WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นต่อหลังยืน 1,600 เล็งแรงหนุนจากปัจจัยใน-นอกปท.

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย เนื่องจากตลาดทั่วโลกยังมีโมเมนตัมบวกอยู่ จากที่ดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นต่อเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯที่ประกาศครั้งที่ 3 ได้ออกมาดีขึ้น เป็น 4.6% ดีกว่าครั้งก่อนที่ 4.2% และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯช่วงท้ายเดือนก.ย.ก็ออกมาดีขึ้นด้วย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย

      ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราสามารถยืนเหนือ 1,600 จุดขึ้นมาได้ในช่วงปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำ New High ใหม่ และตลาดฯยังมีปัจจัยหนุนจากการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่น่าจะมีการทยอยประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศออกมา และในวันที่ 2 ต.ค.ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ด้วย ซึ่งก็คาดหวังว่าจะมีการอัดฉีดเงินซื้อตราสารหนี้เพิ่มขึ้น

      อย่างไรก็ดี ช่วงนี้จะต้องรอดูมาตรการสกัดหุ้นร้อนด้วย เพราะอาจจะทำให้ตลาดฯมีความผันผวนได้ในระยะสั้น พร้อมให้แนวรับ 1,591-1,593 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605-1,610 จุด

                ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(26 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,113.15 จุด เพิ่มขึ้น 167.35 จุด (+0.99%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,512.19 จุด เพิ่มขึ้น 45.45 จุด(+1.02%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,982.85 จุด เพิ่มขึ้น 16.86 จุด(+0.86%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 109.17 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 278.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 28.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.39 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.55 จุด

        - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(26 ก.ย.)1,600.16 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด(+0.51%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 201.32 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.ย.57

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(26 ก.ย.)ที่ 93.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.1%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(26 ก.ย.)ที่ 7.01 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 32.35/36 อ่อนค่าต่อเนื่องแต่น้อยกว่าภูมิภาค จับตา Flow สิ้นเดือน

      - คลังชง"สมหมาย"สัปดาห์นี้ เดินหน้าร่างพ.ร.บ. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมเตรียมออกกฎหมายใหม่อีกฉบับ "ร่างพ.ร.บ.การเงินการคลังภาครัฐ" ตีกรอบวินัยการเงินการคลัง ป้องกันรัฐบาลต่อไปสร้างภาระในอนาคต ขณะภาษีมรดก รอกฤษฎีกา ด้านนักวิชาการชี้เก็บอัตราสูงกระทบเอสเอ็มอี

       - นายสมชัย สัจจพงษ์ ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ได้เสนอแนวทางการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ ด้วยการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาแล้ว เบื้องต้นเสนอแนวทางการจัดเก็บไว้ 2 ลักษณะ คือเก็บภาษีอัตรา 10% ของราคาหน้าสลาก และจัดเก็บในอัตรา 5 บาท/ฉบับ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายได้โดยตรงจากการขายสลากทันที

     - "กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์กล่าวถึงการปรับราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ ปี 2559 เฉลี่ยจะขึ้น 20-30% และตามแนวรถไฟฟ้าส่อขึ้น 50% ว่า ผลดังกล่าวจะทำให้ค่าธรรมเนียมการโอนสูงขึ้นจากฐานราคาประเมินของรัฐแต่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าของที่ดิน จะปรับราคาขายให้สูงขึ้น เพื่อชดเชยต้นทุนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่สูงขึ้น เป็นเรื่องยาก เพราะราคาที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปัจจุบัน ถือว่าแพงมากแล้ว

      - นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมจัดทำยุทธศาสตร์ในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ มี 8 ยุทธศาสตร์

      - สนข.เผยปีหน้ามีเม็ดเงิน 6.6 หมื่นล้าน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางบก และมีงบผูกพัน 4-5 ปี อีกกว่า 8.7 แสนล้าน

       - สมาคมโบรกเกอร์เล็งยื่นแนวทางคุมหุ้นร้อน โดยไม่นับเป็นหลักประกัน หรืออาจใช้วิธี เพิ่มหลักประกันหากต้องการเทรด แจงไม่ต้องการออกมาตรการสกัดแรง  หวั่นกระทบหุ้นพื้นฐาน ชี้เหตุหุ้นไอพีโอวิ่งแรงเพราะจำนวนหุ้นน้อย ความต้องการสูงทำให้มีแรงเก็งกำไรมากเกิน คาดเสนอให้ตลาดหลักทรัพย์และเอ็มเอไอเร็วๆ นี้ ประธานสภาธุรกิจ ชี้มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรคำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ

*หุ้นเด่นวันนี้

      - BEC,PTTEP,PTTGC(เคทีบี)"เก็งกำไร"โดยราคาหุ้น BEC ได้แรงหนุนบวกจากการที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาคำสั่ง กสท. ที่ห้ามไม่ให้โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลนำสัญญาณภาพช่อง 3 ระบบอนาล็อกมาออกอากาศในโครงข่าย โดยศาลฯ ให้ออกอากาศต่อไปถึงวันที่ 11 ต.ค.57 และให้คู่กรณีเจรจากันหาข้อสรุปให้กับศาลพิจารณาอีกครั้ง ส่วน PTTEP และ PTTGC แนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อหุ้นสะสมก่อนผลประกอบการงวด 3Q57 จะออกมา โดยคาดว่าผลประกอบการหลักยังคงแข็งแกร่ง พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 56 (high range), 204 และ 81.90 บาท ตามลำดับ

      - กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง(ฟินันเซีย ไซรัส)"เก็งกำไร"การลงทุนภาครัฐกำลังเริ่มต้น โดยวันที่ 30 ก.ย. นี้ รถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงินลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาท จะเปิดให้ผู้รับเหมา 31 ราย ยื่นซองเสนอราคา และคาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนธ.ค.14 หรือช่วงต้นปี 2015 นอกจากนี้ การเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ 1 แสนล้านบาทที่ค้างจากงบประมาณปี 14 และการเบิกจ่ายไตรมาสแรกของงบประมาณปี 15 น่าจะช่วยให้มีการลงทุนงานก่อสร้างมากขึ้นในช่วง 4Q14 โดย Top pick ของกลุ่ม CK ราคาเป้าหมาย 30 บาท

      - AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.20 บาท เชื่อว่าราคาหุ้น AAV มีโอกาสตอบรับเชิงบวก หากการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันอังคาร/พุธนี้ เกี่ยวข้องกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมคาดผลประกอบการ 3Q57 พลิกกลับเป็นกำไร จาก 2Q57 ที่ขาดทุนสุทธิ จากจำนวนผู้โดยสารที่เริ่มฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังปัจจัยการการเมืองคลายตัว และอานิสงค์ของการยกเว้นค่าวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน และไต้หวัน โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 ที่ 1,671 ล้านบาท +240% yoy เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มสายการบิน และราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่บวกขึ้นเช้านี้ ขานรับจีดีพีสหรัฐสดใส

     ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันเศรษฐกิจสหรัฐก็ส่งสัญญาณดีขึ้น

     ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 142.01 จุด เมื่อเวลา 9.06 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,339.03 จุด เพิ่มขึ้น 109.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,399.51 จุด ลดลง 278.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,018.46 จุด เพิ่มขึ้น 28.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,035.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,290.82 จุด ลดลง 1.39 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,841.05 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด

     ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 4.6% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 โดยจีดีพีล่าสุดได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ 4.2% และพลิกกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัว 2.1%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 9.68 จุด ก่อนสภาโหวตหนุนโจมตีทางกาศกลุ่ม IS

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) ขณะที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากอังกฤษมีกำหนดลงคะแนนเสียงว่าจะเข้าร่วมในการทำสงครามต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) หรือไม่ในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตลาดการเงินปิดทำการไปแล้ว

      ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 9.68 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,649.39 จุด ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 2.8% เนื่องจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษเตรียมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

        นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เรียกร้องให้รัฐสภาอนุมัติแผนการของรัฐบาลอังกฤษในการเข้าร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในอิรัก

      นอกจากนี้ นายคาเมรอนยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันของนานาชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านข่าวกรองในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส

      ทั้งนี้ หลังจากอภิปรายกันอยู่นานเกือบ 7 ชั่วโมง สภาสามัญ หรือสภาล่างของอังกฤษจึงได้มีมติเห็นชอบในปฏิบัติการทางทหารของรัฐบาลต่อกลุ่มไอเอส โดยในการลงมติครั้งนี้ นายคาเมรอนได้เสียงสนับสนุนจากพันธมิตรจากพรรคเสรีประชาธิปไตย รวมถึงพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคแรงงาน ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่เขาพ่ายแพ้ในการโหวตแผนโจมตีซีเรีย เนื่องจากขาดฉันทามติ

      หุ้นอีซีเจ็ทบวก 3.19% เป็นแกนนำหุ้นบวกในหุ้นกลุ่มบลูชิป หุ้นเซนต์ เจมส์ เพลส บวก 2.78% หุ้นบริติช แลนด์ บวก 2.10% และหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ บวก 1.66%

      หุ้นแอดไมรัล กรุ๊ป เป็นแกนนำหุ้นลบ โดยหุ้นแอดไมรัล กรุ๊ป ร่วงลง 3.06% ตามด้วยสปอร์ต ไดเร็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ลดลง 2.67% หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ลดลง 1.78% หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป ลบ 1.78% และหุ้นไอเอ็มไอลบ 1.66%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังถูกเทขายหนักวันก่อน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) โดยเป็นการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสี่สัปดาห์ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจไตรมาสสองของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2554

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดขึ้น 0.39% ปิดที่ 342.3 จุด สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.8% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูโรโซน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลาง

      ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 9.68 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,649.39 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 39.47 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 4,394.75 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 19.46 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 9,490.55 จุด โดยดัชนี DAX เป็นดัชนีใหญ่เพียงดัชนีเดียวในภูมิภาคที่ปิดท้ายสัปดาห์ในแดนลบ

     กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 4.6% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 โดยจีดีพีล่าสุดได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ 4.2% และพลิกกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัว 2.1%

      นอกจากตัวเลขจีดีพีแล้ว ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนก.ย.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน เพิ่มขึ้นแตะระดับ 84.6 ในเดือนก.ย. จาก 82.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

      สำหรับ ในอังกฤษนั้น สมาชิกสภานิติบัญญัติเตรียมลงมติว่าจะสนับสนุนแผนการของรัฐบาลในการส่งทหารอังกฤษไปร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการทางทหารอาจเริ่มต้นภายในไม่กี่วัน หากข้อเสนอของรัฐบาลได้รับการรับรองของสภา

     ทั้งนี้ ตลาดการเงินอังกฤษและในยุโรปปิดทำการก่อนรับทราบผลการลงมติของรัฐสภาอังกฤษ

      หุ้นโททาลบวก 2.3% หลังมีรายงานว่าบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรปอาจขายหุ้นในแหล่งน้ำมันตาฮิติของอ่าวเม็กซิโก หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป ลดลง 1.7% หลังบอร์ดบริหารของสายการบินเรียกร้องให้นักบินยุติการผละงานประท้วง พร้อมระบุว่าข้อเรียกร้องของนักบินไม่เป็นไปตามโมเดลธุรกิจโลว์-คอสต์ที่ทางบริษัทดำเนินการอยู่

       หุ้นเจ เซนส์บิวรี ร่วง 3.1% โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยนีลเส็นเผยให้เห็นว่า ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทปรับตัวลดลง 1% จากปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคอังกฤษโดยรวมที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศนั้น ลดลง 1.6%

      ทั้งนี้ หุ้นบริษัทค้าปลีกปรับตัวลดลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม 19 กลุ่มในดัชนี Stoxx Europe 600

      หุ้นอลิอันซ์ร่วง 6.2% ในตลาดหุ้นเยอรมนี และกดดันให้ดัชนี DAX เป็นดัชนีเดียวในบรรดาดัชนีหลักของตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดลบเมื่อวันศุกร์ หลังจากแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของอลิอันซ์ ประกาศว่าบิล กรอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปร่วมงานกับจานัส แคปิตอล กรุ๊ป

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 167.35 จุด รับจีดีพี, ผลประกอบการสดใส

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (26 ก.ย.) หลังจากถูกเทขายอย่างหนักที่สุดในรอบเกือบสองเดือนในการซื้อขายวันก่อน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน รวมถึงผลประกอบการภาคเอกชน

      ดัชนีเ ฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้น 167.35 จุด หรือ 0.99% ที่ระดับ 17,113.15 ดัชนี S&P 500 บวก 16.86 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 1,982.85 ดัชนี Nasdaq พุ่ง 45.45 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 4,512.19 จุด

      อย่างไรก็ตาม แม้ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่เมื่อรวมทั้งสัปดาห์ดัชนีหุ้นทั้งสามดัชนีในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวลดลง โดยดาวโจนส์ร่วง 1.0% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง 1.4% และ 1.5% ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดสำหรับทั้งสามดัชนีนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 1 ส.ค.

      กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 4.6% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 โดยจีดีพีล่าสุดได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ 4.2% และพลิกกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัว 2.1%

     การปรับตัวเพิ่มขึ้นของจีดีพีไตรมาสสองมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจากการใช้จ่ายผู้บริโภค การส่งออก และการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน เป็นต้น

     นอกจากตัวเลขจีดีพีแล้ว ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนก.ย.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน เพิ่มขึ้นแตะระดับ 84.6 ในเดือนก.ย. จาก 82.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

     ในส่วนของข้อมูลภาคธุรกิจนั้น หุ้นแอปเปิ้ลดีดขึ้น 2.94% มาปิดการซื้อขายที่ 100.75 ดอลลาร์ โดยเป็นการฟื้นตัวจากที่ดิ่งลงถึงเกือบ 4% วันก่อน เนื่องจากแอปเปิ้ลออกมาชี้แจง หลังมีเสียงบ่นเกี่ยวกับการบิดงอของโทรศัพท์ iPhone 6 Plus ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้

      หุ้นจานัส แคปิตอล กรุ๊ป ทะยาน 43.02% ปิดที่ 15.89 ดอลลาร์ หลังบริษัทประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า บิล กรอส นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดัง จะเข้าร่วมงานกับจานัส แคปิตอล โดยกรอสได้ออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนที่แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ ซึ่งเขาร่วมก่อตั้งเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว

    หุ้นไนกี้พุ่ง 12% ปิดที่ 89.50 ดอลลาร์ หลังบริษัทเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!