WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SETภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ได้เล็กน้อยคล้ายภูมิภาค เล็งทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯ-รอดูจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล
 
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นรีบาวด์ได้เล็กน้อย คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้รีบาวด์กันเล็กน้อยหลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลงแรงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่วันนี้เรื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯก็ยังไม่ได้เลวร้ายลง ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยขณะนี้รอเพียงการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.
 
ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯด้วย
 
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างสูงจากสถิติที่ผ่านมาในไตรมาส 1 ซึ่งก็จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 0.6%
 
พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,516.83 จุด เพิ่มขึ้น 14.51 จุด (+0.06%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,798.36 จุด ลดลง 2.35 จุด (-0.08%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,637.54 จุด ลดลง 5.13 จุด (-0.07%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 197.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 14.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 154.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.33 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 29.67 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.28 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 มี.ค.62) 1,625.91 จุด ลดลง 20.38 จุด (-1.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,634.84 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มี.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 มี.ค.62) ปิดที่ 58.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.4%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 มี.ค.62) ที่ 4.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.55/56 มองกรอบวันนี้ 31.50-31.65 ตลาดรอติดตามการจับขั้วรัฐบาลหลังเลือกตั้ง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดีอี เผยปี 61 คนไทยระวังการใช้จ่ายเพราะมองเศรษฐกิจไม่ดีนัก พึ่งหนี้นอกระบบ 2.4% ระบุความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 0.246% ขอรัฐบาลใหม่รอบคอบนโยบายขึ้นเงินเดือน ชี้ไม่ควรขยับข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ แต่หากขึ้นต้องเพิ่มจัดเก็บแวต 7% ด้วย
 
- กฟผ.ลุยเปิดประมูลหาผู้นำเข้าแอลเอ็นจี เผย 18 เม.ย. ให้เอกชนยื่นเสนอราคาก่อนประกาศผลพร้อมส่งบอร์ดพิจารณา พ.ค.นี้ ด้านไทยออยล์ยันไม่กู้เงินลงทุนโครงการพลังงานสะอาด แย้มหาพันธมิตรพัฒนาแนฟทาเพิ่มมูลค่าในปีนี้ "ศิริ" ปลื้มความพร้อมพลังงานไทยดีขึ้น
 
- สศค.ชี้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อเนื่อง แม้หลังเลือกตั้งการจัดตั้งรัฐบาลไม่แน่นอน ขณะที่ "เจ้าสัวบุญชัย" แนะรัฐบาลใหม่ล้างหนี้ครัวเรือน ฟื้นกำลังซื้อ ส่วนภาคเอกชนท่องเที่ยวไม่สนพรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาลแต่ขอความ "สงบ" กลับคืนมา
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- EA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 65 บาท ไม่ถูกกระทบจากการเมือง กำไรจะโดดเด่นตั้งแต่ Q1/62 หลังโรงไฟฟ้าลม 260MW ทยอย COD ปลาย ม.ค. และลมเมื่อต้นปีแรงกว่าปกติเพราะมีมรสุม ด้านโครงการแบตเตอรี่เฟสแรก 1Gwh โรงไฟฟ้าโซลาร์ที่เวียดนามและเมียนมา และ Green biodiesel เป็นไปตามแผน คาดหนุนกำไรปี 2562-2564 โตเฉลี่ย 26%
 
- BJC (เคทีบี) "ซื้อ"จะได้ประโยชน์จากนโยบายประชานิยมที่มีอยู่ในทุกพรรด ซึ่งจะหนุนการจับจ่ายใช้สอย/การบริโภคในปีนี้ และปัจจุบันเทรด PE ปีนี้ 26x ต่ำกว่า 34 เท่าของค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาและ EV/EBITA 15 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีก 17 เท่า ถือว่าไม่แพงและมี upside จากเป้าพื้นฐานที่ 62 บาท พร้อมคาดกำไรปีนี้จะโต +9.8% yoy อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท จากคาดว่า SSSG ของ BIGC จะเติบโตที่ 3% และการขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่อง คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย จำนวน 7 สาขา ตลาดต่างประเทศซึ่งจะจับตลาด CLMV ที่มีการเติบโตสูงคือ กัมพูชา 1 สาขาและขยาย มินิ บิ๊กซี 200 สาขา รวมถึงมีการเปิด BIGC Food Place 1 แห่ง
 
- SVI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.20 บาท คาดกำไร Q1/62 -18.5% Q-Q เป็น 185 ล้านบาท สะดุดเพราะบาทแข็ง ไตรมาสก่อนเร่งขายไปมาก และกัมพูชาขาดทุนต่อเนื่อง ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ทั้งปี aggressive โต 24-32% จากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ขยายโรงงานที่สโลวาเกียเพิ่ม 50% และตั้งเป้ากัมพูชาคุ้มทุนภายใน 2Q62 ซึ่งจะทำให้กำไรทยอยฟื้นตั้งแต่ Q2/62 คาดรายได้ทั้งปี +7.2% กำไร +6.6% เป็น 829 ล้านบาท ด้าน PE ปัจจุบันเพียง 13x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 14.4x
 
--อินโฟเควสท์ 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!