WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET26ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค หลัง ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงินตามคาด-สหรัฐฯจะทำข้อตกลงการค้าชั่วคราวกับจีน
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า แต่ช่วงบ่ายตลาดฯอาจจะลดช่วงบวกลงได้ เนื่องจากตลาดฯได้ตอบรับปัจจัยบวกไปพอควรแล้ว โดยผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตามคาด ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และประกาศรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ ต่อไปก็รอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดฯคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่าจะทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน ดังนั้น จะต้องรอดูความชัดเจนอีกที ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ และไทย ก็มีการปรับตัวขึ้นต่อทำให้น่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มแบงก์ปรับขึ้นต่อไปได้ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงก็คงจะกดดันกลุ่มพลังงาน

ส่วนบ้านเราวันนี้ก็มีประเด็นน่าสนใจจากที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องการผ่อนคลาย LTV, การลดค่าโอน เป็นต้น ซึ่งน่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้

พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,666-1,674 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,182.45 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด (+0.17%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,009.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.64 จุด (+0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,194.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.79 จุด (+0.30%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 148.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 66.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.31 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ย.62)  1,660.68 จุด ลดลง 13.35 จุด (-0.80%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,059.29 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ก.ย.62) ปิดที่ 55.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.2%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ย.) อยู่ที่ 8.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.44/46  ทิศทางยังแข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค หลัง ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงิน มองกรอบวันนี้ 30.40-30.50

- "อีซีบี" ประกาศหั่นดอกเบี้ยสู่ระดับ -0.5% พร้อมเตรียมทำ "คิวอี" เริ่มพ.ย.นี้ โดยอัดฉีดเงินเข้าระบบเดือนละ 2 หมื่นล้านยูโร ส่งผลสกุลเงินยูโรวูบ ขณะ "ทรัมป์" ทวีตชม "อีซีบี" ลดดอกเบี้ย พร้อมตำหนิเฟดเอาแต่นิ่งเฉย ด้านเงินบาทแข็งค่าแตะ 30.36 ต่อดอลลาร์สูงสุดรอบ 6 ปี 6 เดือน "สมคิด" สั่งทุกหน่วยงานระดมแผนปฎิรูปเศรษฐกิจฐานราก รับมือโลกผันผวน

- "กอบศักดิ์" เผยรัฐจ่อผุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ดันตลาดโค้งสุดท้าย เรียกถกผู้ประกอบการ-หน่วยงาน เกี่ยวข้อง-แบงก์รัฐหาทางผ่อนปรนสินเชื่อ ดูความเหมาะสม ลดค่าโอน ผ่อนเกณฑ์แอลทีวี หลังผู้ประกอบการอสังหาฯโอดยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 40% หวังงานมหกรรมบ้านฯ ดันยอดขาย 6-7 พันล้านบาท

- "พุทธิพงษ์" ถก กสทช.เดินหน้าแผนดิจิทัลประเทศเผยจ่อเรียก "ทีโอที" ทบทวนโครงการเน็ตประชารัฐหวั่นใช้งานได้ไม่จริง สั่งชะลอไวไฟเพิ่มอีกหมื่นจุด หลังพบสารพัดปัญหาค้าง ขณะที่แผนดาวเทียมต้องปิดดีล "พีพีพี" ให้เสร็จ ก่อนสัมปทานหมดอายุ ด้าน "ฐากร" ระบุแผนขับเคลื่อน 5จี ต้องเดินหน้าเรียกคืนคลื่น

- พลังงานตั้งคณะทำงานฯ หารือสิทธิส่วนลด LPG ช่วยกลุ่มหาบเร่-แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "ปตท." เร่งทำแผนชง กกพ.ดันให้ไทยเป็นฮับแอลเอ็นจีในภูมิภาค ด้าน กฟผ.ลุยซื้อซีพีโอส่วนที่เหลืออีก 1.3 แสนตัน ช่วยแก้ยางพาราราคาตก

- นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าที่สำคัญและของไทย พบว่าค่าเงินบาทเฉลี่ยจากต้นปีจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2562 อยู่ที่ 31.39 บาท ต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน

*หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (เคจีไอ) "เก็งกำไร""เป้าพื้นฐาน 78 บาท ประเมินราคาหุ้นที่ปรับตัวลงก่อนหน้านี้สะท้อนงบ Q2/62 ที่อ่อนแอ และการปรับลดประมาณการฯ ไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน H2/62 คาดจะฟื้นตัวจากการเปิด Central village ได้ตามกำหนด (คาดการท่องเที่ยวฟื้นตัวปลายปี) และการเร่งโอนโครงการอสังหาฯ ทั้งนี้ได้ประมาณการ PBV ปีนี้ ลงต่ำราว 3.4 เท่า คิดเป็น -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดกำไร 2 ปีข้างหน้าจะกลับมาโตได้ปีละ +10% (จากข้อมูลในอดีตทุกครั้งที่ PBV ปรับลงใกล้ -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานราคาหุ้นจะฟื้นตัว) พร้อมประเมินแนวรับ 68.5 บาท / แนวต้าน 69-72 บาท (Stop loss 67 บาท)

- RJH (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 32.2 บาท เป็นโรงพยาบาลขนาดกลางถึงเล็กที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้ โดยตลาดส่วนใหญ่คาดกำไรสุทธิปี 62 ประมาณ 350 -380 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 50-60%yoy ขณะที่ PE ซื้อขายเฉลี่ยที่ระดับ 20 เท่า ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25-30 เท่า



- GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 73 บาท (ยังไม่รวม synergy จาก GLOW) ราคาหุ้นวานนี้แสดงความแข็งแกร่งท่ามกลางตลาดที่อ่อนแอ ประกอบกับระยะเวลาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนอยู่ระหว่าง 30 ก.ย. ถึง 4 ต.ค. คาดว่าราคาจะมีโมเมนตัมดีต่อ ในส่วนของพื้นฐานนั้นรองรับอยู่แล้ว กำไร H2/62 มีแนวโน้มดีเพราะมีไม่รายจ่ายพิเศษที่เป็น one time เหมือนใน Q2/62 บวกกับมีการ COD โรงไฟฟ้าไซยะบุรีและน้ำลิก และกำไรปีหน้าโตต่อจากการรวม GLOW เต็มปี

--อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!