- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 02 August 2019 12:34
- Hits: 4118
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หวั่นศก.โลกชะลอตัวมากขึ้นหลัง"ทรัมป์"จะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่ม
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มเก็บวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง โดย WTI ร่วงเกือบ 8% และ Brent ร่วงราว 7% รวมถึงตัวเลขจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ภาคการผลิตของสหรัฐฯก็ออกมาแย่กว่าที่คาด ส่วนของญี่ปุ่น, ยุโรป และจีน ก็หดตัวอยู่ ทำให้ตลาดที่อิงเศรษฐกิจโลกปรับตัวลงมากในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,690 ถัดไป 1,675-1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700-1,705 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,583.42 จุด ร่วงลง 280.85 จุด (-1.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,953.56 จุด ลดลง 26.82 จุด (-0.90%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,111.12 จุด ลดลง 64.30 จุด (-0.79%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 329.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 47.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 615.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 90.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 22.03 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 7.68 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ส.ค.62) 1,699.75 จุด ลดลง 12.22 จุด (-0.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,716.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ส.ค.62) ปิดที่ 53.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.63 ดอลลาร์ หรือ 7.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ส.ค.62) ที่ 7.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.90 อ่อนค่าจากวานนี้ตามภูมิภาค ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้
- "เฟด" หั่นดอกเบี้ย ครั้งแรกรอบเกือบ 11 ปี แต่ส่งสัญญาณ ไม่รีบลดต่อ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง เงินบาทอ่อน "กอบศักดิ์" ห่วงทุนนอกทะลักเข้าไทย ยันรัฐบาลพร้อมหารือธปท. เพื่อติดตามสถานการณ์ ด้าน "นักวิเคราะห์" ห่วงเศรษฐกิจไทยชะลอหนัก เชื่อ กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้
- "ทีเอ็มบี" ลั่นแผนควบ "ธนชาต" ไร้ปัญหา เผยอยู่ระหว่างทยอยอนุมัติแผนดิวดิลิเจนซ์ ยืนยันทุกอย่างจบในเดือนส.ค.นี้ มั่นใจเซ็นสัญญาก่อนปลายเดือน พร้อมเตรียมเรียกประชุม ผู้ถือหุ้นเดือนหน้า
- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2561 มีมูลค่าราว 27,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 10% อย่างไรก็ตาม การจะผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลกได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างกลยุทธ์ระบบนิเวศให้เกิดขึ้นผ่านการสร้างเครือข่าย และเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการกับกลุ่มผู้ซื้อ และกลุ่มอุตสาหกรรมข้างเคียงหรือต่อเนื่อง ให้เกิดเป็นอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์
- ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.ค. 62 อยู่ที่ 103 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.98% และปรับเพิ่มจากเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 0.87% เนื่องจากราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดปรับสูงขึ้นจากผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนจนผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง โดยเฉพาะผักและผลไม้ เนื้อสุกร ข้าวสารเหนียว และข้าวสารเจ้า เป็นต้น เมื่อรวม 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ของปี 62 เงินเฟ้อขยายตัว 0.92%
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร"เป้า 20 บาท ราคาปลาทูน่าเดือน ก.ค. กลับมา +20% M-M อยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามฤดูกาลที่มักปรับขึ้นช่วงนี้ไปจนถึงเดือน ต.ค. เพราะเป็นช่วง Fad Ban (ห้ามจับปลา) เป็นบวกต่อ TU เพราะสต็อกปลาในช่วงก่อนหน้านี้ที่ราคาปรับลงไว้เต็มที่ เป็นบวกต่อ gross margin ของธุรกิจ OEM ตั้งแต่ Q4/62 ถึง Q1/63 ส่วนธุรกิจแบรนด์ ไม่กระทบเพราะสต็อก inventory ไว้ราว 6 เดือน
- KKP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 77 บาท ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับ TISCO (3 เดือนที่ผ่านมา KKP +10% แต่ TISCO+20%) ทั้งที่ให้ Dividend yield ใกล้เคียงกันที่ 6-7% ต่อปี โดยที่ KKP มีปันผลระหว่างกาลขณะที่ TISCO จะจ่ายปันผลครั้งเดียว ณ ตอนสิ้นปี ประกอบกับตัวถ่วงของ KKP ใน Q1/62 คือธุรกิจหลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายปรับตัวขึ้นแล้วจึงไม่น่ากังวล อีกทั้งยังมีรายได้จากงาน IB ขนาดใหญ่หลายรายการ อาทิ ดีลควบรวม TMB + TBANK และ ดีล CRC ทำให้แนวโน้มกำไรน่าจะ Bottom ไปแล้ว
- GUNKUL (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 4.90 บาท จากการเข้าร่วมฟังสัมนา ในงาน "เจาะลึกแผนพีดีพีทิศทางพลังงานไทยภายใต้รัฐบาลใหม่" ฝ่ายวิจัยฯประเมินนโยบายการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมการถือหุ้นโรงไฟฟ้าชุมชน จะเป็นบวกต่อผู้ประกอบการ EPC และขายอุปกรณ์ อย่าง GUNKUL ขณะที่มีข่าวบวกเพิ่มเติมเรื่องงานย้ายสายไฟฟ้าลงดิน กฟน.เปิดประมูลอีก 114.9 กิโลเมตรในปีนี้ ด้าน Consensus คาดกำไร Q2/62 เท่ากับ 282 ล้านบาท (+133% YoY, +25% QoQ)
--อินโฟเควสท์