- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 21 November 2019 10:34
- Hits: 2814
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัวลงตามตลาดภูมิภาค เหตุหลักกังวลเจรจาการค้า-หวั่นลงนามข้อตกลงกันไม่ได้ในปีนี้
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงเฉลี่ยมากกว่า 1% โดยมีปัจจัยหลักมาจากความกังวลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่มีรายงานข่าวออกมาว่า ข้อตกลงเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีน อาจจะไม่สามารถลงนามกันได้ภายในสิ้นปีนี้ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน แต่สำหรับตลาดบ้านเราคงจะปรับตัวลงได้น้อยกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากราคาน้ำมันได้ดีดกลับขึ้นมา 3% ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ให้มาช่วยประคองตลาดฯได้ อีกทั้งเมื่อวานนี้ตลาดบ้านเราก็ปรับตัวลงไปมากแล้ว อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของไทย ส่วนนอกประเทศให้ติดตามยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
พร้อมให้แนวับ 1,590-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,610 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,821.09 จุด ลดลง 112.93 จุด (-0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,108.46 จุด ลดลง 11.72 จุด (-0.38%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,526.73 จุด ลดลง 43.93 จุด (-0.51%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 77.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 302.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 57.36 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 28.73 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 16.02 จุด, ขณะที่ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.22 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 พ.ย.62) 1,596.83 จุด ลดลง 10.42 จุด (-0.65%)
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 534.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย.62
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 พ.ย.62) ปิดที่ 57.11 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
เงินบาทเปิด 30.19 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดจับตาความสัมพันธ์การค้าสหรัฐ-จีน หลังสหรัฐฯผ่านกม.หนุนม็อบฮ่องกง
"อุตตม" เผยคลังกำลังพิจารณาที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่โดยจะครอบคลุมในวงกว้างคาดจะสรุปสิ้นปีนี้เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่คนไทย พร้อมเร่งเครื่องทุกฝ่ายดึงนักลงทุนปักหมุดอีอีซีดันไทยประตูสู่เอเชีย "สุริยะ" พร้อมเร่งเครื่องการลงทุนหลังภาพอีอีซีชัดเจนมากขึ้น ด้านโฆษกรัฐบาลยัน นายกฯ ยังไม่มีแนวคิดปรับทีมเศรษฐกิจ แค่ให้กระชับรูปแบบการทำงานให้ครอบคลุมถึงฐานราก ฟุ้งเศรษฐกิจยังขยายตัว ลงทุนใหม่มูลค่าทะลุ 4.3 แสนล้าน กิจการเปิดเพิ่มมากกว่าปิด 2 เท่าตัว ตำแหน่งงานยังว่างเกือบ 80,000 อัตรา
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ว่า โครงการลงทุนสำคัญในปีงบประมาณ 2563 ได้แก่โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำ (M8) วงเงินลงทุน 7.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) แล้ว และกระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาหลักการในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2563 และเริ่มก่อสร้างในปี 2564 นอกจากนี้ คาดว่าจะลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูล โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (โอแอนด์เอ็ม) มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มูลค่ารวม 61,086 ล้านบาทภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และเริ่มก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย (โครงการยกระดับบนถนนพระราม 2) ระยะทาง 10.8 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ได้หลังเทศกาลปีใหม่นี้
สภาอุตสาหกรรมเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ เดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 91.2 ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน กังวลกำลังซื้อในส่วนภูมิภาคที่ยังชะลอตัว และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ประสบปัญหาด้านการเงิน
*หุ้นเด่นวันนี้
SPA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 17.1 บาท กำไรสุทธิ Q3/62 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48%qoq และ 35%yoy มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการ ซึ่งได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาฟื้นตัว แนวโน้ม Q4/62 คาดเดินหน้าทำ All time high เพราะเป็น High season อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จาก มาตรการชิมช้อปใช้ และ ขยายฟรี Visa VOA ออกไปจนถึง 30 เม.ย.ปีหน้า (เดิมหมดอายุ 31 ต.ค.62)
TCAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 62 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นปันผลเด่น โดยเฉพาะดีลควบรวม TBANK และ TMB ใกล้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ TCAP จะนำเงินส่วนเกินจากการขาย TBANK มาจ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 4 บาท (Yield 7.4%) ยังไม่รวมเงินปันผลจากกำไรของธุรกิจใน H2/62 ที่ปกติจะขึ้น XD ปลาย เม.ย. และจ่ายเงินกลาง พ.ค. ด้านกำไร 9M62 +10% Y-Y คิดเป็น 83% ของคาดการณ์ทั้งปี ขณะที่กำไรปี 2563 คาดลดลงเพียง 2% แม้จะขาย TBANK แล้วถือหุ้นแบงก์ใหม่ 20% แต่ EPS ไม่ลดเพราะการซื้อหุ้นคืน (แล้วเสร็จปลายปีหลังขาย TBANK เสร็จสิ้น)
--อินโฟเควสท์