟริกา

     นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอังกฤษ (NIESR) เปิดเผยว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ชะลอความแรงลง ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษก็ชะลอตัวลงในเดือนส.ค.

     หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส ร่วงหนัก 6.92% ขณะที่หุ้นอีซี่เจ็ท รูดลง 5.32% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล โฮเต็ล กรุ๊ป อ่อนแรงลง 3.65%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง หลังการผลิตอุตสาหกรรมเยอรมนีหดตัว

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี และจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก

    ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 330.85 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,086.21 จุด ร่วงลง 123.30 จุด หนทอ -1.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,209.14 จุด ลดลง 77.38 จุด หรือ -1.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,495.58 จุด ลดลง 68.07 จุด หรือ -1.04%

   ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของเยอรมนีร่วงลง 4% จากเดือนก.ค. ที่ขยายตัว 1.6% นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

    ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคจะชะลอตัวลงในไตรมาสสาม

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่หลักๆหลายแห่ง

    หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลงอย่างหนัก หลังจากมีรายงานว่าพยาบาลชาวสเปนได้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในกรุงมาดริด โดยหุ้นอีซี่เจ็ทร่วงลง 5.3% ขณะที่หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส ร่วงลง 6.9%

    ส่วนหุ้นกลุ่มสุขภาพปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้น Qiagen NV ร่วงลง 1.3% และหุ้นไชร์ ปรับตัวลง 2.5%

    หุ้นริโอทินโตในกลุ่มเหมืองแร่ ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากริโอทินโตได้ปฏิเสธข้อเสนอการควบรวมกิจการจากบริษัทเกลนคอร์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 272.52 จุด หลัง IMF ปรับลดคาดการณ์ศก.โลก

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากมีรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,719.39 จุด ร่วงลง 272.52 จุด หรือ -1.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,385.20 จุด ลดลง 69.60 จุด หรือ -1.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,935.10 จุด ลดลง 29.72 จุด หรือ -1.51%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่หลักๆหลายแห่ง

    นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกยังกังวลต่อการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของเยอรมนีร่วงลง 4% จากเดือนก.ค. ที่ขยายตัว 1.6% นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

   ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลที่น่าผิดหวังก่อนหน้านี้ โดยกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเพิ่งรายงานวานนี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคจะชะลอตัวลงในไตรมาสสาม

   อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง แต่หุ้น Chimerix Inc. ดีดตัวขึ้น 5.59% หลังจากมีรายงานข่าวว่า สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐได้อนุมัติยาของบริษัท Chimerix Inc.ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลา

   นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนของสหรัฐ โดยอัลโค อิง ซึ่งเป็นบริษัทอลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ จะประเดิมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นรายแรกในวันพุธนี้ ส่วนบริษัทอื่นๆที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึง ยัม! แบรนด์ส และเป๊ปซี่โค

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค.2557

 

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,719.39 จุด               ลดลง 272.52 จุด     -1.60%

 

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,385.20 จุด           ลดลง 69.60 จุด       -1.56%

 

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,935.10 จุด            ลดลง 29.72 จุด       -1.51%

 

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,495.58 จุด         ลดลง 68.07 จุด       -1.04%

 

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,086.21 จุด                  ลดลง 123.30 จุด     -1.34%

 

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,209.14 จุด              ลดลง 77.38 จุด       -1.81%

 

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,040.81 จุด                 ลดลง 54.33 จุด       -0.60%

 

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,783.83 จุด          ลดลง 107.12 จุด     -0.67%

 

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,972.91 จุด              เพิ่มขึ้น 4.52 จุด,     +0.23%         

 

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,239.38 จุด ลดลง 7.65 จุด       -0.11%

 

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,422.52 จุด                   เพิ่มขึ้น 107.48 จุด   +0.46%

 

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,032.84 จุด   เพิ่มขึ้น 32.70 จุด    +0.65%

 

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,833.54 จุด           ลดลง 7.28 จุด       -0.40%

 

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,243.99 จุด            ลดลง 9.25 จุด,       -0.28%

 

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,271.97 จุด              ลดลง 296.02 จุด    -1.11%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากมีรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

 

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,719.39 จุด ร่วงลง 272.52 จุด หรือ -1.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,385.20 จุด ลดลง 69.60 จุด หรือ -1.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,935.10 จุด ลดลง 29.72 จุด หรือ -1.51%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี และจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก

 

          ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 330.85 จุด

 

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,086.21 จุด ร่วงลง 123.30 จุด หนทอ -1.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,209.14 จุด ลดลง 77.38 จุด หรือ -1.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,495.58 จุด ลดลง 68.07 จุด หรือ -1.04%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง

 

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 68.07 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 6,495.58 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย

 

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 92.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น ปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,212.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ ปิดที่ 17.24 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่และอ่อนแรงลงเป็นวันที่ 2 เมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลง และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

 

          ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2658 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6049 ดอลลาร์

 

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.15 เยน เทียบกับระดับ 109.01 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9578 ฟรังค์ จาก 0.9614 ฟรังค์

 

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8812 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8747 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,015.00 จุด ลดลง 14.00 จุด, -1.36%

 

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!