- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 02 October 2014 11:26
- Hits: 3004
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลงตามภูมิภาคกังวลศก.ยุโรป-ความขัดแย้งในตปท.
นายอภิชาต ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ลงไปประมาณ 0.5% ยกเว้นตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงที่ปิดทำการ สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปที่ยังชะลอตัว ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของยุโรปแย่ลงอย่างต่อเนื่องและต่ำที่สุดในรอบ 13 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ลดลงไป 1-1.5%
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน อิรัก และซีเรีย ประกอบกับการปชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่ยังดำเนินต่อไป ส่วนด้านปัจจัยภายในประเทศรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นออกมาแล้ว โดยจะให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะอาจติดขัดและทำให้เกิดความล่าช้าได้
พร้อมให้แนวต้าน 1,592-1,595 จุด แนวรับ 1,578-1,580 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(1 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,804.71 จุด ดิ่งลง 238.19 จุด(-1.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,422.09 จุด ลดลง 71.30 จุด (-1.59%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.16 จุด ลดลง 26.13 จุด (-1.32%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 187.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 30.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.15 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 13.93 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ และตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(1 ต.ค.)1,587.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.68 จุด(+0.11%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,617.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ต.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(1 ต.ค.)ที่ 90.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 43 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(1 ต.ค.)ที่ 6.43 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.41/42 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลข ศก.สหรัฐ-ยุโรปไม่ดี
- รัฐบาลทุ่ม 3.6 แสนล้านออกแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี นายกฯ มั่นใจเศรษฐกิจกระเตื้อง พร้อมสั่งตั้งกรรมการติดตามเบิกจ่าย"ปรีดิยาธร"เผย 5 มาตรการ เน้นสร้างงาน ซ่อมแซม ก่อสร้างดึง"งบกลาง-ไทยเข้มแข็ง"ขีดเส้นทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือน พ.ย. จ่ายช่วยปัจจัยผลิตชาวนา 1,000 บาทต่อไร่ ระบุดีกว่าจำนำข้าว นักเศรษฐศาสตร์มั่นใจกระตุ้นจีดีพีโต 2% ชี้เป็นมาตรการที่ดี
- ฟิทช์หั่นเป้าจีดีพีไทยลงเหลือ 1.2% จาก 2.5% แต่คงเรทติ้ง ระบุพื้นฐานเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง คาดปีหน้าโต 4% จากการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐหนุน ด้านธนาคารโลกเล็งปรับจีดีพีต่ำกว่า 3% ขณะ"ปรีดิยาธร"มั่นใจมาตรการกระตุ้น ดันเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง เตรียมประมูลรถไฟฟ้า 8 สายปีหน้า
- "ซูเปอร์บอร์ด"อนุมัติให้ธปท. กำกับดูแลแบงก์รัฐ ทั้งสั่งแก้ไขปัญหา ตรวจสอบและเอาผิดผู้บริหารได้ ป้องกันการเมืองใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ สั่ง "การบินไทย" ทำแผนปฏิรูประยะยาว 5 ปี เสนอภายในสิ้นปีนี้ให้ "ไอซีที" จ้างที่ปรึกษากำหนดยุทธศาสตร์"ทีโอที-กสท."พร้อมตั้งคณะทำงานกำกับอีกทอด
- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการกระจายเสียง (กสทช.)เปิดเผยว่า กสทช.พร้อมแจกคูปองแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) ล็อตแรก จำนวน 4.6 ล้านใบ ในวันที่ 10 ต.ค. นี้ ทางไปรษณีย์ คาดว่าจะถึงมือประชาชนใน 21 จังหวัด ภายในวันที่ 14-15 ต.ค. นี้
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ในเดือน ก.ย.เท่ากับ 107.43 สูงขึ้น 1.75% เมื่อเทียบกับ ก.ย. 2556 ถือเป็นอัตราขยายตัวต่ำสุดรอบปี และลดลง 0.17% เมื่อเทียบกับ ส.ค.2557 ส่งผลให้เงินเฟ้อช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปรับตัวสูงขึ้นแค่ 2.15%
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เผยฐานะการคลัง ส.ค.57 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 1.36 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 2.69 หมื่นล้านบาท หรือ 16.5% สาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะผลประกอบการภาคเอกชนลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ต่ำกว่าปีที่แล้ว ขณะเดียวกันมีการเบิกจ่ายงบ 1.32 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 1.13 หมื่นล้านบาท หรือ 7.9% โดยมีรายจ่ายลงทุน 1.74 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 27.2% และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 7,440 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 43.4%
*หุ้นเด่นวันนี้
- SMART บมจ.สมาร์ทคอนกรีต เริ่มซื้อขายวันนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.60 บาท อิง PE 17 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้โตโดดเด่น 125% Y-Y จากการขยายกำลังการผลิตและแผนลดต้นทุนเชื้อเพลิง ส่วนปี 2015 คาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่องเป็น 70 ล้านบาท เพิ่ม 50% Y-Y ณ ราคา IPO คิดเป็น PE ปี 2015 ที่ 12.5 เท่า
บมจ.สมาร์ทคอนกรีต เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาตรา "SMART บล็อคเย็น" มีกำลังการผลิตสูงสุดในภาคตะวันออกและสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศที่ 4.5 ล้านตร.ม./ปี มีจุดเด่นที่สถานที่ตั้งอยู่ในจ.ชลบุรี ใกล้แหล่งเศรษฐกิจและมีอุตสาหกรรมเติบโตได้ดีในภูมิภาคตะวันออก การแข่งขันมีไม่มาก มีความได้เปรียบด้านต้นทุนค่าขนส่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง
- SUPER-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ซุปเปอร์บล๊อก(SUPER)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 335,816,430 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 9.55 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 15 เดือน นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 15 ก.ย.2557 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 16 มี.ค. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 14 ธ.ค. 2558
- TTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 58 ที่ 26 บาท ขยายลงทุนสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจีนซื้อหุ้น Sino Grandness ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอาหารกระป๋องในจีน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ผลิตเครื่องดื่มที่ทำจากลูกแพร์ขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดในจีนกว่า 75% และคาดว่าตลาดน้ำชนิดนี้จะโตเฉลี่ย 39% จนถึงปี 60 การลงทุนครั้งนี้ 954 ล้านบาท ถือว่าซื้อได้ถูก คิดเป็น PE เพียง 4.4 เท่า และ PBV 1.3 เท่าของงบฯปี 56 ทำให้ TTA รับรู้รายได้ในรูปเงินปันผล คาดไว้ประมาณ 15 ล้านบาทในปีนี้ หรือ 1.4% ของกำไรTTA
- CPALLเคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 55.60 บาท เป็นหุ้นที่นักลงทุนควรทยอยเข้าซื้อ เนื่องจากราคาหุ้นยังไม่ได้ขยับขึ้นในช่วงนี้ ขณะที่คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วง 3Q-4Q57 จะแข็งแกร่งจากปัจจัยฤดูกาล(รวมถึงเทศกาลกินเจ 2 รอบในปี(57)และกลยุทธ์การตลาด(โปรโมชั่นแสตมป์ AEC)คาดได้แรงหนุนทางบวกจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ลงสู่ชาวนา
- VGI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 20.80 บาท เชื่อว่าการปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ของ MACO จะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น VGI ถือหุ้นในสัดส่วน 24.4% หรือ 73.5 ล้านหุ้น ต้นทุนหุ้นละ 9.00 บาทเทียบกับราคาตลาดปัจจุบันของ MACO ที่ 22.90 บาท ดังนั้นจึงมีกำไรส่วนเพิ่มของมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 1.02 พันล้านบาท หรือเทียบเท่าราว 0.29 บาทต่อหุ้น พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q57/58 จะเติบโต +52.9% qoq เป็น 295 ล้านบาท และได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 4Q56/57(ม.ค.-มี.ค.) ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในประเทศ จึงคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว เนื่องจาก VGI ให้บริการสื่อโฆษณาแบบครบวงจร
ตลาดหุ้นเอเชียขยับลงเช้านี้ เหตุวิตกข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ,ยุโรป
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังสหรัฐและยุโรปเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ลดลง 0.1% สู่ระดับ 139.64 จุด เมื่อเวลา 9.02 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,895.20 จุด ลดลง 187.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,959.37 จุด ลดลง 30.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,984.43 จุด ลดลง 7.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,252.35 จุด ลดลง 11.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,845.17 จุด ลดลง 0.15 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,254.13 จุด ลดลง 13.93 จุด
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ และตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดันเมื่อมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงแตะ 50.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก.ค. และลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.5
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะ 57.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. และค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 0.5%
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 65.20 จุด หลังข้อมูลภาคการผลิตอ่อนแรง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอลงทั้งในอังกฤษและยูโรโซน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 65.20 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 6,557.52 จุด
ตลาดปรับตัวในแดนลบ หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงแตะ 50.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก.ค. และลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.5
นอกจากนี้ ผลสำรวจของมาร์กิตยังแสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษลดลงสู่ระดับ 51.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จาก 52.2 ในเดือนส.ค.
บรรดานักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ภาคการผลิตที่อ่อนแอจะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้ดำเนินมาตรการมากขึ้นเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของภูมิภาค
หุ้นเจ เซนส์เบอรี่ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทคาดว่ายอดขายในร้านที่เปิดดำเนินงานไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี (same store) จะไม่มีการขยายตัวในปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังอิตาลีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากอิตาลีได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมด้านการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง
ดัชนี Stoxx 600 Europe ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 340.22 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,382.03 จุด ลดลง 92.27 จุด หรือ -0.97% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,365.27 จุด ลดลง 50.97 จุด หรือ -1.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,557.52 จุด ลดลง 65.20 จุด หรือ -0.98%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากรัฐบาลอิตาลีคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะหดตัวลง 0.3% ในปีนี้ และคาดว่าจีดีพีในปีหน้าจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะชะลอเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณลงสู่ระดับ 3% ของจีดีพีไปจนกว่าจะถึงปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลดลงแตะ 57.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.ลดลงแตะ 56.6 ในเดือนก.ย. จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค.
หุ้นเซนต์บิวรี ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ อันเนื่องมาจากการแข่งขันในธุรกิจโกรเซอร์รี่ ขณะที่หุ้นออเรนจ์ปรับตัวลง 4.1% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท Bpifrance ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจของรัฐบาลฝรั่งเศส ได้เทขายหุ้นในบริษัทออเรนจ์ จำนวน 50 ล้านหุ้น
หุ้นอาดิดาส ปรับตัวขึ้น 1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นในไตรมาส 4
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์ปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการปรับตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน และจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2631 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6203 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.19 เยน เทียบกับระดับ 109.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9571 ฟรังค์ จาก 0.9548 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8746 ดอลลาร์
สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในภาคเอกชนเมื่อคืนนี้ โดยบริษัทออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ รายงานว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด อันเป็นผลมาจากการจ้างงานที่แข็งแกร่งในภาคการผลิต
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆกลับสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์อยู่บ้าง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 56.6 จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 58.5
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนส.ค.ปรับตัวลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูสำคัญที่จะมีการรายงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เพื่อประเมินภาพรวมเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ
อินโฟเควสท์