นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ เนื่องจากที่ราคาน้ำมันฟิวเจอร์เช้านี้ได้ปรับตัวขึ้นมากว่า 1% หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติการส่งกองกำลังสหรัฐเข้าไปยังอ่าวเปอร์เซียเพิ่มเติม และเริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาซื้อหุ้น และทำ Long ในตลาดฟิวเจอร์ตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังต้องติดตามดูต่อไปเพราะมีผลต่อตลาดฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645-1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,935.07 จุด ลดลง 159.72 จุด (-0.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,992.07 จุด ลดลง 14.72 จุด (-0.49%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,117.67 จุด ลดลง 65.21 จุด (-0.80%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 27.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 4.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.01 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.ย.62) 1,636.20 จุด ลดลง 4.46 จุด (-0.27%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 361.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ก.ย.62) ปิดที่ 58.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.07%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.ย.) อยู่ที่ 10.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 30.44/48 แนวโน้มเคลื่อนไหวกรอบแคบ จับตาประชุมกนง. กลางสัปดาห์นี้

- กระทรวงพลังงานเตรียมจัดระเบียบประเภทน้ำมันหลังทิศทางกลุ่มดีเซลชัดเจนที่กำหนด ดีเซล บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน เริ่ม 1 ม.ค. 63 เพื่อหนุนราคาปาล์ม คิวต่อไปเตรียมจัดระเบียบกลุ่มเบนซิน ที่เกี่ยวข้องกับเอทานอล เพื่อดูแลราคาอ้อย มันฯ คาดสิ้นปีนี้ได้ข้อสรุป

- "นอนแบงก์" เมินเลิกโปรโมชั่นผ่อน 0% ห่วงลิดรอนสิทธิ์ ผู้บริโภค "อิออน" ย้ำพฤติกรรมผ่อนชำระยังดี ส่วนใหญ่ผ่อนเฉลี่ยไม่เกิน 1 พันบาท ต่อเดือน ขณะ "เคทีซี" ระบุสินเชื่อผ่อน 0% มีสัดส่วนแค่ 10% ของยอดรูด ส่วนใหญ่ นิยมซื้อ "มือถือ" ด้าน "แบงก์พาณิชย์" ปรับกลยุทธ์ ลดทำแคมเปญตลาดล่าง เน้นเจาะกลุ่มบนรายได้เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน คาดการแข่งขันรุนแรงขึ้น

- "สรรพสามิต" กางแผนลุยรีดภาษีปีงบ 2563 เล็งปรับวิธีการชำระภาษีน้ำมัน รีดภาษีความหวานและรถมอเตอร์ไซค์ หวังดันผลงานจัดเก็บรายได้ฉลุยตามเป้าหมายที่ 6.42 แสนล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

- PPPM-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.พีพี ไพร์ม (PPPM)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 228,849,089 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 5 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 1 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 ต.ค.62 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 31 ก.ค.67

- ERW (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 7.2 บาท มองว่าราคาหุ้นที่ลดลงกว่า 14% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้สะท้อนผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาอ่อนแอในช่วง Q3/62 ไปแล้ว จึงเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมหรือเก็งกำไรรับข่าวมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว"ชิม ช็อป ใช้" ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกในการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์

- TMB (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 2.18 บาท วันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นของทั้ง TMB และ TCAP เพื่อขออนุมัติการรวมกิจการของสองธนาคาร รับโอนกิจการของ TBANK และเพิ่มทุน (ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของ 2 บริษัทเห็นว่าเหมาะสมและผู้ถือหุ้นควรอนุมัติ) หากผู้ถือหุ้นอนุมัติ (ซึ่งคาดว่าอนุมัติ) จะทราบราคาเพิ่มทุนเร็ว ๆ นี้ ความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะช่วยปลดล็อกราคา TMB ให้กลับสู่พื้นฐาน จึงคาดกำไร New TMB ปีหน้าที่ 1.8-2.2 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวม synergy ที่น่าจะใช้เวลา 1-2 ปี คิดเป็น EPS 0.21 บาท BVPS 2.18 บาทและ ROE 10% หุ้นไม่ควรต่ำกว่า BVPS

--อินโฟเควสท์